เปิดหนังสือยื่นร้องปลด บอร์ดสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟชุดที่ 18 

14 ก.พ. 2567 | 09:35 น.
อัปเดตล่าสุด :14 ก.พ. 2567 | 09:36 น.

เปิดหนังสือ สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ ยื่นร้องนายทะเบียนสหกรณ์ ขอให้ปลดบอร์ดสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟชุดที่ 18 ทั้งคณะ 

วันนี้(14 ก.พ.67) ตัวแทนสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟจำนวนหนึ่ง ยื่นหนังสือขอให้นายทะเบียนสหกรณ์ มีคำสั่งปลดคณะกรรมการการสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟชุดที่ 18 ทั้งคณะ โดยในหนังสือมีรายละเอียดสรุปได้ ดังนี้ 

สืบเนื่องจากคำสั่งนายทะเบียนสหกรณ์ให้คณะกรรมการสหกรณ์ชุดที่ 12 พ้นจากตำแหน่งหน้าที่ทั้งคณะ (พ.ศ.2561) และให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการสหกรณ์ชุดชั่วคราว แต่งตั้งโดยนายทะเบียนสหกรณ์ รวม 9 คน กำหนดให้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการดำเนินการ และได้คณะกรรมการดำเนินการชุดที่ 13 บริหารงานเป็นต้นมา จนถึงชุดที่ 17 มีการสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนตัวบุคคลในการทำหน้าที่ตามวาระ 

ในหนังสือฉบับนี้ได้อ้างว่า กลุ่มบุคคลในคณะกรรมการดำเนินการชุดที่ 13 ได้ลงมติดำเนินการกำหนด ค่าตอบแทน ค่าเบี้ยประชุม ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าพาหนะ ค่าเช่าที่พัก ให้แก่ประธานกรรมการ กรรมการดำเนินการ คณะอนุกรรมการ คณะทำงาน และบุคคลอื่น โดยไม่ได้ขอมติจากที่ประชุมใหญ่ซึ่งไม่เป็นไปตามข้อบังคับ สหกรณ์ ฝ่าฝืนข้อบังคับสหกรณ์ ไม่ส่งคืนเงินให้แก่สหกรณ์เจ้าหนี้ ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนายทะเบียน เป็นเหตุให้ สหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ สมาชิกสหกรณ์ และสหกรณ์พันธมิตรได้รับความเสียหายจากการกระทำของ กลุ่มบุคคลดังกล่าว 

เปิดหนังสือยื่นร้องปลด บอร์ดสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟชุดที่ 18 

ต่อมากลุ่มบุคคลในคณะกรรมการดำเนินการชุดที่ 13 หมดวาระลง จึงลงสมัครคณะกรรมการ ดำเนินการต่อและได้กลับเข้ามาเป็นคณะกรรมการดำเนินการในชุดที่ 14 

เมื่อนายทะเบียนสหกรณ์ได้ ตรวจสอบพบว่า คณะกรรมการดำเนินการชุดที่ 13 ได้ลงมติในการดำเนินการกำหนดค่าตอบแทน ค่าเบี้ย ประชุม ค่าเบี้ยเลี้ยงค่าพาหนะ ค่าเช่าที่พักให้แก่ประธานกรรมการ กรรมการดำเนินการ คณะอนุกรรมการ คณะทำงาน และบุคคลอื่น ไม่เป็นไปตามข้อบังคับสหกรณ์

นายทะเบียนสหกรณ์ จึงมีคำสั่งนายทะเบียน สหกรณ์ที่ (สสพ 1) 104/2562 เรื่อง ให้คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์การรถไฟ จำกัด แก้ไข ข้อบกพร่อง (เอกสารแนบ 2) แต่คณะกรรมการดำเนินการชุดที่ 14 กลับฝ่าฝืนไม่แก้ไขข้อบกพร่องตามวิธีการ และระยะเวลาที่นายทะเบียนกำหนด และคำสั่งรองนายทะเบียนสหกรณ์ได้มีคำสั่งที่ (สสพ 1) 1/2562 เรื่อง ให้คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ จำกัด แก้ไขข้อบกพร่อง (เอกสารแนบ 3) แต่คณะกรรมการดำเนินการก็ยังฝ่าฝืน 

เปิดหนังสือยื่นร้องปลด บอร์ดสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟชุดที่ 18 

จนในที่สุด นายทะเบียนสหกรณ์ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงาน สอบสวนเพื่อให้ดำเนินคดีกับคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ จำกัด ชุดที่ 14 ในความผิดฐานร่วมกันฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามที่นายทะเบียนสั่งการ และความผิดฐานขัดคำสั่งของเจ้าพนักงานซึ่งสั่งการตามอำนาจที่มีกฎหมายให้ไว้

พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด (สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา กรุงเทพใต้ 3) ได้ยื่นฟ้อง นายสาโรจน์ สุขแสงดาว ที่ 1 กับพวกรวม 12 คน ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ คดี หมายเลขดำที่ 263/2566 เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 (เอกสารแนบ 4) คดีอยู่ระหว่างพิจารณาข้อเท็จจริง 

จากการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566 เมื่อวันศุกร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2566 สมาชิกได้เลือกตั้ง คณะกรรมการดำเนินการ ชุดที่ 18 ของสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ จำกัด

ข้อ 1 กลุ่มบุคคลดังกล่าวในคณะกรรมการดำเนินการชุดที่ 13 และชุดที่ 14 ทราบดีว่า เมื่อถูกนายทะเบียนสหกรณ์ฟ้องดำเนินคดี ในความผิดฐานร่วมกันฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามที่นายทะเบียนสหกรณ์สั่งการ จึงเข้าลักษณะต้องห้ามตามข้อ 4 (1) แห่งระเบียบนายทะเบียนสหกรณ์ ว่าด้วยลักษณะต้องห้ามของบุคคลที่ เป็นหรือทำหน้าที่กรรมการหรือผู้จัดการของสหกรณ์ พ.ศ.2566

เปิดหนังสือยื่นร้องปลด บอร์ดสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟชุดที่ 18 

แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวยังกลับฝ่าฝืนระเบียบ นายทะเบียนสหกรณ์ โดยการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นคณะกรรมการดำเนินการชุดที่ 18 และได้รับการเลือกตั้ง จากการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2566 เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 และมีมติในการประชุมคณะกรรมการดำเนินการ ชุดที่ 18 ครั้งที่ 1/2566 แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อปฏิบัติหน้าที่ ตามเอกสารแนบ 5 รายชื่อคกก ชุด 18

ทั้งนี้ คณะกรรมการดำเนินการชุดที่ 18 มีกลุ่มบุคคลในคณะกรรมการดำเนินการชุดที่ 14 ที่ถูกฟ้อง ดำเนินคดีและลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นคณะกรรมการดำเนินการ จำนวน 5 คน ซึ่งถูกดำเนินคดีในความผิดฐานร่วมกันฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามที่นายทะเบียนสหกรณ์สั่งการต่อศาล

ศาลอาญา กรุงเทพใต้ คดีหมายเลขดำที่ 263/2566 เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 การกระทำดังกล่าวเป็นการจงใจฝ่า ฝืนระเบียบข้อบังคับ เพราะตนมีลักษณะต้องห้ามของบุคคลที่เป็นหรือทำหน้าที่กรรมการหรือผู้จัดการของ สหกรณ์ ซึ่งขัดกับระเบียบนายทะเบียนสหกรณ์

เมื่อปรากฏเช่นนี้ สมาชิกจำนวนหนึ่งมีหนังสือถึงผู้อำนวยการส่งเสริมสหกรณ์กรุงเทพมหานคร พื้นที่ 1 สอบถามความชัดเจนในการเลือกตั้งคณะกรรมการดำเนินการชุดที่ 18 ถูกต้องหรือไม่ 

จนในที่สุดผู้อำนวยการส่งเสริมสหกรณ์กรุงเทพมหานคร พื้นที่ 1 มีคำสั่งที่ กษ.1109/3185 ลงวันที่ 18 ตุลาคม 2566 เรื่อง แจ้งให้สหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ ถือปฏิบัติตามระเบียบนายทะเบียนสหกรณ์ ว่าด้วยลักษณะต้องห้ามของบุคคลที่เป็นหรือทำหน้าที่เป็นกรรมการหรือผู้จัดการของสหกรณ์ พ.ศ.2566

เปิดหนังสือยื่นร้องปลด บอร์ดสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟชุดที่ 18 

ห้ามมิให้บุคคลที่ถูกดำเนินคดีในความผิดฐานร่วมกันฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามระเบียบนายทะเบียนสหกรณ์สั่งการ ปฏิบัติหน้าที่ กรรมการหรือผู้จัดการสหกรณ์ โดยให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ อันเป็นเหตุให้คณะกรรมการดำเนินการชุดที่ 18 สหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ จำนวน 5 คน ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อได้

