วันที่ 4 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ประธานกรรมการ ในคณะกรรมการการประปานครหลวง(กปน.) และนายกฤษดา กวีญาณ กรรมการอื่นในคณะกรรมการการประปานครหลวง ได้ยื่นหนังสือถึงนายอนุทิน ชาญวีรกุล รัฐมนตรีกว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อขอลาออกจากการเป็นเป็นประธานกรรมการ กปน.
หนังสือแจ้งการลาออกของนายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อ้างถึง ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการประปานครหลวง ประกาศ ณ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2563 ระบุตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2563 อนุมัติแต่งตั้งข้าพเจ้า นายกฤษดา กวีญาณ เป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการการประปานครหลวง นั้นข้าพเจ้ามีความประสงค์ขอลาออกจากการเป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการการประปานครหลวงคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการฯ ทุกชุดที่คณะกรรมการการประปานครหลวงมีคำสั่งแต่งตั้ง ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน 2566 เป็นต้นไป
ส่วนหนังสือลาออกของนายกฤษดา กวีญาณ ระบุว่า ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน2563 อนุมัติแต่งตั้งข้าพเจ้า นายกฤษดา กวีญาณ เป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการการประปานครหลวง นั้น ข้าพเจ้ามีความประสงค์ขอลาออกจากการเป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการการประปานครหลวง คณะกรรมการและคณะอนุกรรมการฯ ทุกชุดที่คณะกรรมการการประปานครหลวงมีคำสั่งแต่งตั้ง ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2566 เป็นต้นไป
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2566 ที่ผ่านมา บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ได้ยื่นฟ้องนายนิสิต จันทร์สมวงศ์ กับพวกรวม 30 คน ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง กรณีคณะกรรมการพิจารณาการประกวดราคา ได้ร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม ในการเข้าทำสัญญากับการประปานครหลวง (กปน.)โดยการให้ผู้ที่เสนอราคาสูงกว่า เป็นผู้ชนะการประกวดราคาก่อสร้างขยายกำลังการผลิตน้ำที่โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ขนาด 800,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน พร้อมงานที่เกี่ยวข้องสัญญา GE-MS5/6-9 ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding)โดยศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางรับคดีไว้เพื่อตรวจคำฟ้อง ให้นัดฟังคำสั่งหรือคำพิพากษา ในวันที่ 29 ส.ค.2566 เวลา 9.30 น.
อย่างไรก็ตามศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้มีคำสั่งให้เลื่อนนัดฟังคำสั่งหรือพิพากษาไปในวันที่ 19 ต.ค.เวลา 9.30 น. ในคดีที่บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัดเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ประธานกรรมการการประปานครหลวง (กปน.)ที่ 1 กับพวกรวม 30 คน เป็นจำเลยในคดีอาญาหมายเลขดำที่อท 132/2566 ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91,83,151,157,368 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172 พรบ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 11 พรบ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานภาครัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 12 พรบ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 มาตรา 120,121
