"เสรี”ถก กกต. 2 ชั่วโมง ปม"พิธา"ถือหุ้นสื่อไอทีวี จี้เร่งดำเนินการโดยเร็ว

28 มิ.ย. 2566 | 07:14 น.
อัพเดตล่าสุด :28 มิ.ย. 2566 | 07:18 น.

"เสรี สุวรรณภานนท์" ถก กกต. 2 ชั่วโมง ปม "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" ถือหุ้นสื่อไอทีวี จี้เร่งดำเนินการให้เสร็จ หวังลดความขัดแย้งในสังคม

วันนี้ ( 28 มิ.ย. 66) นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา กล่าวภายหลังการหารือร่วมกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นาน 2 ชั่วโมง ว่า ทางกรรมาธิการเคยนัดหารือกับ กกต. ไว้ตั้งแต่ก่อนวันเลือกตั้ง แต่ทาง กกต. ติดภารกิจ จึงเลื่อนมาเป็นวันนี้ 

เรื่องที่มาหารือเป็นเรื่องที่ทางกรรมาธิการกำลังพิจารณารวบรวมปัญหาเกี่ยวกับการทำงานของ กกต. เพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นให้สุจริตเที่ยงธรรม มีหลายเรื่องที่หารือร่วมกัน 

และได้นำข้อมูลในกรรมาธิการที่ได้มีการตรวจสอบ และข้อมูลที่ปรากฏในสื่อบางส่วน รวมถึงเอกสารที่ได้ขอกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเกี่ยวกับปัญหาเรื่องการถือครองหุ้นสื่อของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล มามอบให้กับทาง กกต.ด้วย เพื่อนำไปพิจารณาประกอบกับเรื่องที่ กกต. กำลังดำเนินการในเรื่องเหล่านี้อยู่ 

เมื่อถามว่าข้อมูลเพิ่มเติมเป็นอะไรบ้าง นายเสรี กล่าวว่า ส่วนหนึ่งเป็นข้อมูลที่ปรากฏอยู่ในคดีความยื่นร้องจัดการมรดกเดิม และส่วนที่เป็นทรัพย์มรดก เป็นทรัพย์สิน ที่ดิน ที่มีการจัดการโอนทรัพย์มรดกนี้ไปตั้งแต่ปี 2560 เพื่อที่จะเทียบว่าการจัดการมรดกรายนี้ ไม่ใช่ว่ายังค้างคาไม่เสร็จ แต่เป็นการจัดการมรดกเสร็จไปก่อนหน้านี้แล้ว เพื่อให้เห็นว่า การถือหุ้นสื่อไอทีวี ปัจจุบันนี้เป็นการถือหุ้นโดยฐานะทายาท หรือ ผู้จัดการมรดก หรือ ในฐานะที่ได้รับมรดกมาแล้ว 

"เป็นการส่งหลักฐานให้เห็นเพื่อเทียบเคียงถึงการจัดการมรดก และได้เรียนต่อ กกต. ขอให้ กกต. ทำตามอำนาจหน้าที่ของท่านให้ปรากฏ หากสามารถทำโดยเร็วได้ในส่วนใด ก็ขอให้ใช้อำนาจหน้าที่ หรือ ดุลยพินิจดำเนินการให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสังคม หรือ ข้อถกเถียงในทางการเมืองที่ไม่อยากให้มีเรื่องอื่นๆ แทรกแซงเข้ามา อยากให้ยุติโดยเร็ว"

เมื่อถามว่ากกต.ได้แจ้งเรื่องระยะเวลาดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร นายเสรี กล่าวว่า มี 2 ส่วน คือ ส่วนที่ทำไปก่อนการประกาศรับรองผล กกต.ได้สืบสวนไต่สวนหาข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินคดีตามมาตรา 151 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. 

และอีกส่วนคือ หลังการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งแล้ว ก็จะดูว่าส่วนไหนเป็นอำนาจหน้าที่ของ กกต. หรือ ความปรากฏของกกต.อย่างไร ซึ่งท่านก็คงใช้อำนาจหน้าที่ของท่านในช่วงนี้