คดีเด่นป.ป.ช. วันนี้(19 ส.ค.2565) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. รับไต่สวนผู้ถูกกล่าวหา "เกษร หรือ สุวพิชญ์ โปสาวาท" คดีหมายเลขดำที่ 04-1-074/2553 คดีหมายเลขแดงที่ 070-1-5/2558
มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ครั้งที่ 655/2558 วันที่ 16 เม.ย. 2558 เห็นว่า เกษร หรือสุวพิชญ์ เจ้าพนักงานพัสดุ 3 องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยยาง อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร ปลอมลายมือ ชื่อนายกองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยยาง สั่งซื้อพัสดุจากร้านค้า แล้วเบียดบังพัสดุไปเป็นประโยชน์ส่วนตน
พฤติกรรมดังกล่าวมีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ มาตรา 161
เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติชอบภาค 4 คดีหมายเลขดำที่ อท 101/2563 คดีหมายเลขแดงที่ อท 104/2563 วันที่ 17 กันยายน 2563 พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157(เดิม), 161(เดิม) เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป
จำคุกกระทงละ 2 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกกระทงละ 1 ปี รวม 11 กระทงความผิด เป็นจำคุก 11 ปี โดยไม่รอการลงโทษ
ศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลขดาที่ อท 141/2564 คดีหมายเลขแดงที่ 8258/2564 วันที่ 24 สิงหาคม 2564
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจาคุก กระทงละ 1 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก กระทงละ 6 เดือน รวม 11 กระทงความผิด เป็นจำคุก 66 เดือน นอกจากที่แก้ให้ เป็นไปตาม คาพิพากษาศาลชั้นต้น
นายนิวัติไชย เปิดเผยด้วยว่า มติคณะกรรมการ ป.ป.ช.ครั้งที่ 150/2564 เมื่อวันที่ 12 ต.ค. 2564 พิจารณาแล้วมีมติเห็นชอบด้วยกับอัยการสูงสุด ไม่ฎีกาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ฯ คดีจึงเป็นที่สุด