ดินเนอร์มื้อพิเศษแบบฉบับเชฟ ทิม บัตเลอร์ @ เดอะ เภรี โฮเต็ล เขาใหญ่

บรรยากาศชิลล์ๆแบบนี้ การได้มาสัมผัสลมเย็นๆความเขียวขจีของธรรมชาติและภูเขา ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ต้องนี่เลย The Peri Hotel Khao Yai (เดอะ เภรี โฮเต็ล เขาใหญ่)

 

 

โรงแรมที่ไม่ได้มีดีแค่ดีไซน์เก๋ จากแรงบันดาลใจจากนวนิยายเรื่อง “Out of Africa” ของ Karen Blixen นักเขียนชาวเดนมาร์ก ด้วยการผสมผสานกันอย่างลงตัวของลวดลายชนเผ่าและลายสัตว์ทั้งรีสอร์ทเท่านั้น

ประสบการณ์ไดนิ่งของที่นี่ก็มีเอกลักษณ์ไม่แพ้ใคร นอกจากดื่มด่ำกับห้องอาหารซิกเนเจอร์ ‘ชาวบ้าน’ กับเมนูอาหารรสชาติต้นรับตำฉบับพื้นเมือง

ทั้งอีกไฮไลท์คือ Winter Yard Garden ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศ outdoor อากาศชิลๆ และเมนู grilled แล้ว

การคลีเอดมื้อดินเนอร์สุดพิเศษ ยังรังสรรค์ให้ค่ำคืนนี้กลายเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ เมื่อล่าสุดเดอะ เภรี โฮเต็ล เขาใหญ่ โรงแรมบูติกในเครือ Standard International ได้จับมือกับเชฟชื่อดังระดับโลก เชฟ ทิม บัตเลอร์ จากร้านอาหาร Eat Me

ในการเดินทางมารังสรรค์มื้อเย็น 7 คอร์สสุดพิเศษให้เราได้ลิ้มลองที่ห้องอาหารชาวบ้าน ร้านอาหารคอนเซ็ปท์  E-sarn Soul Cafe ของโรงแรมฯ เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2566

เมนูอาหาร 7 คอร์สนี้เป็นการสรรค์สร้างที่เชฟทิม ต้องการจะบอกเล่าเรื่องราวของรสชาติอาหารไทย ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากห้องอาหารชาวบ้าน ที่ถูกผสมผสานกับอาหารสไตล์บาร์บีคิวอเมริกันที่ทางเชฟทิมเลือกมาให้เข้ากับกลิ่นอายของโรงแรมฯ

โดยเชฟทิมได้เลือกใช้วัตถุดิบเด่นจากท้องถิ่น อย่างเช่น มะเขือเทศ และข้าวโพดมาปรุงกับวัตถุดิบต่างถิ่น อย่างเช่น หมูดำไอเบอริโก หมูสัญชาติสเปนที่ชื่อว่าเป็นแฮมที่แพงที่สุดในโลก 

เมนูพิเศษของเชฟทิม จะเริ่มต้นด้วยเมนูเรียกน้ำย่อย 

• Local Heirloom Tomato Salad ซึ่งมีส่วนประกอบจากใบชาทางภาคเหนือของประเทศไทย 

ทานแล้วชื่นใจเปรี้ยวนิดๆจากมะเขือเทศหลากสี เผ็ดหน่อยๆจากสมุนไพร ทานพร้อมใบชา เข้ากันดีกับเนื้อปูสดเด้ง ไข่ปลาแซลมอน แตกโป๊ะในปากมีความเค็ม  จับคู่กับสปาร์ค คลิ้งไวน์ Cava Vilarnau, Noche Y Dia Brut Nature, NV เพิ่มความสดชื่นขึ้นไปอีก

