ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชน เรื่อง “ประธานสภาผู้แทนราษฎร 2566” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 27-29 มิถุนายน 2566 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับประธานสภาผู้แทนราษฎร 2566
ต่อคำถามถึงลักษณะของผู้ที่จะเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร ผลสำรวจพบว่า ประชาชนร้อยละ 76.72 ระบุว่า สามารถทำงานให้กับทุกพรรคการเมืองด้วยความเป็นกลางได้ รองลงมา ร้อยละ 28.63 ระบุว่า มีประสบการณ์ทำงานในฐานะ ส.ส. หลายสมัย อันดับ3 ร้อยละ 26.34 ระบุว่า ต้องจบกฎหมาย
อันดับ 4 ร้อยละ 24.89 ระบุว่า ต้องเป็นที่ยอมรับของ ส.ส. อันดับ 5 ร้อยละ 16.41 ระบุว่า ต้องมาจากพรรคที่จะเป็นรัฐบาลเท่านั้น อันดับ 6 ร้อยละ 15.95 ระบุว่า ไม่จำเป็นต้องมาจากพรรคเดียวกันกับนายกรัฐมนตรี อันดับ 7 ร้อยละ 15.65 ระบุว่า ไม่จำเป็นต้องมาจากพรรคอันดับหนึ่งในสภาก็ได้
อันดับ 8 ร้อยละ 14.05 ระบุว่า มาจากพรรคที่จะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้านก็ได้ อันดับ 9 ร้อยละ 13.36 ระบุว่า ต้องมาจากพรรคอันดับหนึ่งในสภาเท่านั้น อันดับ 10 ร้อยละ 13.05 ระบุว่า ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ทำงานในฐานะ ส.ส. หลายสมัย
ร้อยละ 10.92 ระบุว่า ไม่จำเป็นต้องจบกฎหมาย ร้อยละ 7.10 ระบุว่า ต้องมาจากพรรคเดียวกันกับนายกรัฐมนตรี ร้อยละ 6.56 ระบุว่า เป็น ส.ส. คนไหนก็ได้ ร้อยละ 2.90 ระบุว่า สามารถผลักดันร่างกฎหมายของพรรคการเมืองที่ตนเองสังกัดได้ และร้อยละ 0.46 ระบุว่า ต้องมาจากพรรคที่จะเป็นฝ่ายค้านเท่านั้น
เมื่อถามถึงความคิดเห็นต่อการตัดสินใจของ ส.ส. ในการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร ประชาชนร้อยละ 52.44 ระบุว่า ส.ส. ควรมีการตกลงกันภายในพรรคของตนเองก่อนลงคะแนนเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร รองลงมา ร้อยละ 47.10 ระบุว่า ควรปล่อยให้ ส.ส. ใช้อิสระในการลงคะแนนเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร และร้อยละ 0.46 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่ทราบ/ไม่สนใจ
ที่มา นิด้าโพล