ตามแผนงาน เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย จะขยับบทบาทให้ซับแบรนด์อย่าง Mercedes Maybach อัครยานยนต์หรูที่สุดของค่าย และมุ่งหน้าสู่รถพลังงานไฟฟ้า 100% EV แบรนด์ EQ โดยแบรนด์แรกของการทำตลาดยุคใหม่พร้อมเปิดตัว Mercedes Maybach GLS 600 ในเดือนพฤศจิกายนนี้ และปีหน้าจะตามด้วย Mercedes Maybach S-Class พร้อมแต่งตั้งเอ็กซ์คลูซีฟดีลเลอร์ 4 รายเข้ามาดูแลการขายและบริการหลังการขาย ประกอบด้วย บีเคเค ทีทีซี ไพรม์มัส และสตาร์แฟลก ซึ่งแต่ละรายต่างลงทุนตกแต่งโชว์รูมเพิ่มเติมตามข้อกำหนดของบริษัทแม่
ยกเว้น ทีทีซี มอเตอร์ ที่ถือโอกาสลงทุนรีโนเวทโชว์รูมสาขาพัฒนาการ 45 ครั้งใหญ่ ตาม Corporate Identity ใหม่ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ คือ MAR2020 พร้อมรองรับการขายรถทุกโมเดล ทั้ง รถทั่วไป และ Mercedes-AMG, Mercedes Maybach และ Mercedes-EQ ที่จะเริ่มทำตลาดต้นปี 2565 กับ EQS รุ่นประกอบในประเทศเป็นโมเดลแรก
นายอัครินทร์ ตั้งทวีสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการบริษัท ทีทีซี มอเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่ทีทีซี มอเตอร์ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหนึ่งในผู้จำหน่ายรถยนต์ Maybach อย่างเป็นทางการ เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทีทีซีได้เริ่มดำเนินการปรับปรุงโชว์รูม และศูนย์บริการ สาขาพัฒนาการ 45 พร้อมขานรับกลยุทธ์เพิ่มประสิทธิภาพการขายของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ด้วยบริการที่เป็นดิจิทัลมากขึ้น และรองรับยนตรกรรมระดับลักชัวรี่ เมอร์เซเดส-มายบัค ที่พร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในตลาดประเทศไทยในปลายปีนี้
“การปรับปรุงโชว์รูม และ ศูนย์บริการของทีทีซีในครั้งนี้ เพื่อให้สอดรับกับการสร้างแพลตฟอร์มการสื่อสาร เพื่อสื่อภาพลักษณ์ความเป็นแบรนด์ลักชัวรี่ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ให้ตอบรับกับความต้องการของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น และสร้างความยั่งยืนทางธุรกิจของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในระยะยาว ซึ่งเราเป็นผู้จำหน่ายจึงต้องเดินตามนโยบายของบริษัทแม่ เพื่อก้าวต่อไปที่แข็งแกร่ง มั่นคง และยั่งยืน” นายอัครินทร์ กล่าวสรุป
ในส่วนรถพลังงานไฟฟ้า 100% ภายใต้แบรนด์ Mercedes EQ ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย จะนำเข้าแฟลกชิปโมเดล EQS มาอวดโฉมก่อนช่วงปลายปีนี้ และเตรียมประกาศรายชื่อ 4 เอ็กซ์คลูซีฟดีลเลอร์ที่ได้สิทธิ์ขายและบริการหลังการขาย ซึ่งประกอบด้วย 3 รายเดิมที่ได้ดูแล Mercedes Maybach อยู่แล้ว คือ บีเคเค ทีทีซี ไพรม์มัส และอีกรายที่สอดแทรกเข้ามาคือ เบนซ์ พระราม3 ที่เพอร์ฟอร์แมนซ์ดี และผ่านหลักเกณฑ์ตามที่บริษัทแม่กำหนด
สำหรับ บริษัท เบนซ์พระราม 3 จำกัด ก่อตั้งโดยนายง้วน แซ่ลิ้ม เดิมประกอบธุรกิจซื้อ-ขายรถยนต์มือ 2 อยู่บนถนนพระราม 4 ภายใต้ชื่อ “ห้างหุ้นส่วนจำกัด ซุ่นหลีบริการ” และเข้ามาเป็นดีลเลอร์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในปี 2536 ปัจจุบันเป็นผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ 4 แบรนด์ มีโชว์รูม-ศูนย์บริการมาตรฐานรวมทั้งสิ้น 7 แห่ง ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล
ทั้งนี้ ซับแบรนด์อย่าง Mercedes EQ รถพลังงานไฟฟ้า 100% ที่เตรียมขึ้นไลน์ประกอบในเมืองไทยต้นปีหน้า ที่โรงงานธนบุรีประกอบรถยนต์ สำโรง จ.สมุทรปราการ กับ EQS เป็นรุ่นแรกและตามแผนจะมีรุ่นอื่นๆ ตามมาในอนาคต ขณะที่ Mercedes Maybach มีกระแสข่าวว่าพร้อมขึ้นไลน์ผลิตที่โรงงานแห่งนี้เช่นกัน ซึ่งนายใหญ่ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย “โรลันด์ โฟล์เกอร์” ไม่ได้ปฎิเสธข่าวนี้ และให้ความเห็นว่า การประกอบรถยนต์รุ่นใหม่ในไทย ขึ้นอยู่กับความต้องการของตลาด
นายโรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ยังเปิดเผยว่า สัญญาณต่างๆ ในไตรมาสสุดท้ายเริ่มดีขึ้น ทั้งการที่รัฐบาลแสดงความชัดเจนถึงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ รวมถึงยอดจองรถใหม่เพิ่มขึ้น และการที่ดีลเลอร์สั่งรถเข้ามาในสต๊อกอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าไตรมาสที่ 4 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดสำหรับการขายรถเมอร์เซเดส-เบนซ์
“ยอดขาย เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เป็นไปตามเป้าหมาย และทำได้ตามที่สัญญาไว้กับบริษัทแม่ ที่สำคัญคือสถานการณ์ตอนนี้ดีลเลอร์มีกำไร เพราะไม่ต้องอัดแคมเปญแรงๆ เพื่อแข่งขันหรือตัดราคากันเอง ซึ่งเรามั่นใจว่าปี 2564 จะครองแชมป์เซ็กเมนต์รถยนต์พรีเมี่ยมของเมืองไทยได้แน่นอน” นายโฟล์เกอร์ กล่าว
ขณะที่คู่แข่ง บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย รายงานว่า ช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ยอดจดทะเบียนรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูและมินิ อยู่ที่ 8,600 คัน แบ่งเป็น “บีเอ็มดับเบิลยู” 7,759 คัน “มินิ” 841 คัน ส่งผลให้บีเอ็มดับเบิลยูยังครองตำแหน่งผู้นำในตลาดรถยนต์นั่งระดับพรีเมียม ด้วยส่วนแบ่งการตลาดที่ 41.3%
ส่วนยอดจดทะเบียนรถใหม่ป้ายแดง ของกรมการขนส่งทางบก 9 เดือนที่ผ่านมา (รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง) ของเมอร์เซเดส- เบนซ์ มียอดทั้งสิ้น 7,768 คัน