• Grilled Corn Soup

ประสบการณ์ใหม่ในการทานซุปข้าวโพด ซึ่งในแต่ละคำมีหลายเทคเจอร์ ทั้งจากหอยลาย แหนม ขนมปังกรอบ เซอร์ไพรซ์มากกับแหนมเปรี้ยวเผ็ดเข้ากันดีกับซุปข้าวโพดหวานละมุน  หอยลายเคี้ยวหนึบหนับ เอาใจคนชอบเผ็ดมากด้วยพริกแห้งที่ถูกหั่นเป็นชิ้นเล็กๆอยู่ในซุป เสิร์ฟพร้อมไวน์ขาว Kumeu River Village Chardonnay, 2022
ลงตัวสุดๆ

ต่อกันที่เมนูจานหลักที่เชฟทิมจัดเต็มถึง 4 จาน โดยมีไวน์แดง Chateau Massereau Graves, 2011 เป็นตัวชูรส ไม่ว่าจะเป็น

• Smoked Tripe Congee

พาสต้าที่ไม่ได้มาเป็นเส้น แต่หน้าตาของริโซนีพาสต้า จะคล้ายเม็ดข้าว นำมาตุ๋นกับ
กะเพาะหมู แลดูคล้ายโจ๊ก เติมชีสและความเผ็ดที่น่าจะมาจากน้ำพริกเผา

• Roasted Hamachi Collar เสิร์ฟพร้อมกับน้ำพริก 

คางปลาฮามาจิ รมควัน ที่พลิกหนังออกมาแล้วทานเนื้อปลานุ่มมากๆคู่กับน้ำพริกหนุ่ม ให้รสชาติเข้มข้นขึ้น

• Grilled Bone Marrow & Oxtail Curry

ไขกระดูกวัว ให้รสสัมผัสจุ้ยซี่ หอมกลิ่นรมควัน ตุ๋นด้วยหางวัว ผสมเครื่องเทศรสเผ็ดจัดจ้าน

• "Charred Iberico Pluma" 

มาแล้วเมนูที่รังสรรค์จากหมูดำไอเบริโก (Iberico) ซึ่งเป็นสายพันธุ์หมูที่เลี้ยงในแถบคาบสมุทรไอบีเรีย (Iberia) ซึ่งเป็นคาบสมุทรในส่วนของประเทศสเปนและโปรตุเกส  หรือที่เราเรียกกันว่าหมูสเปน ขึ้นชื่อว่าเป็นเนื้อหมูที่มีรสชาติยอดเยี่ยมที่สุด เพราะว่าต้องใช้เวลายาวนานกว่า 4-5 ปีในการเลี้ยงดู เและยังขึ้นชื่อว่าเป็นแฮมที่แพงที่สุดในโลก

เมนูนี้เชฟทิมนำหมูดำมากริลล์ ทำออกมาในแบบมีเดียม เวล เกือบจะสุก หน้าตาออกจะคล้ายเนื้อ แต่เป็นหมู ทานคู่กับซอส romesco หรือซอสมะเขือเทศแบบหนึ่ง ที่มีต้นกำเนิดจากภูมิภาคกัมดาตาราโกนาในแคว้นกาตาลุญญา ประเทศสเปน เข้ากันมากกับความนุ่มของหมูดำสเปน และความหอมของโรสแมรี่ และน้ำมันมะกอก 

ปิดท้ายด้วยเมนูของหวาน Green Tea Crema ที่ใช้วัตถุดิบจากข้าวโพดซัลซ่าจากปากช่อง 

ขนมหวานเนื้อละมุน เข้ากันดีกับชาเขียวเสิร์ฟพร้อมไวน์ Bera Moscato d'Asti, 2020 หวานอร่อยลงตัว

เมนูมื้อพิเศษนี้สนทราคาอยู่ที่ 2,800 บาท ซึ่งตลอดมื้ออาหารจะมีการเสิร์ฟ น้ำแร่อิตาเลียน Aqua Panna และน้ำแร่อิตาเลียนมีฟอง S.Pellgrino  

สำหรับนักดื่มไวน์ เมนู wine pairing ในแต่ละเมนูอาหารนี้ได้รับจากแนะนำจากจาก"อ๊อตทาร่า ไพน์" หัวหน้าซอมเมอร์ลิเยร์ จาก Ojo Bar โรงแรม เดอะ สแตนดาร์ด กรุงเทพฯ เพิ่มรสสัมผัสที่ละมุนและลงตัวอย่างเพอร์เฟค  

โปรไฟล์ของเชฟทิม ไม่ธรรมดาเลย โดยเชฟทิม บัตเลอร์ ชาวอเมริกันเริ่มสั่งสมประสบการณ์ในการทำอาหารร้านอาหารชื่อดังทั้งในประเทศบ้านเกิดและต่างประเทศมากมาย เชฟทิมได้ย้ายมาสู่กรุงเทพฯ ประเทศไทยในปี 2009 และดูแลห้องอาหาร Eat Me ในฐานะหัวหน้าพ่อครัวใหญ่ 

เชฟทิมสำเร็จการศึกษาเกี่ยวด้านการปรุงอาหารจากสถาบัน Culinary Institute  of America ในปี 1998 และมีประสบการณ์หัวหน้าการทำงานในร้านขนมอบ Aquavit ในมหานครนิวยอร์ค จนได้รับตำแหน่งเชฟระดับดาว ในวัยเพียง 21 ปี 

ด้วยความสามารถและประสบการณ์เฉพาะทางของเชฟทิม ซึ่งทำให้เชฟมีส่วนร่วมในการเปิดร้าน Providence ซึ่งได้รับการยกกย่องว่าเป็นหนึ่งในร้านที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในนครลองแองเจอลิส และดำรงตำแหน่งเชฟขนมอบที่ร้าน Bernardus Lodge และร้านอาหาร Restaurant Daniel Bouloud ที่นิวยอร์ค 

นอกจากนี้เชฟทิมได้เขียนตำราทำอาหารและทำธุรกิจเกี่ยวกับร้านอาหาร และที่ปรึกษาทางด้านร้านอาหารอีกด้วย

ขณะที่ "อ๊อตทาร่า ไพน์"ก็เป็นชาวอเมริกันเริ่มต้นการทำงานผู้จัดการบาร์ในร้านอาหาร Ethan Stowell และโฟกัสที่แอลกอฮอล์อิตาเลี่ยน ที่ซีแอตเติ้ล สหรัฐอเมริกา ในปี 2016 และสั่งสมประสบการณ์เทางด้านผู้จำหน่ายไวน์ที่ Owen Cotlers Selections และเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านไวน์ตั้งแต่เริ่มต้นการปลูกองุ่นจนไปถึงการจัดจำหน่ายที่ Kelly Kidneigh Wines ณ นคร ซีแอตเติ้ล 

อ๊อตทาร่าได้ย้ายมาทำงานด้วยตำแหน่งซอมเมอร์ลิเย่ร์ที่ร้านอาหาร Gaggan ที่ประเทศไทยในปี 2019 ซึ่งรังสรรค์เมนูเครื่องดื่มและโปรแกรมค๊อกเทล เสิร์ฟพร้อมกับอาหารไฟน์ไดน์ 25 คอร์ส ซึ่งได้ร่วมมือกับเชฟกักกัน อนันต์ 

ด้วยประสบการณ์ด้านทางไวน์ 5 ปีและร้านอาหาร 11 ปีที่วอชิงตัน ดี ซี ,พอรต์แลนด์, ย่างกุ้งและกรุงเทพฯ ปัจจุบันคุณอ๊อตทาร่าทำหน้าที่หัวหน้าซอมเมอร์ลิเยร์ จาก Ojo Bar โรงแรม เดอะ สแตนดาร์ด กรุงเทพฯ ซึ่งได้รับรางวัลรูฟท็อปบาร์และร้านอาหาร

ค่ำคืนนี้บอกได้เลยว่าผู้ที่หลงใหลและชื่นชอบการรับประทานอาหารอย่างมีรสนิยม น่าจะโดนใจสุดๆ