เครนล้มย่านอ่อนนุช “พิพัฒน์” มอบประกันสังคม-เยียวยาผู้บาดเจ็บ 6 ราย

03 ก.ค. 2567 | 06:19 น.

“พิพัฒน์” มอบประกันสังคม-เยียวยาผู้บาดเจ็บเสียชีวิต หลังเกิดเหตุเครนก่อสร้างล้มในไซต์งาน ย่านอ่อนนุช 86 พบผู้บาดเจ็บ 4 ตาย 2

เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2567 เวลา 13.56 น. (ที่ผ่านมา) ได้เกิดเหตุการณ์เครนก่อสร้างสูง 20 เมตร ถล่มทับคนงานภายในไซต์งานก่อสร้างอ่อนนุช 86 เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย และผู้เสียชีวิต 2 ราย นั้น

 

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มีความห่วงใยลูกจ้างที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พร้อมแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้สั่งการให้สำนักงานประกันสังคม เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้ความช่วยเหลือโดยทันที

 

นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ได้สั่งการให้ นายสราวุธ สุขสวรรค์ ผู้อำนวยการสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 8 พร้อมมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยทันที

 

 พบว่า จุดเกิดเหตุเป็นบริเวณไซต์งานก่อสร้างโครงการกำจัดมูลฝอยด้วยวิธีการเผาไหม้เพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้าศูนย์กำจัดมูลฝอยซอยอ่อนนุช 86 แขวงประเวศ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร พบเครนล้มทับรถปูนและอาคารสำนักงานฯ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย 
 

และผู้เสียชีวิต 2 ราย ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการประสบอันตรายเนื่องจากการทำงาน จะได้รับความคุ้มครองจากกองทุนเงินทดแทน โดยผู้บาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลสิรินธร มีรายชื่อดังนี้  


          1. นายรุ่ง ผันเนตร           
          2. นายอิทธิพล ว่องวิการณ์
          3. นายภีรวิช เซี่ยงฉิน      
          4. นายธานัท ฉลานุวัฒน์  

 

โดยผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 4 ราย จะได้รับสิทธิค่ารักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็น ตามอัตราที่กฎหมายกำหนด ค่าทดแทนกรณีหยุดงาน 70% ของค่าจ้างรายเดือน ไม่เกิน 1 ปี 
 

ในส่วนของผู้เสียชีวิต จำนวน 2 ราย 
รายที่ 1 นายสุนันท์ สุทธิวิลัย อายุ 47 ปี โดยทายาทของผู้เสียชีวิตจะได้รับเงินค่าทำศพ 50,000 บาท เงินทดแทนกรณีเสียชีวิต เป็นเงิน 1,680,000 บาท และเงินบำเหน็จชราภาพ จำนวน 157,427.76 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,887,427.76 บาท

เครนล้มย่านอ่อนนุช “พิพัฒน์” มอบประกันสังคม-เยียวยาผู้บาดเจ็บ 6 ราย

รายที่ 2 นายสมนึก ดาวจันทร์ อายุ 54 ปี โดยทายาทของผู้เสียชีวิตจะได้รับเงินค่าทำศพ 50,000 บาท เงินทดแทนกรณีเสียชีวิต เป็นเงิน 1,201,200 บาท และเงินบำเหน็จชราภาพ จำนวน 114,196.15 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,365,396.15 บาท

 

ทั้งนี้สำนักงานประกันสังคม พร้อมดูแลสิทธิประโยชน์ ให้ลูกจ้าง รวมถึงทายาทผู้เสียชีวิตให้ได้รับสิทธิประโยชน์จากกองทุนเงินทดแทนอย่างครบถ้วนและทันท่วงที