ตามเทรนด์ Healthcare โลก เชื่อมโยงระบบสุขภาพ ด้วยการวัดผลลัพธ์ทุกมิติ

21 พ.ย. 2567 | 10:45 น.
อัปเดตล่าสุด :21 พ.ย. 2567 | 11:35 น.

BDMS เปิดเวทีประชุมวิชาการทางการแพทย์ระดับสากล เสนอแนวคิดการดูแลผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง ตามเทรนด์อุตสาหกรรมเฮลท์แคร์ของโลก เชื่อมโยงการดูแลสุขภาพแบบมีคุณค่า

บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS ในฐานะผู้ให้บริการด้านสุขภาพและการแพทย์แบบครบวงจร ร่วมกับ ICHOM ในการนำแนวคิดการดูแลสุขภาพเชิงคุณค่า (Value-Based Healthcare) มาใช้ โดยแนวคิดดังกล่าวเกิดจากปัญหาที่ทรัพยากรด้านการแพทย์ทั่วโลกมีจำกัด ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่กลับได้ผลลัพธ์ด้านสุขภาพไม่ดีเท่าที่ควร ปัญหานี้เกิดขึ้นทั่วโลกทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอเชีย

ผู้บรรยายได้เน้นถึงความจำเป็นที่ระบบสุขภาพทั่วโลก ที่จะต้องเปลี่ยนจากการวัดผลแบบเดิม ที่มุ่งเน้นกระบวนการซึ่งไม่สามารถตอบสนองความต้องการด้านสุขภาพของผู้ป่วยได้อย่างครบถ้วน เช่น การดูแลสุขภาพจิตควบคู่ไปกับการดูแลสุขภาพกาย ไปสู่การชี้วัดที่เน้นผลลัพธ์ของผู้ป่วยเป็นหลัก ด้วยการมุ่งปรับปรุงทั้งผลลัพธ์ทางคลินิกและผลลัพธ์ที่ผู้ป่วยรายงานเอง ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพชีวิตและการทำงาน

ICHOM ทำงานร่วมกับผู้ป่วย ชุมชนของผู้ป่วย นักวิจัย และแพทย์ ในการระบุขอบเขตการดูแลที่มีความสำคัญต่อผู้ป่วย การใช้แนวทางที่มุ่งเน้นผู้ป่วยนี้ช่วยให้การพัฒนาเครื่องมือวัดผลลัพธ์ของ ICHOM สอดคล้องกับความต้องการของชุมชนที่ให้บริการมากยิ่งขึ้น โดย ICHOM ได้พัฒนาวิธีการวัดผลลัพธ์ที่ครอบคลุมหลายมิติของสุขภาพตั้งแต่โรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน ไปจนถึงการดูแลผู้สูงวัยการวัดผลลัพธ์เหล่านี้สามารถนำไปใช้ในบริบทต่าง ๆ ได้ เช่น การตัดสินใจทางคลินิก การวิจัย และการพัฒนา เป็นต้น

ตามเทรนด์ Healthcare โลก เชื่อมโยงระบบสุขภาพ ด้วยการวัดผลลัพธ์ทุกมิติ

ตลอด 15 ปีที่ผ่านมา ICHOM ได้พัฒนาชุดการวัดผลลัพธ์ที่มุ่งเน้นโรคจำนวน 46 เซ็ต ครอบคลุม 60% ของภาระการรักษาโรคจากทั่วโลกข้อมูลเหล่านี้สามารถเข้าถึงได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้งเครื่องมือสำหรับดำเนินการกับข้อมูล และตัวแปรในกลุ่มผู้ป่วย นอกจากนี้ ICHOM ยังได้พัฒนาการใช้งานร่วมกันของข้อมูลดิจิทัล ด้วยการทำชุดแผนที่ของตนไปยังคำศัพท์ทางการแพทย์ที่เป็นมาตรฐาน เพื่ออำนวยความสะดวกกับระบบบันทึกรายงานสุขภาพทางอิเล็กทรอนิกส์และแพลตฟอร์มเทคโนโลยีอื่น ๆ

