วันนี้ (20 ม.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซด์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เผยแพร่คำวินิจฉัย กกต. ให้ส่งศาลฎีกาสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรือ เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ของ นายสมชาย ภิญโญ ผู้สมัครส.ส.นครราชสีมา เขต 6 พรรคภูมิใจไทย ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 2561 มาตรา 73 วรรคหนึ่งประกอบมาตรา138 วรรคหนึ่ง และ ให้ดำเนินคดีอาญา ตาม 141 ประกอบมาตรา 158 ของกฎหมายเดียวกัน
เนื่องจากข้อเท็จจริงที่ได้จากการไต่สวน ฟังได้ว่า วันที่ 7 เม.ย. 66 เวลากลางวัน นายสมชาย ผู้ถูกร้อง ได้จัดเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งที่ศาลาประชาคม บ้านหนองตาด หมู่ที่ 2 ต.หนองตาดใหญ่ อ.สีดา จ.นครราชสีมา โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และประชาชนในพื้นที่
โดย นายสมชาย ได้ปราศรัยด้วยถ้อยคำว่า “เดี๋ยวผมได้เป็น ส.ส. มีงบไปเบิ้งงาน จะพา อสม. ไปล่องแพกาญ ร้องเพลง” ตามที่ปรากฏในคลิปบันทึกเสียงประกอบคำร้อง ซึ่งเห็นว่า ถ้อยคำดังกล่าว มีความหมายทำนองว่า เมื่อ นายสมชาย ได้เป็นส.ส.จะมีงบประมาณศึกษาดูงาน จะพาอาสาสมัครสาธารณสุข ประจำหมู่บ้านไปล่องแพ และ ร้องเพลงที่ จ.กาญจนบุรี
แม้ นายสมชาย จะอ้างว่าถ้อยคำดังกล่าว หมายถึงหากมีงบประมาณจากกองทุนพัฒนาการท่องเที่ยวที่เป็นนโยบายของพรรคภูมิใจไทย และเป็นงบประมาณ จากทางรัฐบาล จะนำงบประมาณดังกล่าวมาช่วยส่งเสริมสนับสนุนให้คนในชุมชนได้ไปเพิ่มพูนความรู้ และพัฒนาศักยภาพ โดยนำความรู้ที่ได้กลับมาพัฒนาชุมชนของตนเอง
แต่เหตุผลดังกล่าว ไม่สอดคล้องกับนโยบายของพรรคภูมิใจไทย ที่ว่า ชุมชนดี แหล่งท่องเที่ยวดี และ ผู้ประกอบการดีด้วยกองทุน พัฒนาการท่องเที่ยว ซึ่งนโยบายดังกล่าวของพรรคภูมิใจไทย มีลักษณะเป็นการสนับสนุนชุมชน โดยให้แต่ละจังหวัดปรับปรุง และพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว รวมทั้งการพัฒนาศักยภาพชุมชนในจังหวัดของตนเอง มิใช่การนำงบประมาณดังกล่าวมาใช้เพื่อนำอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน และประชาชนในชุมชน ไปศึกษาดูงานที่จังหวัดอื่น
อีกทั้งถ้อยคำว่า “จะพา อสม. ไปล่องแพกาญ ร้องเพลง" มิใช่การส่งเสริม ศักยภาพงานในหน้าที่ของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ประกอบกับจากการตรวจสอบคลิปบันทึกเสียงประกอบคำร้อง ปรากฏว่า นายสมชาย กล่าวถ้อยคำว่า "เว้าแฮงบ่ได้ เดี๋ยวจิอัดวิดีโอ" ซึ่งมีความหมายทำนองว่า พูดเสียงดังไม่ได้ เดี๋ยวจะอัดวิดีโอ ต่อจากคำว่า “เดี๋ยวผมได้เป็น ส.ส. มีงบไปเบิ้งงาน จะพา อสม. ไปล่องแพกาญ ร้องเพลง” แสดงให้เห็นถึงเจตนาที่ไม่สุจริตของ นายสมชาย ในการปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งดังกล่าว
กรณี จึงปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า การปราศรัยหาเสียงของ นายสมชายดังกล่าว ซึ่งเป็นการสัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ทรัพย์สิน หรือ ผลประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ซึ่งเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งเพื่อจูงใจ ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเอง ซึ่งเป็นการทุจริตการเลือกตั้ง
อันเป็นการฝ่าฝืนพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.2561มาตรา 73 (1) ประกอบ มาตรา 138วรรคหนึ่ง เป็นเหตุให้ผลการเลือกตั้งส.ส.นครราชสีมา เขตเลือกตั้งที่ 6 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ นายสมชาย มิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพิ่งมีรายงานว่า กกต. ได้มีมติให้ส่งศาลฎีกาสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งและเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง นางมุกดาวรรณ เลื่องสีนิล ส.ส.ภูมิใจไทย นครศรีธรรมราช เขต 8 ฐานแจกเงินให้คนไปลงคะแนน-ฟังปราศรัย ชงศาลฎีกาสั่งเพิกถอนสิทธิลงเลือกตั้ง พร้อมจัดเลือกตั้งใหม่ และให้ นางมุกดาวรรณ รับผิดชอบค่าใช้จ่ายมาแล้ว