ข้อ 2 จากพฤติการณ์และการกระทำตั้งแต่คณะกรรมการดำเนินการชุดที่ 13 ถึงชุดที่ 18 เข้ามา บริหารสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ เป็นการใช้อำนาจทางการบริหาร ฝ่าฝืนข้อบังคับสหกรณ์อันส่อไปในทางทุจริตและฝ่าฝืนข้อบังคับสหกรณ์ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนายทะเบียน ตามหลักฐานที่ปรากฏตามเอกสารแนบ  

ข้อ 3 ผู้ถูกฟ้องดำเนินคดี จำนวน 5 คน เมื่อหมดวาระคณะกรรมการดำเนินการจะเข้ามาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา แสดงให้เห็นว่าคณะกรรมการดำเนินการชุดต่อมาช่วยเหลือและสนับสนุนกลุ่มบุคคลที่ถูกดำเนินคดีให้มีส่วนร่วมในการดำเนินการของสหกรณ์ต่อไป เป็นการเอื้อประโยชน์และแสวงหาอำนาจในทาง บริหาร เพื่อมุ่งหวังค่าตอบแทน และผลประโยชน์จากสหกรณ์

สำหรับคณะกรรมการดำเนินการชุดที่ 17 กลุ่มบุคคลที่ถูกฟ้องดำเนินคดีหมดวาระจะมีการได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาในชุดที่ 18 ได้อีกหรือไม่ เนื่องจากคณะกรรมการดำเนินการที่ถูกฟ้องดำเนินคดี นายทะเบียนสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่

ข้อ 4 ข้อบังคับหมวด 2 วัตถุประสงค์และอำนาจกระทำการ การให้เงินกู้แก่สมาชิก ทั้งการกู้ฉุกเฉิน และกู้สามัญ เป็นหน้าที่ของฝ่ายจัดการพิจารณาเรื่องที่สำคัญของสหกรณ์ต่อคณะกรรมการดำเนินการอย่าง รวดเร็วและข้อเท็จจริงถูกต้องครบถ้วน

แต่ปรากฏว่า ใช้อำนาจการบริหารเข้าครอบงำสั่งการฝ่ายจัดการ โดยสั่งการให้ฝ่ายจัดการพิจารณาอนุมัติการกู้ให้แก่พรรคพวกและคนสนิทของตนเองเป็นอันดับแรก โดยมีเงื่อนไขข้อต่อรองทางการเงินในการพิจารณาอนุมัติให้เร็วขึ้น ถือเป็นการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ

รวมถึงเรื่องการให้เงินกู้แก่สมาชิกไม่มีการแจ้งให้สมาชิกทราบถึง จำนวนสมาชิกที่ขอกู้มีจำนวนมากน้อยเพียงใดและไม่มีการจัดลำดับก่อนหลังในการกู้ให้สมาชิกทุกคนทราบ เพื่อให้สมาชิกสามารถวางแผนการทางการเงินสำหรับใช้จ่ายได้อย่างถูกต้อง

ข้อ 5 ข้อบังคับหมวด 8 คณะกรรมการดำเนินการ ไม่มีวิธีการแก้ปัญหาและระยะเวลาในการ พิจารณาปัญหาหรือข้อร้องเรียนจากสมาชิกให้เป็นระบบ คณะกรรมการดำเนินการมีช่องทางที่ติดต่อสื่อสารให้ ข่าวสารข้อมูลกับสมาชิกที่ยุ่งยาก ไม่ครอบคลุมกับจำนวนสมาชิกที่มีอยู่ หากสมาชิกมีปัญหาเป็นจำนวนมาก

เปิดหนังสือยื่นร้องปลด บอร์ดสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟชุดที่ 18 

คณะกรรมการดำเนินการจะใช้วิธีให้สมาชิกที่ต้องการคำตอบเดินทางเข้ามาที่ทำการสหกรณ์ด้วยตนเอง ทั้งที่คณะกรรมการดำเนินการก็ทราบดีว่า สมาชิกส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ มีถิ่นที่พักอาศัยอยู่ตามต่างจังหวัด พื้นที่ ห่างไกลไม่สามารถเดินทางเข้ามาติดต่อได้

ข้อ 6 คณะกรรมการดำเนินการ ไม่มีการจัดให้มีข้อมูลเรื่องการถูกร้องทุกข์กล่าวโทษ การถูกดำเนินคดี การถูกร้องเรียน และถูกลงโทษของสหกรณ์ในรอบปีบัญชีที่ผ่านมา

พร้อมทั้งแผนหรือแนวทางป้องกันไม่ให้ถูก ร้องทุกข์กล่าวโทษ ถูกดำเนินคดี ถูกร้องเรียน และถูกลงโทษในเรื่องดังกล่าว ให้ที่ประชุมใหญ่ทราบ ซึ่งที่ผ่านมาคณะกรรมการชุดที่ 13 ถึงชุดที่ 18 มีคณะกรรมการดำเนินการถูกนายทะเบียนดำเนินคดีฟ้องร้อง

