“สุวัจน์”เผยพรรคร่วมรัฐบาลหนุนโครงการแจกเงินดิจิทัลของรัฐบาล

22 เม.ย. 2567 | 07:48 น.
อัปเดตล่าสุด :22 เม.ย. 2567 | 07:56 น.

“สุวัจน์”เผยพรรคร่วมรัฐบาลหนุนโครงการแจกเงินดิจิทัลของรัฐบาล หลังมีการชี้แจงเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง เชื่อจะทำให้เศรษฐกิจะดีขึ้น เพิ่มกำลังซื้อให้กับประชาชน

วันนี้(22 เม.ย.67) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ได้เชิญหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล แกนนำพรรค และ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าหารือที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงประเด็นที่จะนำเข้าหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันที่ 23 เมษายนนี้

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า เปิดเผยว่า การที่ได้มีการประชุมพรรคร่วมรัฐบาลเกี่ยวกับโครงการแจงเงินดิจิทัลวอลเล็ต ที่ทำเนียบรัฐบาลในวันนี้ว่า ต้องขอขอบคุณพรรคเพื่อไทย ที่ได้ให้เกียรติเชิญพรรคร่วมรัฐบาล มารับทราบรายละเอียดของหลักการของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ก่อนที่จะนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา

บรรยากาศในการประชุมมีการหารือกันเป็นไปได้ด้วยดี ได้มีการสอบถามในประเด็นต่างๆ จากผู้ที่เกี่ยวข้อง ที่อยู่ในความสนใจของพี่น้องประชาชนรวมทั้งข้อแนะนำจากองค์กรอิสระต่างๆ  ซึ่งในที่ประชุมได้มีการชี้แจงและยืนยันกระบวนการ และขั้นตอนของการดำเนินการโครงการ ว่าเป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง 

รวมทั้งผลประโยชน์ที่จะได้รับจากโครงการนี้ คือตัวเลขทางเศรษฐกิจจะดีขึ้น โดยเฉพาะตัวเลขของอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจหรือ GDP ซึ่ง ตกต่ำมากในขณะนี้ ประมาณ 2% อยู่ในอันดับที่ 9 ของอาเซียน คาดว่าน่าจะเพิ่มการเติบโตของ GDP ได้อีก 

นอกจากนั้น จะเกิดประโยชน์กับการเพิ่มกำลังซื้อให้กับประชาชนผู้ได้สิทธิ์จากการเข้าร่วมโครงการมากกว่า 50 ล้านคน ในภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดีในขณะนี้ รวมทั้งร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการอีกหลายแสนราย ที่จะได้ประโยชน์จากการค้าขาย ซึ่งโดยภาพรวมของโครงการจะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจให้กับทุกฝ่าย

โครงการดิจิทัลวอลเล็ต มีพื้นฐานจากนโยบายของพรรคเพื่อไทย ซึ่งได้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายของรัฐบาล ที่เป็นรัฐบาลผสมจากหลายพรรคการเมือง 

ฉะนั้นทุกพรรคการเมืองที่ร่วมรัฐบาลที่ได้เข้าร่วมประชุมและหารือในวันนี้ จึงได้มีโอกาสรับฟังและสอบถามข้อมูลที่เกี่ยวข้อง และทุกพรรคก็ให้การสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล ในการดำเนินการโครงการนี้ ให้เกิดประโยชน์โดยส่วนรวมทั้ง เศรษฐกิจ พี่น้องประชาชน และ ผู้ประกอบการ โดยยึดถือความถูกต้อง ตามกระบวนการกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องทุกประการ รวมทั้งข้อห่วงใยจากทุกฝ่าย