โดยเอกสารข่าวแจกของศาลอาญาคดีทุจริตฯ มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ศาลนัดฟังคำสั่งวันที่ 29 ส.ค.2566 มีนายอนุฤทธิ์ เกิดสินธ์ชัย กรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนโจทก์ ผู้รับมอบอำนาจโจทก์ และทนายโจทก์ มาศาล
โจทก์แถลงว่า โจทก์ฟ้องคดีต่อศาลปกครองกลางโดยฟ้องการประปานครหลวง,คณะกรรมการฟ้องการประปานครหลวงและคณะกรรมการพิจารณาผล เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-3และศาลปกครองกลางมีคำสั่งเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษา
ลงวันที่ 24 มี.ค.ให้ทุเลาการบังคับตามประกาศการประปานครหลวง ลงวันที่ 7 มี.ค. เรื่องประกาศผู้ชนะการเสนอราคา ประกวดราคาจ้างก่อสร้างงานก่อสร้างขยายกำลังการผลิตน้ำที่โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ ขนาด 8 เเสนลูกบาศก์เมตรต่อวัน พร้อมงานที่เกี่ยวข้อง สัญญา GE-MS5/6-9 ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ที่ประกาศให้ITA Consortium เป็นผู้ชนะการเสนอราคาไว้เป็นการชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเกี่ยวกับความเสียหาย
โจทก์แถลงเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่วันยื่นซองประกวดราคาถึงวันที่ประกาศผลการประกวดราคา โจทก์ก็เสียหายในส่วนค่าดำเนินการ การจัดเตรียมงานต่าง ๆและข้อมูลเอกสารเกี่ยวกับโครงการและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการประมูลงาน จนถึงขั้นตอน ผลการพิจารณาอุทธรณ์ของกรมบัญชีกลาง (บก.) ว่าอุทธรณ์ของโจทก์ฟังขึ้น เพื่อเตรียมการทำงานตามโครงการประมาณ 100 ล้านบาท
ศาลได้ตรวจคำฟ้องและเอกสารท้ายฟ้องโจทก์และรายงานเจ้าพนักงานคดีชั้นตรวจฟ้อง แล้ว เห็นว่าคำฟ้องยังไม่ได้ระบุข้อเท็จจริงรายละเอียดและพฤติการณ์ที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดของจำเลยทั้งสามสิบพร้อมทั้งชี้ช่องพยานหลักฐานให้ชัดเจนเพียงพอที่ จะดำเนินกระบวนพิจารณาไต่สวนข้อเท็จจริงต่อไปได้ ตามมาตรา 15แห่งพระราชบัญญัติ (พรบ.) วิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ. 2559
จึงมีคำสั่งให้โจทก์แก้ฟ้องให้ถูกต้องโดยระบุข้อเท็จจริงและรายละเอียดตัวบุคคล เอกสาร หรือวัตถุตามที่โจทก์กล่าวอ้างว่าจำเลยทั้ง 30 กระทำผิดตามฟ้อง พร้อมเสนอหรือชี้ช่องพยานหลักฐาน ที่จะสนับสนุนข้อเท็จจริงตามฟ้องโจทก์ รวมถึงพยานหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้
1.ให้โจทก์บรรยายฟ้องเพิ่มเติมถึงวัน เวลาที่จำเลยแต่ละคนได้รับแต่งตั้งให้เป็นกรรมการการประปานครหลวง และให้เป็นกรรมการพิจารณาผลประกวดราคาจ้างก่อสร้างงานก่อสร้างขยายกำลังการผลิตน้ำที่โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ ขนาด 8 เเสนลูกบาศก์เมตรต่อวันพร้อมงานที่เกี่ยวข้องกับสัญญา GE-MS5/6-9ด้วยวิธีการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) พร้อมแนบคำสั่งแต่งตั้ง
2.โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสามสิบทำนองว่า ไม่ดำเนินการพิจารณาผลประกวดราคา จ้างก่อสร้างงานก่อสร้างขยายกำลังการผลิตน้ำที่โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ให้ถูกต้องตามวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e- bidding) จึงให้บรรยายฟ้องเพิ่มเติมถึงหลักเกณฑ์ ขั้นตอนการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e -bidding) ที่ถูกต้อง พร้อมทั้งชี้ช่องพยานหลักฐานให้ชัดเจน
