แน่นอนแล้วว่า “นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี” เป็นหนึ่งในรายชื่อผู้ต้องขังจำนวน 930 คน ที่ได้รับการพักโทษ ตามที่คณะกรรมการพักโทษได้พิจารณาเห็นชอบตามที่อธิบดีกรมราชทัณฑ์เสนอมา
ตามที่ พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์เมื่อ 13 ก.พ. 67 “มีในรายงานการประชุม เนื่องจากเกณฑ์ของนายทักษิณ เจ็บป่วยร้ายแรง หรือพิการ หรืออายุ 70 ปีขึ้นไป คาดว่าได้รับพักโทษเมื่อครบ 6 เดือน ตามเกณฑ์ เนื่องจากต้องโทษ 1 ปี ถ้าเป็น 1 ใน 3 คือ 4 เดือน
"แต่เกณฑ์ของนายทักษิณ 6 เดือน พอครบก็เป็นไปตามอัตโนมัติได้รับการพักโทษ ส่วนจะปล่อยตัวในวันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้หรือไม่ต้องไปไล่วันดูกัน เพราะเราไม่มีวันหยุดอะไร หากได้รับครบเกณฑ์ก็เป็นสิทธิของผู้พักโทษ ทางกรมราชทัณฑ์ก็ต้องประสานกัน"
ก่อนหน้านี้ นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม ระบุก่อนหน้านี้ว่า “หลังเที่ยงคืนวันที่ 17 จะได้พักโทษ มันก็ถึงวันของเขา ราชทัณฑ์จึงไม่มีสิทธิ์จะเอาตัวผู้ต้องขังอยู่ต่อ แต่การที่จะอยู่ต่อมันก็เป็นการอะลุ่มอะล่วยกันว่าวันรุ่งขึ้นอาจจะค่อยปล่อยตัวได้ ผมจึงยังตอบไม่ได้ว่าเที่ยงคืนของวันพักโทษของผู้ต้องขังจะได้ออกเลยหรือไม่ เพราะมันอยู่ที่ข้อเท็จจริงของแต่ละราย”
ทำให้ทุกสปอตไลท์จับตาไปที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ เวลาหลังเที่ยงคืนวันที่ 17 ก.พ. หรือก้าวเข้าสู่วันที่ 18 ก.พ. 2567 ที่จะมีการปล่อยตัวนายทักษิณ ที่ได้รับกาพักโทษกลับไปที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 กรุงเทพมหานคร
ฐานเศรษฐกิจ ได้รับการยืนยันจากแหล่งข่าวระดับสูงจากพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า นายทักษิณ จะได้การพักโทษ ออกจากการรักษาอาการป่วยที่ชั้น 14 โรงพยาบาลเวลาประมาณ 05.00น. ของวันที่ 18 ก.พ. 67 กลับไปรักษาตัวต่อที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 โดยมีการประสานรถพยาบาลและทีมแพทย์จากโรงพยาบาลพระราม 9 ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเอกชนมารับเอาไว้แล้ว
“ซึ่งครอบครัวของท่านอดีตทักษิณประสานไปยังแกนนำพรรคเพื่อไทย รัฐบาล และกลุ่มมวลชนที่สนับสนุนว่า ไม่ต้องเดินทางมาต้อนรับ เพราะต้องการความเป็นส่วนตัว ขอออกจากโรงพยาบาลแบบเงียบๆ จึงจะมีเพียงคนในครอบครัวเท่านั้นที่ไปรับกลับบ้าน”
รายงานข่าว ยังระบุว่า ด้วยว่านายทักษิณและครอบครัว ยังไม่ได้ยืนยันว่าจะเปิดให้บุคคลเข้าพบและเยี่ยมได้เมื่อไร หากพร้อมเมื่อไรจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง เพราะไม่อยากให้เป็นกระแส
นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร จะได้รับพักโทษในช่วงวันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้ จะเป็นศูนย์รวมอำนาจทางการเมืองหรือไม่ว่า เป็นการวิเคราะห์ของคอการเมือง หรือผู้เจนจัดทางการเมือง โดยพิจารณาจากเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมา พร้อมยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยมีความเป็นปึกแผ่น มีหัวหน้าพรรคและผู้บริหารของพรรค ที่จะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ด้วยความเป็นอิสระ