แต่คณะกรรมการดำเนินการไม่มีการแจ้งเป็นหนังสือหรือหลักฐานใด ๆ ให้สมาชิกได้รับทราบอย่างเปิดเผย ถือเป็นการปกปิด ซ่อนเร้นความผิด ช่วยเหลือเอื้อประโยชน์กลุ่มของตน ทำให้สมาชิกและสหกรณ์เสียหาย

เปิดหนังสือยื่นร้องปลด บอร์ดสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟชุดที่ 18 

คณะกรรมการดำเนินการไม่มีกระบวนการบริหารความเสี่ยงด้านต่าง ๆ ของสหกรณ์ ด้านการจัดสรร งบประมาณ สภาพคล่อง งบประมาณใช้จ่ายต่าง ๆ ภายในสหกรณ์ ไม่มีวิธีการปรับลดการใช้จ่ายในสหกรณ์ ขณะที่สหกรณ์อยู่ในสภาวะไม่ปกติ 

ข้อพิจารณาขอให้พิจารณาถึงเหตุผลในความจำเป็นต้องขอให้ปลดคณะกรรมการดำเนินการชุดที่ 18 พ้นจาก ตำแหน่งกรรมการ ตามพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ.2542 มาตรา 22 (4)

ข้อ 1 การดำเนินการของคณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ ชุดที่ 13 ถึงชุดที่ 18 มิได้เข้ามาทำหน้าที่โดยสุจริต เพื่อองค์กร เพื่อสมาชิก และเพื่อสหกรณ์พันธมิตรแต่อย่างใด กลับเป็นการเข้ามาบริหารเพียงเพื่อหวังกอบโกยผลประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง โดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวมของสมาชิก

จากการกระทำที่กล่าวมาจนนำไปสู่การถูกฟ้องดำเนินคดี ไม่แก้ไขข้อบกพร่องตามระยะเวลาที่นายทะเบียนกำหนด เป็นการกระทำหรืองดเว้นการกระทำอันก่อให้เกิดความเสียหาย และเสื่อมเสียประโยชน์ของสหกรณ์และสมาชิกสหกรณ์ 

เปิดหนังสือยื่นร้องปลด บอร์ดสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟชุดที่ 18 

ข้อ 2 คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟตั้งแต่ชุดที่ 13 ถึงชุดที่ 18 มีกลุ่มบุคคลที่ถูกฟ้องดำเนินคดี ชุดที่ 14 เป็นผู้ที่ชักจูงและเลือกบุคคลที่มีเจตนาเดียวกันเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการดำเนินการ ซึ่งการกระทำของกลุ่มบุคลดังกล่าวเป็นการส่อเจตนาเอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้อง ครอบงำ คณะกรรมการดำเนินการจากกลุ่มบุคคลที่โดนฟ้องดำเนินคดี

หากปล่อยให้สหกรณ์มีคณะกรรมการดำเนินการ ในลักษณะนี้ต่อไปจะเป็นผลเสียต่อสหกรณ์และสมาชิกในระยะยาว ยากแก่การแก้ไขให้สหกรณ์กลับมาสถานการณ์ปกติได้ 

ข้อ 3 คณะกรรมการดำเนินการไม่มีการแจ้งข้อมูลการถูกร้องทุกข์กล่าวโทษ การถูกดำเนินคดี การถูก ร้องเรียน และถูกลงโทษของสหกรณ์ ให้สมาชิกและที่ประชุมใหญ่ทราบซึ่งที่ผ่านมาคณะกรรมการชุดที่ 13 ถึงชุดที่ 18 มีกลุ่มบุคคลถูกนายทะเบียนดำเนินคดีฟ้องร้อง

เปิดหนังสือยื่นร้องปลด บอร์ดสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟชุดที่ 18 

แต่คณะกรรมการดำเนินการไม่มีการแจ้งเป็นหนังสือ หรือแสดงหลักฐานใด ๆ ให้สมาชิกได้รับทราบอย่างเปิดเผย ถือเป็นการปกปิด ซ่อนเร้นความผิด ช่วยเหลือเอื้อ ประโยชน์กลุ่มของตนทำให้สมาชิกและสหกรณ์เสียหาย 

ข้อ 4 พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด (สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 3) ได้ ยื่นฟ้อง นายสาโรจน์ สุขแสงดาว ที่ 1 กับพวกรวม 12 คน ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ คดีหมายเลขดำที่ 263/2566 เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566