3.ให้โจทก์บรรยายฟ้องในข้อ 2โดยเรียงตามลำดับวัน เวลา และบรรยายการกระทำความผิดของจำเลยแต่ละคนในฟ้องข้อที่ 2.2-2.5ให้ชัดเจนว่า จำเลยแต่ละคนกระทำการใดอันเป็นความผิด ผู้ใดเป็นตัวการ และผู้ใดเป็นสนับสนุน และสรุปให้ชัดเจนว่าในแต่ละกรรมจำเลยกระทำความผิดตามกฎหมายใด และมีคำขอท้ายฟ้องให้ถูกต้อง พร้อมทั้งชี้ช่องพยานหลักฐาน ให้ชัดเจน
4.เพื่อมิให้เป็นการฟ้องคดีผิดไปจากบุคคลที่โจทก์ประสงค์ฟ้องคดีนี้ให้โจทก์ส่งสำเนาทะเบียนราษฎร์ของจำเลยทั้งสามสิบให้ครบถ้วน โดยแนบมาพร้อมกับคำฟ้องฉบับที่แก้ไขใหม่ต่อศาล
5.ปัจจุบันโครงการก่อสร้างงานก่อสร้างขยายกำลังการผลิตน้ำที่โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์อยู่ในขั้นตอนใด มีผู้ใดฟ้องคดีต่อศาลใดหรือไม่
เห็นสมควรให้โจทก์แก้ฟ้องให้ถูกต้องภายใน 30วันนับแต่วันนี้ (28 ก.ย.66) หากไม่ดำเนินการในกำหนดเวลา ศาลจะมีคำสั่งตาม พรบ.วิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ. 2559มาตรา 6 วรรคหนึ่ง ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 18 วรรคสอง ต่อไป
เพื่อสะดวกแก่การพิจารณา เห็นควรให้โจทก์ระบุให้ชัดเจนในคำร้องขอแก้ไขฟ้องว่าแก้ไขเพิ่มเติมพ้องไว้ในบรรทัดใดหน้าใด และจัดทำคำฟ้องฉบับสมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 ที่แก้ไขแล้วมายื่นใหม่เพื่อใช้แทนคำฟ้องฉบับเดิมด้วย
เพื่อให้ได้ความชัดแจ้งในข้อเท็จจริงแห่งคดีประกอบการตรวจคำฟ้อง เห็นควรมีหนังสือพร้อมสำเนาคำฟ้องและเอกสารท้ายคำฟ้องถึงกรมบัญชีกลาง และการประปานครหลวงให้ชี้แจงข้อเท็จจริงพร้อมแนบเอกสารที่เกี่ยวข้องภายใน30วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือ ดังนี้
ให้มีหนังสือถึงกรมบัญชีกลางโดยชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้
1.เหตุใดกรมบัญชีกลางต้องเป็นผู้สรุปข้อมูลการเสนอราคาประกวดราคาจ้างก่อสร้างงานก่อสร้างขยายกำลังการผลิตน้ำที่โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ขนาด 8 เเสนลูกบาศก์เมตรต่อวัน พร้อมงานที่เกี่ยวข้องกับสัญญา GE-MS5/6-9 ด้วยวิธีการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์(e-bidding) อาศัยอำนาจตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือข้อบังคับใด
2.ขั้นตอน หลักเกณฑ์ การพิจารณาผลการประกวดราคาจ้างก่อสร้างงานก่อสร้างขยายกำลังการผลิตน้ำที่โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ขนาด 8 เเสน ลูกบาศก์เมตรต่อวัน พร้อมงานที่เกี่ยวข้องกับสัญญา GE-MS5/6-9ด้วยวิธีการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e -bidding)
3.ตามที่คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียน กรมบัญชีกลางเห็นว่า อุทธรณ์ของโจทก์ฟังขึ้น และมีผลต่อการจัดซื้อจัดจ้างอย่างมีนัยสำคัญ จึงให้การประปานครหลวงกลับไปดำเนินการในขั้นตอนการพิจารณาผลการเสนอราคาของผู้ยื่นข้อเสนอให้ถูกต้องต่อไปตามมาตรา 119วรรคสอง แห่ง พรบ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560ตามหนังสือกรมบัญชีกลางด่วนที่สุด ลงวันที่21 เม.ย.2565 นั้น มีความหมายให้การประปานครหลวงดำเนินการอย่างไร และตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น การประปานครหลวงได้ดำเนินการตามที่คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียนกรมบัญชีกลางแจ้งผลหรือไม่อย่างไร