พร้อมมองว่าการออกมาของนายทักษิณครั้งนี้ไม่ได้มีปัจจัยอะไรที่จะสะเทือนต่อพรรคเพื่อไทย หรือสะเทือนต่อรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ด้วยเชื่อมั่นว่ารัฐบาลทำหน้าที่อย่างความเป็นปึกแผ่น โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีทำหน้าที่อย่างเต็มที่อย่างขยันขันแข็ง จึงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ตามที่มีการวิเคราะห์กัน ขอให้รัฐบาลทำงานไปและอดีตนายกรัฐมนตรีก็ทำหน้าที่ไป ในฐานะประชาชน
นายชูศักดิ์ ยังกล่าวถึงจุดยืนพรรคเพื่อไทย ว่า สามารถรับฟังความเห็นการวิพากษ์วิจารณ์ของฝ่ายต่างๆได้ หากมีการคัดค้านตูดความเห็นต่าง แต่ควรอยู่ในครรลองของกฎหมาย อยู่ในความสงบเรียบร้อยไม่ทำให้เกิดความแตกแยก ซึ่งพรรคเพื่อไทยมีความชัดเจนว่าไม่นิยมความรุนแรง ที่ไม่นำพาประเทศไปสู่ความเจริญก้าวหน้า ไม่เชื่อว่าเหตุการณ์จะกลับมาซ้ำรอยความขัดแย้งระหว่างกลุ่มสีเสื้อเหลือง-แดง
"ปัจจุบันรัฐบาลประกอบด้วยหลายพรรคการเมือง พรรคที่เคยเห็นไม่ตรงกัน ก็มาร่วมมือจัดตั้งรัฐบาล เพราะเงื่อนไขทางการเมืองเปลี่ยนแปลงไป เงื่อนไขปัจจัยไม่เหมือนเมื่อก่อน" นายชูศักดิ์กล่าว
นายชูศักดิ์ เชื่อว่าด้วยประสบการณ์ของนายทักษิณ และความรู้ความสามารถในอดีต เป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถเป็นบุคลากรของประเทศ หากเสนอข้อแนะนำอะไรหวังว่าจะเป็นประโยชน์ทำให้พรรคเพื่อไทยเข้มแข็งขึ้น แต่ต้องยอมรับว่านายทักษิณเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนเพื่อไทย ตั้งแต่ยุบพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน เปรียบเหมือนเป็นกำลังใจให้พรรคเพื่อไทย ขณะเดียวกันพรรคเพื่อไทยก็ต้องเข้มแข็งยืนด้วยความรู้ความสามารถของบุคลากรที่มีอยู่
ส่วนกรณีที่จะมีการอายัดตัวนายทักษิณในคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ชี้ให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม และเห็น ว่า ไม่ควรวิพากษ์วิจารณ์ว่าจะต้องไปในทางไหน ซึ่งที่ผ่านมามีการคาดหวังว่าจะต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้จึงเกิดความแตกแยก สำหรับกระบวนการของตำรวจที่จะอายัดตัวให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมซึ่งนายทักษิณก็มีทีมกฎหมายดำเนินการอยู่แล้ว
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ขอไม่ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นาย ทักษิณ จะได้รับการพักโทษหลังครบ 6 เดือนที่อาจจะทำให้สถานการณ์การเมืองจะเปลี่ยนไปหรือไม่ โดย พล.อ.ประวิตร กล่าวเพียงว่า “จะไปทราบได้อย่างไร ต้องให้พักออกมาก่อน ยังไม่รู้ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร
เมื่อถามว่า จะยินดีกับนายทักษิณด้วยหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ไม่ได้ตอบ