การทำงานของ ICHOM ได้รับการนำไปใช้ในระดับสากลโดยมีโรงพยาบาล และระบบสุขภาพกว่า 500 แห่งทั่วโลกที่นำชุดผลลัพธ์มาตรฐานของ ICHOM ไปใช้งานแล้ว ล้วนแสดงให้เห็นถึงการปรับปรุงประสิทธิภาพ ผลลัพธ์ทางคลินิกและความคุ้มค่าในการใช้จ่ายของระบบสุขภาพ รวมทั้งการวิจัย และนวัตกรรมการรักษา ตัวอย่างสำคัญ ได้แก่ โรงพยาบาลในเม็กซิโกที่ลดค่าใช้จ่ายของผู้ป่วยลงได้ถึง 80% ในระยะเวลา 5 ปี ขณะเดียวกันก็ปรับปรุงผลลัพธ์ทางคลินิก รวมถึงการลดความเครียดจากโรคเบาหวานลง 50% 

ทั้งนี้ BDMS โดยโรงพยาบาลในเครือฯ ได้ดำเนินการด้าน Value-Based Healthcare ไปแล้ว โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา นำแนวคิดการดูแลสุขภาพเชิงคุณค่ามาใช้ในปี 2564 และได้ผลลัพท์เป็นอย่างดี โดยผลลัพธ์สุขภาพนั้น ครอบคลุมตั้งแต่การป้องกัน การตรวจวินิจฉัย การมีภาวะแทรกซ้อน การฟื้นตัวเร็วและสมบูรณ์ การกลับมาเป็นซ้ำ ทำให้โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยาเป็นโรงพยาบาลแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองจาก ICHOM ในกลุ่มโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ (Coronary Artery Disease)
และโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) แสดงถึงการปฏิบัติที่มีคุณภาพสูงและเป็นไปตามมาตรฐานระดับโลก เน้นการดูแลแบบมุ่งเน้นผลลัพธ์ที่สำคัญสำหรับผู้ป่วย โดยใช้การวัดผลที่ครอบคลุมเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่ดีที่สุด และสามารถฟื้นตัวกลับไปใช้ชีวิตปกติได้อย่างมีคุณภาพ

ตามเทรนด์ Healthcare โลก เชื่อมโยงระบบสุขภาพ ด้วยการวัดผลลัพธ์ทุกมิติ

ความสำเร็จนี้ได้รับการต่อยอด โดยในปี 2567 โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยาได้รับการรับรอง ICHOM ระดับ 1 ในอีกสองกลุ่มโรคสำคัญ ได้แก่ โรคหัวใจล้มเหลว (Heart Failure) และโรคเบาหวาน (Diabetes) ซึ่งเป็นกลุ่มโรคที่ผู้ป่วยต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง การได้รับรองดังกล่าวนี้ ตอกย้ำถึงความทุ่มเทของโรงพยาบาลในการพัฒนาระบบการรักษาที่ครอบคลุมและยั่งยืน เพื่อมอบคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าให้แก่ผู้ป่วยทุกคน ผลประโยชน์ที่ได้จากการทำ Value-Based Healthcare ส่งผลดีต่อทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วย ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่น้อยลง คุ้มค่ามากขึ้นและผลการรักษาที่ดีขึ้น ส่วนโรงพยาบาล ก็ได้รับความพึงพอใจจากผู้ป่วยมากขึ้น และการดูแลรักษามีประสิทธิผลดีขึ้น 

นอกจากนั้น บริษัทประกันหรือผู้จ่ายเงินก็ควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดี และลดอัตราการเสี่ยง สุดท้ายสังคมก็จะมีค่าใช้จ่ายทางด้านสุขภาพลดลง ในขณะที่เพิ่มคุณภาพด้านสุขภาพของประชาชน