4.ในกรณีที่เอกสารการประกวดราคาไม่ชัดเจน ไม่ครบถ้วน จนเป็นเหตุให้ผู้เข้าประกวดราคายื่นเอกสารประกวดราคาไม่ถูกต้อง ผู้พิจารณาผลประกวดราคาจะต้องดำเนินการอย่างไร มีอำนาจตัดสิทธิผู้เข้าประกวดราคาที่ยื่นเอกสารไม่ถูกต้องอันเนื่องมาจากเอกสารการประกวดราคาไม่ชัดเจน ไม่ครบถ้วนหรือไม่ อย่างไร
5.ในกรณีที่ประกาศประกวดราคา กับเอกสารประกวดราคากำหนดเงื่อนไขในการยื่นเอกสารที่ใช้ในการประกวดราคาแตกต่างกัน ผู้เข้าประกวดราคาและกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาต้องถือตามประกาศประกวดราคาหรือเอกสารประกวดราคา
6.ในกรณีที่มีการอุทธรณ์คำสั่งอันเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างต่อผู้ออกคำสั่งหากผู้ออกคำสั่งเห็นว่า อุทธรณ์ไม่เป็นไปตาม พรบ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ ภาครัฐ พ.ศ. 2560 มาตรา 114,115 เเละ116 ผู้ออกคำสั่งจะไม่ส่งอุทธรณ์ไปยัง คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียน กรมบัญชีกลางได้หรือไม่เพราะเหตุใด และผู้ออกคำสั่งคือการประปานครหลวงหรือผู้ใด
ให้มีหนังสือถึงการประปานครหลวง โดยชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้
1.เหตุใดกรมบัญชีกลางต้องเป็นผู้สรุปข้อมูลการเสนอราคาประกวดราคาจ้างก่อสร้างงานก่อสร้างขยายกำลังการผลิตน้ำที่โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ขนาด8 เเสนลูกบาศก์เมตรต่อวัน พร้อมงานที่เกี่ยวข้องกับสัญญา GE-MS5/6-9ด้วยวิธีการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) มีผลเชื่อมโยงอย่างไรกับกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคา
2.ขั้นตอน หลักเกณฑ์ การพิจารณาผลการประกวดราคาจ้างก่อสร้างงานก่อสร้างขยายกำลังการผลิตน้ำที่โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ขนาด8 เเสนลูกบาศก์เมตรต่อวัน พร้อมงานที่เกี่ยวข้องกับสัญญา GE-MS5/6-9ด้วยวิธีการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding)
3.หากโจทก์ยื่นเอกสารการประกวดราคาไม่ถูกต้องครบถ้วนและยื่นข้อเสนอทางเทคนิคไม่เป็นตามที่ประกาศประกวดราคา มีขั้นตอนการตรวจคุณสมบัติในข้อนี้ในขั้นตอนใด และเหตุใดการประปานครหลวงจึงไม่แจ้งโจทก์ทราบตั้งแต่ครั้งที่จำเลยที่ 16 แจ้งต่อโจทก์ว่าโจทก์ไม่ผ่านการตรวจสอบเพราะคุณสมบัติไม่ครบถ้วนเมื่อวันที่ 1มี.ค.2565
เหตุใดการประปานครหลวง จึงมีหนังสือแจ้งผลการจัดซื้อจัดจ้างแก่โจทก์ตามแบบแจ้งผลการจัดซื้อจัดจ้าง ลงวันที่ 1 มี.ค.2565โดยแจ้งว่า โจทก์ไม่ได้รับการคัดเลือกเนื่องจากไม่ผ่านการตรวจสอบในเรื่องคุณสมบัติไม่ครบถ้วน ไม่เป็นไปตามคุณสมบัติผู้ยื่นข้อเสนอตามที่กำหนดในประกาศประกวดราคา ข้อ 11และเอกสารประกวดราคาจ้างก่อสร้างด้วยการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ ข้อ 2.11 เพียงข้อเดียว
4.ในการพิจารณาผลการประกวดราคาตามฟ้อง เหตุใดการประปานครหลวงจึงต้องให้จำเลยที่ 29,30 ผู้ให้บริการงานจ้างออกแบบสัญญา SD-901(R1)เป็นผู้ตรวจสอบเอกสารยืนยันการใช้เครื่องจักรและอุปกรณ์และแบบฟอร์มข้อมูลแสดงประสิทธิภาพของเครื่องจักรและอุปกรณ์ ภาคผนวก "ซ" และเอกสารทุกภาคผนวกของผู้เข้าประกวดราคา อาศัยอำนาจตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือข้อบังคับใด และมีการพิจารณาคัดเลือกผู้ตรวจสอบอย่างไร
5.การที่จำเลยที่ 18 มีหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงถึงกรมบัญชีกลาง ตามหนังสือการประปานครหลวง ด่วนที่สุด ลงวันที่8 มิ.ย.2565 นั้น เป็นเหตุผลที่แสดงให้เห็นว่าเอกสารการประกวดราคามีความไม่ชัดเจน อันอาจทำให้ผู้เข้าร่วมการประกวดราคาเข้าใจคลาดเคลื่อนได้หรือไม่ อย่างไร
