จากกรณที่ TRUE บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และ DTAC หรือ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นศึกษาความเป็นไปได้ และดำเนินขั้นต้นที่เกี่ยวข้องกับการควบรวมบริษัทกัน ภายใต้โครงสร้างจำนวนหุ้นบริษัทใหม่ที่ 138,102 ล้านหุ้น แบ่งเป็นการแปลงหุ้น DTAC เดิม สัดส่วน 1 หุ้น DTAC : 24.53775 หุ้นในบริษัทใหม่ และ 1 หุ้น TRUE เดิม สัดส่วน 1 TRUE : 2.40072 หุ้นในบริษัทใหม่
ภายใต้สัดส่วนดังกล่าว หลังรวมผู้ถือหุ้น DTAC และ TRUE จะถือหุ้นในบริษัทใหม่ สัดส่วน 42.1% และ 57.9% โดยการควบรวมจะเกิดขึ้นหลังจากดำเนินตามข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมดสำเร็จ ทั้งนี้ผู้ถือหุ้นใหญ่ทั้ง 2 กลุ่ม คือ Telenor และกลุ่ม CP จะจัดตั้งบริษัทร่วมทุนใหม่ "บริษัท ซิทริน โกลบอล จำกัด ( Citrine Global) " เพื่อทำคำเสนอซื้อโดยสมัครใจจาก DTAC และ TRUE ที่ราคาหุ้นละ 47.76 และ 5.09 บาท
อย่างไรก็ตามการก้าวเข้าสู่ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ ของ TRUE จุดเริ่มต้นเป็นอย่างไรนั้น “ฐานเศรษฐกิจ” พามาย้อนไทม์ไลน์ รายละเอียดดังนี้
ก่อนที่ TRUE ลงทุนธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ TRUE ได้สัมปทานโทรศัพท์บ้านจำนวน 2.6 ล้านเลขหมายในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จาก องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย (ปัจจุบันควบรวมกับ CAT เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) รวมทั้งให้บริการโทรศัพท์มือถือพกพา WE PCT (ยุติบริการแล้ว)
หลังจากได้พันธมิตรรายใหม่ TRUE ปักธงธุรกิจเข้าประมูลคลื่นความถี่จาก กสทช. ต่อเนื่องปัจจุบันมีคลื่นให้บริการดังนี้
รวมคลื่นที่ ทรูมูฟ เอช ถือครองอยู่จำนวนทั้งสิ้น 940 MHz
หมายเหตุ: ยังไม่รวมเช่าใช้คลื่นความถี่จากบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT
ส่วน DTAC ก่อนหน้านี้ตระกูลเบญจรงคกุล เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ หลังจากนั้นได้ขายหุ้นให้ เทเลนอร์ มูลค่ากว่า 9.2 พันล้านบาท ปัจจุบัน TELENOR ASIA PTE LTD ถือหุ้นจำนวน 1,086,052,874 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 45.87%.