ต่อมาวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 ศาลอาญากรุงเทพใต้ พิพากษาคดีหมายดำที่ 263/2566 คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ ชุดที่ 14 จำเลย 

เปิดหนังสือยื่นร้องปลด บอร์ดสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟชุดที่ 18 

โดยศาลมีคำพิพากษาให้จำเลย นายสาโรจน์ สุขแสงดาว ที่ 1 กับพวกรวม 12 คน มีความผิดในสองกรรมสองวาระ ให้จำคุกกระทงละ 2 เดือน รวม 4 เดือน ปรับกระทงละ 20,000 บาท เป็นเงิน 40,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ ศาลลดโทษจำคุก ให้รอลงอาญา 2 ปี ปรับจำเลยคนละ 20,000 บาท 

จากผลคำพิพากษาคดีถึงที่สุดและโทษจำคุก บุคคลในคณะกรรมการดำเนินการชุดที่ 14 ถึงชุดที่ 18 จึงไม่มีความเหมาะสม ไม่น่าเชื่อถือ ไม่ซื่อสัตย์ต่อสมาชิกและสหกรณ์ 

ข้อ 5 คณะกรรมการดำเนินการชุดที่ 18 มีผู้กระทำผิดโทษจำคุกให้รอลงอาญา จำนวน 5 คน เหลือ อีกจำนวน 10 คน แม้ว่าคณะกรรมการดำเนินการที่เหลือจะไม่ถูกฟ้องดำเนินคดี ซึ่งในระเบียบข้อบังคับ สหกรณ์สามารถดำเนินการต่อไปได้ แต่ปรากฏชัดเจนว่าทั้ง 10 คนก็เคยเป็นผู้ร่วมคณะกรรมการดำเนินการ ตั้งแต่ชุดที่ 13 ถึงชุดที่ 18 และทราบดีว่า มีกลุ่มบุคคลในคณะกรรมการตนเองถูกฟ้อง ดำเนินคดีมีความผิด ไม่ช่วยระงับการปฏิบัติหน้าที่ กลับร่วมลงมติเห็นชอบในเรื่องต่าง ๆ กับกลุ่มผู้ถูกฟ้อง ดำเนินคดีมาอย่างต่อเนื่อง

เปิดหนังสือยื่นร้องปลด บอร์ดสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟชุดที่ 18 

เป็นเหตุให้เกิดข้อบกพร่องหรือเสื่อมเสียผลประโยชน์ของสหกรณ์หรือสมาชิก นั่นเพราะคณะกรรมการดำเนินการที่เหลืออยู่มีความสนิทสนมกับกลุ่มบุคคลที่ถูกฟ้องดำเนินคดีมีความผิด 

ดังนั้น คณะกรรมการดำเนินการชุดที่ 18 จึงไม่มีความเหมาะสม ไม่น่าเชื่อถือ ไม่ซื่อสัตย์ต่อสมาชิกและสหกรณ์ สมาชิกสหกรณ์จึงไม่ให้ความไว้วางใจในการบริหารงานต่อไป จึงขอให้นายทะเบียนสหกรณ์มีคำสั่งปลด คณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟชุดที่ 18 ทั้งคณะ

ทั้งนี้ หนังสือฉบับนี้ส่งมาเพื่อให้นายทะเบียนสหกรณ์โปรดพิจารณา หากเห็นชอบด้วยและมีคำสั่งปลด คณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ ชุดที่ 18 สมาชิกที่ร่วมสนับสนุนขอส่งรายชื่อพร้อมเลขสมาชิกในการปลดคณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ ชุดที่ 18 จำนวน 116 คน

เปิดหนังสือยื่นร้องปลด บอร์ดสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟชุดที่ 18 

พร้อมทั้งขอเสนอรายชื่อสมาชิกสหกรณ์ทุกคนที่เป็นอดีตพนักงานการรถไฟฯ ที่มีความรู้ความสามารถ ในการบริหารงานในหน้าที่และที่ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชา มีความซื่อสัตย์ สุจริต ไม่เคยถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องทุจริต มีมนุษย์สัมพันธ์ มีการประสานงานทั้งภายในและภายนอกองค์กรได้ดี ผ่านงานด้านบริหารมาแล้ว เพื่อให้เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการชั่วคราว 12 คน พร้อมรูปถ่าย รายชื่อ ตำแหน่งอดีตพนักงานการรถไฟฯ เลขสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ เบอร์โทรศัพท์ มาพร้อมกันนี้ 

เปิดหนังสือยื่นร้องปลด บอร์ดสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟชุดที่ 18 

เปิดหนังสือยื่นร้องปลด บอร์ดสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟชุดที่ 18