6.เหตุใดการประปานครหลวง ไม่ส่งอุทธรณ์ (ครั้งที่2) ของโจทก์ให้คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียนต่อกรมบัญชีกลาง เป็นผู้พิจารณา แต่กลับมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของโจทก์ คำสั่งไม่มีเหตุผลอันเป็นเหตุแห่งการอุทธรณ์ของจำเลยที่ 17ตามหนังสือ ลงวันที่ 22 มี.ค.66 ก่อนทำคำสั่งดังกล่าวจำเลยที่ 17ได้นำอุทธรณ์ของโจทก์เข้าที่ประชุมหรือมอบหมายให้ผู้ใด เป็นผู้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ข้อกฎหมายและเสนอความเห็น ก่อนมีคำสั่งหรือไม่ อย่างไร และผู้ออกคำสังไม่ส่งอุทธรณ์คือการประปานครหลวงหรือผู้ใด
7.เมื่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียนกรมบัญชีกลาง เห็นว่าอุทธรณ์ของโจทก์ฟังขึ้น และมีหนังสือแจ้งให้การประปานครหลวง "กลับไปดำเนินการในขั้นตอน การพิจารณาผลการเสนอราคาให้ถูกต้องต่อไป" เหตุใดการประปานครหลวงจึงไม่ปฏิบัติตามผล การพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียน กรมบัญชีกลาง ด้วยการดำเนินการในขั้นตอนพิจารณาผลการเสนอราคาฯ ตามหนังสือแจ้งผลการพิจารณาอุทธรณ์ฯ ลงวันที่ 21 เม.ย.2565
8.เหตุใดการประปานครหลวงออกหนังสือ ลงวันที่ 6 มิ.ย.2565 ถึงจำเลยที่ 30ในฐานะกรรมการผู้จัดการจำเลยที่ 29 เรื่องการพิจารณาตรวจสอบเอกสารยื่นข้อเสนอประกวดราคางานก่อสร้างสัญญาGE-MS5/6-9 เพื่อให้จำเลยที่ 29 ตรวจสอบเอกสารผู้ยื่นข้อเสนอประกวดราคาให้ถูกต้อง ครบถ้วน ทุกภาคผนวกใหม่อีกครั้งตามความประสงค์ของ ITA Consortium
ให้เลื่อนไปนัดฟังคำสั่งหรือคำพิพากษาวันที่ 19 ต.ค. เวลา09.30 น.
อนึ่งก่อนหน้านี้สำนักข่าวอิศราได้เคยลงรายละเอียดคำฟ้องของบริษัทวงษ์สยามฯ ไปแล้ว โดยบริษัทวงษ์สยามฯ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มกิจการร่วมค้า ITA Consortiumได้ดำเนินการฟ้องจำเลยที่ 1-28 ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานการประปานครหลวง หน่วยงานของรัฐประเภทรัฐวิสาหกิจ เป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ในการดำเนินการเกี่ยวกับการจัดซื้อ จัดจ้างหรือการบริหารพัสดุ
ได้ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบในการจัดซื้อจัดจ้างหรือการพัสดุเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่การประปานครหลวง โจทก์ รัฐ ผู้อื่นและประชาชน หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการจัดซื้อ จัดจ้างหรือการบริหารพัสดุโดยทุจริต และเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยทุจริต
เนื่องจากในการเปิดประกวดราคาจ้างก่อสร้างงานก่อสร้างขยายกำลังการผลิตน้ำที่โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ขนาด 800,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน พร้อมงานที่เกี่ยวข้องกับสัญญา GE-MS5/6-9 ด้วยวิธีการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ของการประปานครหลวง (กปน.) นั้น
ปรากฏว่า โจทก์เป็นผู้ยื่นเสนอราคาต่ำสุดในจำนวนผู้เสนอราคาทั้งสิ้น 5 ราย ดังนี้
แต่จำเลยที่ 16 และจำเลยที่ 19 ถึงจำเลยที่ 23 กับพวก พิจารณาตัดคุณสมบัติของบริษัทโจทก์ โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ด้วยการแจ้งผลการจัดซื้อจัดจ้างแก่โจทก์ว่า โจทก์ไม่ได้รับการคัดเลือกเนื่องจากไม่ผ่านการตรวจสอบ เพราะคุณสมบัติไม่ครบถ้วน โดยแจ้งว่าโจทก์มีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามคุณสมบัติผู้ยื่นข้อเสนอตามที่กำหนดในการประกาศประกวดราคา