นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทไทยสมายล์บัส หรือ TSB เปิดเผยว่า สำหรับการจัดงาน TSB เพื่อโลก เพื่อสังคม ในธีม Collaboration Partnership for Sustainable นั้น
นางสาวกุลพรภัสร์ กล่าวต่อว่า เป็นการประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันของกลุ่มพันธมิตร ภาครัฐ ภาคเอกชน เพื่อร่วมกันพัฒนาระบบขนส่งมวลชนสาธารณะพลังงานสะอาด ทั้งทางบกและทางน้ำในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล 6 จังหวัด ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีการลงทุนประมาณ 50 ล้านบาท
ทั้งนี้การจับมือพันธมิตรดังกล่าวจะเพิ่มดัชนีการท่องเที่ยวให้แก่ประเทศไทยได้แบบยั่งยืน ซึ่งการจะผลักดันโครงข่ายการเดินทางให้เกิดขึ้นได้จริง จะต้องมี Ecosystem ระบบนิเวศที่ดี บริษัทจึงได้ร่วมกับพันธมิตรหลากหลายแบรนด์ดัง เพื่อมอบสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม จูงใจให้เกิดการเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะมากยิ่งขึ้น
สำหรับตัวอย่างของสิทธิประโยชน์ที่ผู้ให้บริการจะได้รับเพิ่มเติม ถูกวางไว้หลายมิติ เช่น การหาซื้อบัตรโดยสารได้ง่ายขึ้น ผ่าน Tops Daily หลายร้อยสาขาทั่วกรุงเทพฯ, Villa Market 29 สาขา, ห้าง Riverside Plaza, ห้างสรรพสินค้า ICONSIAM ไปจนถึงมิติไลฟ์สไตล์ ที่จะมอบส่วนลดเพิ่มเติมไม่ว่าจะเป็น TRUE ลูกค้าทรู ลดทันที 100 บาท
อย่างไรก็ดีเมื่อซื้อบัตรโดยสารท่องเที่ยว จะได้รับส่วนลด 10% ในรูปแบบบัตร HOP Card ปกติ แบรนด์เสื้อผ้าชั้นนำของคนไทย ยืดเปล่า Yuedpao, ร้านอาหารสมใจฟาร์ม ฟาร์มเกษตรอินทรีย์ปลอดสารเคมี ลด 25%, ลานกางเต็นท์ เจมส์ 500 ซิตี้แคมป์ ลด 25%
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมบอร์ดเกม ลานละเล่น ลด 20% และส่วนลดอาร์ตทอยในร้าน BAM BAM TOYS เป็นต้น ตั้งเป้าหมายผลักดันยอดผู้ใช้งานบัตร HOP Card จากปัจจุบันที่ราว 60,000 คน/วัน ให้ขยายตัวแตะระดับ 100,000 คน/วัน คิดเป็นอัตราเฉลี่ย 25% ของผู้เดินทางที่ใช้รถโดยสารพลังงานไฟฟ้าเครือ ไทย สมายล์ บัส
ขณะเดียวกัน ไทยสมายล์บัส ได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ในการสร้างการรับรู้ เช่น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สนับสนุนการให้ข้อมูลการท่องเที่ยวทางน้ำผ่านเรือโดยสารไฟฟ้า ไทย สมายล์ โบ้ท, การร่วมกับ ศูนย์กิจการสร้างสุข (SOOK) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ จัดกิจกรรมส่งเสริมให้เยาวชน รู้ทันภัย.. สร้างความปลอดภัยในชีวิตและรณรงค์เด็กไทยขึ้น รถขนส่งสาธารณะไฟฟ้า
อย่างไรก็ตามไทยสมายล์บัสยังได้เปิดตัวบัตรโดยสารรูปแบบใหม่ HOP Travelling Card ที่มาในคอนเซ็ป One Card One Price Around BKK ที่จะเป็นมิติใหม่ของความคุ้มค่าในการเดินทางด้วยรถบัสโดยสารพลังงานไฟฟ้า และเรือโดยสารไฟฟ้า
นอกจากนี้ยังรองรับการโดยสารได้ถึง 20 เที่ยวต่อบัตรในราคา 450 บาท เฉลี่ยราคาต่อเที่ยวเพียง 22.5 บาทเท่านั้น ซึ่งจำนวนจำกัดเพียง 5,000 ใบ ผลิตครั้งเดียวเท่านั้น โดยมุ่งเป้าไปที่กลุ่มลูกค้าต่างชาติ จำกัดเพียง 5,000 ใบเท่านั้น