วันนี้(13ก.ย.66) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตั้งโต๊ะแถลงรายละเอียดการตรวจสอบ "ธุรกิจกำนันนก" หรือ นายประวีณ จันทร์คล้าย ที่มีการทำธุรกิจในเครือข่ายหลายธุรกิจเข้าเสนอและรับงานจากหน่วยงานของรัฐหลายกระทรวงในพื้นที่หลายจังหวัด ซึ่งดีเอสไอพบว่า มีการประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ผลิต และจำหน่ายยางแอสฟัลท์ติกคอนกรีต ก่อสร้างอาคารที่ไม่ใช่ที่พักอาศัย มีมูลค่าหลายพันล้านบาท
รายงานข่าวจากดีเอสไอ เปิดเผยว่า สัปดาห์หน้าจะมีการออกหมายเรียก 29 บริษัท ที่ยื่นซื้อซองประมูลงานโครงการเดียวกับบริษัทของกำนันนก แต่ไม่ร่วมประมูล เข้ามาให้ข้อมูลกับดีเอสไอ
ข้อมูลจาก ดีเอสไอพบสถิติโครงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐของบริษัทกำนันนกที่ทำกับ 7 หน่วยงานภาครัฐ รวม 12 ปี คือ ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2554 - 2566 โดยเรียงตามลำดับของวงเงินงบประมาณโครงการ พบข้อมูล ดังนี้
1. กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น รวม 1,206 โครงการ
2. กรมทางหลวง รวม 110 โครงการ
3.กรมทางหลวงชนบท รวม 153 โครงการ
4. กรมการปกครอง รวม 71 โครงการ
5. กองทัพอากาศ 2 โครงการ
6. สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา 1 โครงการ
7. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1 โครงการ
ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ ผอ.กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ(กคร.) หรือ "กองคดีฮั้วประมูล” กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า ได้รับมอบหมายให้ตรวจสอบข้อมูลในฐานข้อมูลของ กคร. เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ผลการตรวจสอบพบว่า เครือข่ายกำนันนก มีเครือข่ายธุรกิจที่เข้าไปรับงานจัดซื้อจัดจ้างจากหน่วยงานภาครัฐตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 จนถึงปัจจุบัน รวม 1,544 โครงการ ในวงเงินงบประมาณ 7,579,402,078.72 บาท และวงเงินทำสัญญารวม 6,964,815,249.47 บาท
โดยแบ่งเป็น 2 บริษัท คือ
มีมูลค่าวงเงินสัญญาตั้งแต่ 30 ล้านบาทขึ้นไป รวม 20 โครงการ แบ่งเป็น
และพบว่าในจำนวน 20 โครงการนี้ พบว่าข้อมูลที่มีเหตุอันควรสงสงสัยจะมีการได้เข้าทำสัญญากับภาครัฐโดยไม่โปร่งใส มีลักษณะอันอาจเข้าข่ายตกลงร่วมกันในการเสนอราคาเพื่อมีวัตถุประสงค์เข้าทำสัญญากับรัฐโดยหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม หรือโดยกีดกันไม่ให้มีการเสนอราคาอันมิใช่เป็นการประกอบธุรกิจปกติ ประกอบไปด้วย
"อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงมีคำสั่งให้ทำการสืบสวน และอยู่ระหว่างการดำเนินสืบสวน"
ร.ต.อ.สุรวุฒิ ขอแจ้งประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่า ได้มีบุคคลที่ไม่ประสงค์จะแจ้งตัวตนได้แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับพฤติการณ์ของเครือข่ายบุคคลที่เกี่ยวข้องมาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการขยายผลการดำเนินคดีกับเครือข่ายได้เป็นอย่างดี และขอให้ บุคคลบริษัท/ห้างหุ้นส่วนจำกัด ที่ได้รับหรือเคยได้รับผลกระทบจากการกระทำที่เกี่ยวข้องกับการข่มขู่ คุกคาม หรือกีดกัน ไม่ให้เข้าร่วมการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐอย่างเป็นธรรม จากนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก และเครือข่าย ขอให้แจ้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยเร็ว ทั้งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษจะพิจารณาในเรื่องการคุ้มครองพยานตามมาตรการคุ้มครองพยาน เพื่อกวาดล้างขบวนการ