ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมาเวลาประมาณ 11.06 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีการกระทรวงการคลังได้เรียก พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเข้าพบที่ตึกไทยคู่ฟ้าทำเนียบรัฐบาล
จากนั้นเวลา 11.28 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้เดินลงมาพร้อมกัน โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ผบ.ตร.ได้ขึ้นรถยนต์ส่วนตัวยี่ห้อแลนโลวเวอร์ ทะเบียน ฮ 5581 กลับไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขณะที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า จะกลับไปแถลงข่าวร่วมกันที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติซึ่งได้พบนายกรัฐมนตรีพร้อมกันกับ ผบ.ตร.และจากการพูดคุยกันไม่มีอะไรแล้ว จบแล้ว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า นายกฯเป็นคนเคลียร์ใช่หรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ย้ำว่า ขอให้ไปฟังรายละเอียดที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยในส่วนของคดีก็ว่าไป แต่ต้องกลับไปทำงานให้กับประชาชน ส่วนการพักราชการเป็นอำนาจของนายกฯ ในส่วนคดีใครมีคดีก็ว่ากันไปแต่วันนี้ความขัดแย้งต้องจบและกลับไปทำงานให้ประชาชน
เมื่อถามว่า นายกฯได้ฝากอะไรหรือไม่นั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวย้ำว่า ให้ทำงานให้ประชาชนให้หน่วยมีความสามัคคี พร้อมย้ำว่า วันนี้ไม่มีอะไรแล้วโดยใช้เวลาหารือ 20 นาที
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า สบายใจขึ้นแล้วหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า วันนี้นายกฯ ไม่มีเรื่องอื่นเลยเน้นเรื่องการทำงานและจากนี้ไปความขัดแย้งต้องเป็นศูนย์ คดีใดที่เกี่ยวข้องกับ ป.ป.ช.ก็รับไป ส่วนการที่มีการแฉอักษรย่อนั้น ขอไม่พูดแล้วเป็นเรื่องเก่า ใครมีคดีก็ไปสู้เอาแต่ความขัดแย้งทั้งหมดต้องจบ
เมื่อถามต่อว่า รับประกันได้หรือไม่ว่า จะไม่มีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า นายกฯเน้นย้ำแล้ว ตนและ ผบ.ตร.ต้องไปช่วยกันทำ เดินหน้าไม่มีความขัดแย้ง ต้องจบ โดยส่วนตัวทำหน้าที่ตามปกติอยู่แล้ว และการพูดคุยไม่ต้องจับมือกัน วันนี้ไม่มีอะไรแล้ว คุยกันหมดแล้ว ก่อนหน้านี้ก็คุยกันแล้ว จากนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ได้เดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาลเพื่อเดินทางไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติทันที