ตลาดบิ๊กไบค์ปีนี้คึกคักและดุเดือด หลายค่ายแห่เปิดตัวรถรุ่นใหม่พร้อมอัดโปรโมชันแคมเปญอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดค่าย BMW หรือ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย ก็เปิดตัวมอเตอร์ไซค์ระดับตำนานในตระกูล GS กับบีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS (Sport Edition)ที่มาพร้อมราคาค่าตัว 489,000 บาท
นาย มิเกล ญาเบรส-โปห์ล ผู้อำนวยการ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และผู้นำเข้าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า ในปีนี้ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ประเทศไทย เดินหน้ายกระดับประสบการณ์และความสนุกในแบบ GS ด้วยการเปิดตัวมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS (Sport Edition)
สำหรับ บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS (Sport Edition) ผสานเอกลักษณ์ของมอเตอร์ไซค์แบบทัวริ่งเข้ากับสมรรถนะออฟโรด มาพร้อมพละกำลังของเครื่องยนต์สองสูบแถวเรียง ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาด 853 ซีซี ทรงพลังด้วยกำลัง 70 กิโลวัตต์ (95 แรงม้า) ที่ 8,250 รอบต่อนาที และแรงบิด 92 นิวตันเมตรที่ 6,250 รอบต่อนาที พร้อมระบบควบคุมไอเสียแบบ Closed-Loop ชนิด 3 ทาง Catalytic Converter
เฟรมโครงสร้างได้รับการพัฒนาให้แข็งแกร่ง เสริมประสิทธิภาพของระบบกันสะเทือนด้วยโช้คหัวกลับและสวิงอาร์มคู่อะลูมิเนียม พร้อมโหมดการขับขี่มาตรฐาน ‘Rain’ และ ‘Road’ ให้ผู้ขับขี่ผจญภัยได้ในทุกสภาพถนน
นอกจากนั้นยังมาพร้อมกับ Riding Modes Pro ที่เพิ่มโหมดการขับขี่ ‘Dynamic’, ‘Enduro’ และ ‘Enduro Pro’ พร้อมเทคโนโลยีทันสมัย อาทิ Dynamic ESA, Dynamic Traction Control (DTC), Keyless Ride และ ABS Pro
บีเอ็มดับเบิลยู F 850 GS (Sport Edition) มาในสี Pollux Metallic Matte แบบ exclusive พร้อมอุปกรณ์ตกแต่งของแท้จากบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ว่าจะเป็นท่อไอเสียแบบสปอร์ต HP Akrapovic แบบ Slip-On สีดำผลิตจากวัสดุไทเทเนียม มาพร้อมการ์ดกันความร้อนแบบคาร์บอนไฟเบอร์ที่ช่วยให้เสียงท่อมีความหนักแน่น
ท่อคุณภาพสูงแบบ Slip-On รุ่นนี้มีน้ำหนักเบาลงจากรุ่นเดิมถึง 2.3 กิโลกรัม ระบบช่วยเปลี่ยนเกียร์ Gear Shift Assistant Pro ช่วยให้เปลี่ยนเกียร์ขึ้นและลงได้โดยไม่ต้องกำคลัตช์
นอกจากนั้นชุดแครชบาร์สแตนเลสสตีล ช่วยป้องกันความชำรุดเสียหายที่อาจเกิดกับฝาครอบเครื่องยนต์หากรถล้ม ส่วนกระจกบังลมขนาดใหญ่ยังช่วยป้องกันลมและอากาศที่มาปะทะผู้ขับขี่
กล่องสัมภาระแบบอะลูมิเนียมกันน้ำ มีความจุ 32 ลิตร และเบาะรองหลังที่เสริมเข้ามาบนกล่องท้ายรถมอเตอร์ไซค์ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการนั่งให้กับผู้โดยสาร ส่วนไฟเลี้ยว LED ออกแบบมาอย่างสวยงาม สะท้อนให้เห็นถึงดีไซน์ที่เพรียวบางและเทคโนโลยีไฟส่องสว่างที่ทันสมัย ไฟชุดดังกล่าวสามารถตอบสนองได้เร็วกว่าหลอดแบบไส้