นายกฯหนุน พัฒนาสายพันธุ์ เพิ่มผลผลิตต่อไร่ ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้

วันที่ 6 พฤษภาคม 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ถึงการลงพื้นที่จังหวัดมหาสารคามและจังหวัดร้อยเอ็ด ระหว่างวันที่ 5 - 6 พ.ค. นี้ โดยช่วงหนึ่ง นายกฯได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าว เกี่ยวกับการพัฒนาข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ ให้ติดอันดับโลกมากขึ้นว่า จะมีการขยายเพื่อส่งเสริมมูลค่าเพิ่ม ให้กับผลิตภัณฑ์สินค้าทางการเกษตร โดยต้องพัฒนาสายพันธุ์และปริมาณการเพาะปลูกต่อไร่ เราอยากให้มีปริมาณที่สมดุลขึ้น รวมถึงการบริหารจัดการเรื่องน้ำต่าง ๆ ซึ่งเชื่อว่าจะดีขึ้น 

นายกฯ กล่าวว่าความต้องการข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ในต่างประเทศสูงมาก แต่ข้าวหอมมะลิผลผลิตต่อไร่ต่ำกว่าข้าวพันธุ์ข้าวธรรมดา จึงต้องมีความพยายามยกระดับให้สูงขึ้น โดยในแง่ของต้นทุนการผลิต ถ้าสามารถทำให้ผลผลิตต่อไร่ออกมาเป็น 650 กิโลกรัมต่อไร่ ราคาข้าวก็จะสูงขึ้น ซึ่งเรื่องการบริหารจัดการน้ำเป็นเรื่องสำคัญ แต่ต้องใช้เวลา จึงต้องมาดูด้วยตาตนเอง และเชิญรัฐมนตรีหลายท่านมาด้วย

นอกจากนั้นนายกรัฐมนตรี  ได้กล่าวถึงภาพรวมการลงพื้นที่ จังหวัดมหาสารคามและจังหวัดร้อยเอ็ด ว่า ดูปัญหาในทุกมิติ ทั้งเรื่องปัญหาภัยแล้ง ปัญหาน้ำท่วม ทั้งหนองน้ำและอ่างเก็บน้ำ พยายามแก้ปัญหาในพื้นที่ รวมถึงปัญหาถนนที่ต้องมีการขยาย ให้การจราจรและการคมนาคมเป็นไปได้ด้วยดี 

ที่สำคัญรัฐบาลต้องการแก้ปัญหาเรื่องยาเสพติด ซึ่งเป็นปัญหาในพื้นที่ภาคอีสานที่มีเยอะมาก ตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งแล้ว ซึ่งมาหลายครั้งแล้วแต่ปัญหาก็ยังเป็นแบบเดิมตลอด วันนี้มีเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมาด้วย เพื่อดูว่าจากนี้ต่อไปอีก 90 วัน ต้องมีอะไรที่เป็นรูปธรรม ไม่ว่าจะเรื่องการยึดทรัพย์ การกำหนดมาตรฐานที่จะต้องมียาบ้ากี่เม็ดจะเข้าข่ายเป็นผู้ขาย  

รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายต่าง ๆ เป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ในเรื่องของหนี้นอกระบบ ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญและตนเองได้กำชับกับฝ่ายปกครอง แล้วฝ่ายความมั่นคง ว่าจะต้องมีการจัดการให้หมดสิ้นไป 

สำหรับการลงพื้นที่นายกฯและคณะครั้งนี้  ยังได้ติดตามการบริหารงานโรงพยาบาลโพนทอง ต.สระนกแก้ว อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด 
โดยมีนพ.กัมปนาท โกวิทางกูร ผอ.รพ.โพนทอง บุคลากร และเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์

ผอ.รพ.โพนทอง นำเสนอความต้องการของโรงพยาบาล ในการของบประมาณสนับสนุนการสร้างอาคารอุบัติเหตุวินิจฉัย และบำบัดรักษา 6 ชั้น อาคารทันตกรรมอาคารคนไข้พิเศษ อาคารพักเจ้าหน้าที่ อาคารห้องชุดครอบครัว รวมถึงรถโมบายสำหรับทันตกรรมเคลื่อนที่ เพราะของเดิมมีจำนวนน้อย เนื่องจากนำไปใช้ในภารกิจอื่น