กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้เปิดเผยข้อมูลจำนวนการผลิต ยอดขายภายในประเทศ และการส่งออกรถยนต์ตั้งแต่เดือนมกราคม - มีนาคม 2565 พร้อมทั้งได้เผยปัจจัยต่างๆทั้งปัจจัยบวก และปัจจัยลบที่มีผลต่ออุตสาหกรรม โดยจะมีอะไรบ้างนั้น วันนี้"ฐานเศรษฐกิจ"รวบรวมมานำเสนอ
ยอดผลิตเพิ่มรับความต้องการตลาดในประเทศ
จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม - มีนาคม 2565 มีจำนวนทั้งสิ้น 480,078 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาร้อยละ 3.06 เมื่อมาดูยอดผลิตรถยนต์เฉพาะในเดือนมีนาคม 2565 พบว่าผลิตได้ทั้งสิ้น 172,671 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2564 ร้อยละ 6.25
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้ยอดผลิตเพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากป้อนตลาดในประเทศ เพื่อรองรับงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ที่จัดขึ้นปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายนและชดเชยวันหยุดยาวในเดือนเมษายนที่รัฐบาลให้จัดงานสงกรานต์ได้ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่จะต้องใช้รถยนต์เดินทางมากขึ้น
อย่างไรก็ตามการผลิตรถยนต์เพื่อการส่งออกยังคงลดลงร้อยละ 11.44 โดยเฉพาะจากการผลิตรถยนต์นั่งที่ลดลงถึงร้อยละ 41.70 เพราะขาดชิ้นส่วนและเซมิคอนดักตอร์ ในบางรุ่น
ยอดขายในประเทศโต แต่ต้องจับตาราคาน้ำมัน-ราคาสินค้าพุ่ง-หนี้ครัวเรือน
ขณะที่ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศ ตั้งแต่เดือนมกราคม - มีนาคม 2565 มียอดขาย 231,189 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ในระยะเวลาเดียวกันร้อยละ 19.09 เฉพาะเดือนมีนาคม 2565 ขายได้ทั้งสิ้น 87,245 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว ร้อยละ 9.1
ยอดขายรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากรัฐบาลคลายการล็อกดาวน์ ทำให้มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากขึ้น การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด 19 การกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งการใช้เงินและส่วนลด ทำให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น กำลังซื้อดีขึ้น รวมทั้งการส่งมอบรถยนต์ให้ผู้จองในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ด้วย
อย่างไรก็ตามยังมีความกังวลเกี่ยวกับการระบาดของโควิด 19 ที่มีคนติดและเสียชีวิตมีจำนานสูงรวมทั้งราคาสินค้าและวัตถุดิบต่างๆ และพลังงานที่สูงขึ้นจากสงครามในยูเครนและหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวได้ จึงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป
ตลาดส่งออกลดลง ขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์
ด้านตลาดส่งออก เดือนมกราคม – มีนาคม 2565 ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 243,124 คัน โดยลดลงจากปี 2564 ในระยะเวลาเดียวกัน ร้อยละ 5.81 แต่มีมูลค่าการส่งออก 144,165.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – มีนาคม 2564 ร้อยละ 0.86
สำหรับเดือนมีนาคม 2565 ส่งออกได้ 93,840 คัน ลดลงจากเดือนมีนาคม 2564 ร้อยละ 10.21 ทั้งนี้เป็นผลมาจากการขาดแคลนชิ้นส่วนและเซมิคอนดักเตอร์ในรถยนต์นั่งบางรุ่น จึงผลิตและส่งออกลดลงในตลาดรถยนต์นั่งเช่นเอเชีย,ออสเตรเลีย,และยุโรป ประกอบกับต้องติดตามการสู้รบในยูเครนอย่างใกล้ชิดต่อไปที่อาจทำให้การขาดแคลนวัตถุดิบ ชิ้นส่วน และเซมิคอนดักเตอร์