ครม. งดเก็บค่าไฟ ก.ย. ลด 30% ต.ค. ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม

24 ก.ย. 2567 | 09:35 น.
อัพเดตล่าสุด :24 ก.ย. 2567 | 09:39 น.

ครม. อนุมัติมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม "เหนือ-อีสาน" งดเก็บค่าไฟฟ้าเดือนกันยายน พร้อมลด 30% ในเดือนตุลาคมให้ประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย

24 กันยายน 2567 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ เรื่องของมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

กรณีค่าไฟฟ้าในเดือนกันยายน ถึงเดือนตุลาคม 2567 โดยที่เดือนกันยายน จะไม่เรียกเก็บค่าไฟฟ้าและในเดือนตุลาคมจะให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าร้อยละ 30 โดยกำหนดให้เป็นส่วนลดก่อนการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม

นางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรีกล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันนี้ที่ประชุม ครม. ยังได้อนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เรื่องของมาตรการพักชำระหนี้ให้กับลูกหนี้รายย่อยตามนโยบายรัฐบาลระยะที่ 2 และระยะที่ 3

ครม. งดเก็บค่าไฟ ก.ย. ลด 30% ต.ค. ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม

การพัฒนาศักยภาพเพื่อฟื้นฟูลูกหนี้ ธกส. เพื่อให้เกษตรกรผู้เข้าร่วมมาตรการดังกล่าว ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง โดยระยะที่ 2 ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2567 – 30 กันยายน 2568 ระยะที่ 3 1 ตุลาคม 2568 – 30 กันยายน 2569

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า จากการเปิดรับฟังความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร จึงได้สั่งการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงคณะอนุกรรมการ คอส. และ ศปช. ดำเนินการศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการใช้แอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" ในสถานการณ์ฉุกเฉิน จากเหตุการณ์อุทกภัยในครั้งนี้ เพื่อใช้สำหรับการรายงานตัวของอาสาสมัคร เพื่อแบ่งหน้าที่ และความรับผิดชอบ และใช้ในการรายงานเหตุการณ์ฉุกเฉิน

ครม. งดเก็บค่าไฟ ก.ย. ลด 30% ต.ค. ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม

ได้รับคำแนะนำมาว่า การรายงานตัวของอาสาสมัครเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน มีการรายงานซ้ำซ้อน ทำให้เสียเวลา และเตรียมจะใช้แอปพลิเคชันดังกล่าวในการลงทะเบียนรับเงินเยียวยา และการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ให้เกิดการบูรณาการกัน เพื่อให้เกิดความรวดเร็วในส่วนของภาครัฐ ภาคประชาชน

รวมถึงเร่งรัดให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย หรือ ปภ. เร่งดำเนินการใช้ระบบเตือนภัยฉุกเฉิน หรือ Cell Broadcast Service เพื่อให้การเตือนภัยให้ประชาชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

ส่วนข้อซักถามของสื่อมวลชนว่า ในอนาคตที่จะใช้แอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" ในการจ่ายเงินเยียวยา และเช็คสิทธิต่าง ๆ ประชาชนควรโหลดแอปฯ ดังกล่าวเก็บไว้หรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เรื่องนี้ได้เคยประชาสัมพันธ์ โครงการดิจิทัลวอลเล็ตแล้ว ว่าให้โหลดแอปฯ ดังกล่าวไว้ เพราะนอกจากการลงทะเบียนและชื่อยังเป็นการต่อยอดเพื่ออำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเยียวยา รวมถึงเรื่องอื่น ๆ

รัฐบาลพยายามพัฒนาระบบนี้ เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงข้อมูลถึงประชาชนโดยตรง ให้ได้มากที่สุด เวลาที่เราจ่ายเงินเพื่อความรวดเร็วในเวลาที่รัฐบาลต้องจ่ายเงินเยียวยาก็จะรวดเร็วขึ้น จึงขอให้ประชาชนโหลดแอปฯ ดังกล่าวไว้ และลงทะเบียนใส่ข้อมูลสำคัญให้ครบถ้วน