หลังจากที่รัฐสภาลงมติโหวตเห็นชอบสูตรคำนวณส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ หรือ ส.ส.บัญชีรายชื่อแบบ 500 ฉบับของ นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่
กรรมาธิการวิสามัญพิจารณร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. เสียงข้างน้อย กระแสการเมืองยังร้อนระอุ นักการเมืองหลายรายออกมาวิพากวิจารณ์ มีทั้งฝ่ายที่ "เห็นด้วย" และ "ไม่เห็นด้วย" กับเรื่องนี้
นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี อดีตรองนายกฯ ที่โพสต์ข้อความผ่านเฟชบุ๊กส่วนตัวว่า ส่วนตัวเขาเชียร์สูตรหาร 500 นี้ ในขณะพรรคก้าวไกล ประกาศก้องว่า ไม่เห็นด้วยกับสูตรคำนวณดังกล่าว
ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบผลการโหวตเมื่อคืนวานนี้ (7 กรกฎาคม) มีรายละเอียดที่น่าสนใจ ดังนี้
พรรคเพื่อไทย
พรรคก้าวไกล
พรรคเพื่อชาติ
พรรคภูมิใจไทย
พรรคประชาธิปัตย์
พรรคพลังประชารัฐ
พรรคเศรษฐกิจไทย
พรรคชาติไทยพัฒนา
อย่างไรก็ดี มี 6 ส.ส. ไม่เข้าร่วมโหวต อาทิ นายวราวุธ ศิลปอาชา ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายประภัตร โพธสุธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรมช.เกษตรและสหกรณ์ เป็นต้น
สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)
สูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อแบบหาร 500
นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ (พธม.) ในฐานะ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ฉบับที่...) พ.ศ... รัฐสภา อธิบายสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อแบบหาร 500 เอาไว้ดังนี้
แบบที่ 1
การคำนวณหาคะแนนเฉลี่ยต่อ ส.ส.พึงมี 1 คน ก็คือ การนำผลรวมคะแนนพรรคของทุกพรรคทั่วประเทศไปหารด้วย 500 เช่น 37 ล้าน หารด้วย 500 ก็จะเท่ากับ 74,000 โดยการคำนวณหาจำนวน ส.ส.พึงมีของพรรค ก คือ ผลรวมคะแนนพรรคของพรรค ก จากทุกเขต คะแนนเฉลี่ยต่อ ส.ส. พึงมี 1 คน 1,000,000÷74,000 = 13.5 ส.ส.
ส่วนจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค ก ก็คือ จำนวน ส.ส.พึงมีพรรค ก – จำนวน ส.ส.เขตพรรค ก
ตัวอย่าง ส.ส.พึงมี (13.5)–ส.ส.เขต(7) = ส.ส.บัญชีรายชื่อ คือ 6.5
แบบที่ 2
การคำนวณหาคะแนนเฉลี่ยต่อ ส.ส. พึงมี 1 คน ก็คือ ผลรวมคะแนนเขต + คะแนนพรรคของทุกพรรค หาร 500
ยกตัวอย่างเช่น 37 ล้าน + 37 ล้าน = 74 ล้าน = 148,000
จากนั้น นำคะแนนเขตทั้งหมดพรรค ก + คะแนนพรรคทั้งหมดพรรค ก คะแนนเฉลี่ย ต่อ ส.ส.พึงมี 1 คน
ตัวอย่าง = 1,000,000+800,000 หารด้วย 148,000 = 1,800,000 ÷148,000 = 12.16 คน
ส่วนวิธีหาจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค ก ก็ให้นำจำนวน ส.ส.พึงมีพรรค ก – จำนวน ส.ส. เขต พรรค ก
ตัวอย่าง = ส.ส.พึงมี (12.16 คน) – ส.ส.เขต (7) = ส.ส.บัญชี 5 คน