ผู้สูงอายุคือโจทย์ใหญ่ภาระและความท้าทายใหม่ของรัฐบาลไทย

11 ธ.ค. 2566 | 03:20 น.
อัปเดตล่าสุด :11 ธ.ค. 2566 | 03:26 น.

“กนก” เผยสังคมไทยวันนี้มีผู้สูงอายุประมาณ 12-13 ล้านคน ในปี 2567 และจำนวนผู้สูงอายุจะเพิ่มขึ้นปีละประมาณ 1 ล้านคน จ่ายเดือนละ 1,000 บาท จะต้องใช้เงิน 156,000 ล้านต่อปี

ประเทศไทยได้ก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ จำนวนผู้สูงอายุมีตัวเลขเพิ่มขึ้นตามลำดับ ต่อเรื่องนี้ นายกนก วงษ์ตระหง่าน รองประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมุนษย์  ได้โพสด์ข้อความว่า ผู้สูงอายุคือภาระและความท้าทายใหม่ของรัฐบาลไทย สังคมไทยวันนี้มีผู้สูงอายุประมาณ 12-13 ล้านคน และจำนวนผู้สูงอายุจะเพิ่มขึ้นปีละประมาณ 1 ล้านคน    ถ้ารัฐบาลจ่ายเงินสวัสดิการทั่วหน้าให้ผู้สูงอายุเดือนละ 1,000 บาท จะต้องใช้งบประมาณ 144,000 ล้านต่อปี(สำหรับผู้สูงอายุ 12 ล้านคน) ถ้าเงินสวัสดิการผู้สูงอายุเพิ่มเป็นเดือนละ 3,000 บาท จะต้องใช้งบประมาณ 432,000 ล้านต่อปี

 

ในปี 2567 จำนวนผู้สูงอายุจะมี 13 ล้านคน จะต้องใช้เงิน 156,000 ล้านต่อปี(กรณีจ่ายสวัสดิการเดือนละ 1,000 บาท) และจะต้องใช้เงิน 468,000 ล้านต่อปี (กรณีจ่ายสวัสดิการเดือนละ 3,000บาท)

และในปี 2570 จะมีผู้สูงอายุประมาณ 16 ล้านคน จะต้องใช้เงินสวัสดิการผู้สูงอายุปีละ 192,000 ล้านบาท(เดือนละ1,000บาท) และ 576,000 ล้านบาท(เดือนละ3,000บาท)

เงินสวัสดิการผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ เป็นโจทย์ท้าทายที่สำคัญ คือ เศรษฐกิจประเทศจะเติบโต และรัฐบาลจะเก็บภาษีได้มากพอที่จะจ่ายสวัสดิการนี้ได้อย่างไร ถ้าจะให้รัฐบาลกู้ทุกปีมาจ่ายสวัสดิการผู้สูงอายุเช่นนี้ คงจะไม่มีใครให้กู้อย่างแน่นอน

ทั้งหมดของความเป็นจริงที่มองเห็นในอนาคตนี้ ประเด็นที่ท้าทายสำคัญ คือคนรุ่นใหม่(ปัจจุบันอายุ 20-25 ปี) จะเพิ่มสมรรถนะและขีดความสามารถของตนเองที่จะสร้างรายได้ให้ประเทศเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้โต และรัฐบาลเก็บภาษีได้มากพอที่จะรับภาระสวัสดิการผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ได้อย่างไร

ภาระความรับผิดชอบของคนรุ่นใหม่หนักจริงๆ.