วันที่ 4 กันยายน 2564 ที่รัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยส.ส.พรรคก้าวไกล แถลงข่าวหลังการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยนายพิธา กล่าวว่า ผลการลงมติไม่ไว้วางใจตนและพรรคก้าวไกลผิดหวังและเสียดายที่ระบบรัฐสภาฯไม่ยึดโยงกับความเป็นจริงบนท้องถนน กับความทุกยากที่ประชาชนต้องเผชิญ และเสียหายกับโอกาสของทุกพรรคในการถอดสลักอุปสรรคที่จะแก้ไขปัญหาที่ประชาชนกำลังพบอยู่ สำหรับคะแนนที่ออกมาของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ถ้านับเรื่องไว้วางใจถือว่ารองบ๊วย ถ้ามองคะแนนไม่ไว้วางใจถือว่าสูงที่สุด ประกอบกับความวุ่นวายในสภาฯสามสี่วันที่ผ่านมาจะเห็นว่าความชอบธรรมและภาวะผู้นำของพล.อ.ประยุทธ์ มีปัญหารวมถึงเสถียรภาพทางการเมืองที่ตนมองว่าอาจนำไปสู่การยุบสภาในเร็ววันนี้
ส่วนการทำงานก้าวต่อไปของพรรคก้าวไกล เช่นเดียวกับการอภิปรายครั้งที่แล้วที่จะนำเรื่องที่ส.ส.พรรคก้าวไกลอภิปรายไปดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป การอภิปรายครั้งนี้แม้ไม่สำเร็จอย่างที่คาดหวังแต่ก็มีประโยชน์เพราะเป็นการควบคุมวาระของสังคมอย่างชัดเจน อย่างน้อยเมื่อยื่นซักฟอกไปตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดก็ลดลงและจะเห็นว่าตัวเลขฉีดวัคซีนก็เพิ่มไปเกือบจะถึงล้านในช่วงที่มีการอภิปราย แม้จะเป็นผักชีหน่อยก็ตาม
เมื่อถามว่า จากคะแนนที่พล.อ.ประยุทธ์ได้ ต้องพิจารณาตัวเองหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า แน่นอน นั้นคือสัญญานที่ส่งไปยังแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ในระยะยาวตนไม่อยากจะลงลึกแต่จะนำกลับไปวิเคราะห์ว่าจะมีผลต่อเสถียรภาพและความแตกแยกของรัฐบาลอย่างไร ทั้งหมดสะท้อนให้เห็นถึงความชอบทำและเสถียรของรัฐบาลในช่วงที่ประเทศวิกฤติอย่างนี้สิ่งที่ดีที่สุดคือยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชนตัดสินใจ
เมื่อถามจะดำเนินการอย่างไรกับงูเห่าของพรรคที่โหวตสวนเป็นประจำ นายพิธา ตอบว่า เราจะไม่ให้ในสิ่งที่เขาต้องการ ดองงู เรารู้อยู่แล้วว่าเขาต้องการอะไรถ้าเราไม่ให้ก็จบ ตราบใดที่ตนเป็นหัวหน้าพรรคเขาจะไม่ได้สิ่งที่ต้องการ ประเด็นเหล่านี้จะนำไปประเมินในการคัดสรรเลือกใหม่ในการเลือกตั้งครั้งหน้า เลือกใหม่ที่ใหม่กว่าชัดกว่าโดนกว่า