สกุลธร แก้ต่าง 6 ปม คดีติดสินบนเช่าที่สำนักทรัพย์สินฯ

22 พ.ค. 2567 | 02:28 น.
อัปเดตล่าสุด :22 พ.ค. 2567 | 02:57 น.

สกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ น้องชายธนาธร ออกคำชี้แจงแก้ต่าง 6 ปม คดีติดสินบนเช่าที่ดิน ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์

วันที่ 22 พ.ค.67 นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานบริหารบริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์จํากัด ซึ่งเป็นน้องชายของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ได้ออกคำชี้แจง 6 ประเด็น ในคดีที่ตัวเขาตกเป็นผู้ต้องหาและถูกศาลพิพากษาจำคุก 6 เดือน เมื่อ 20 พ.ค.67 ในคดีติดสินบนเจ้าพนักงานและนายหน้าเป็นเงินจำนวน 20 ล้านบาท เพื่อเช่าที่ดินของทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ 2 แปลงใน ซ.ร่วมฤดี และย่านชิดลม กทม. 

โดยคำชี้แจงของนายสกุลธร ระบุว่า ผมเป็นผู้แจ้งเบาะแสทุจริตแต่กลับกลายเป็นผู้ต้องหาคดีทุจริต? สืบเนื่องจากคดีการทุจริตซึ่งเกิดขึ้นกับสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ตามที่ปรากฏในข่าว เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2567 โดยมีผมเข้าไปเกี่ยวข้องเป็นจำเลยในคดีนี้

ผมขอชี้แจงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว ดังนี้

1. ผมและคณะทำงานในขณะนั้น ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการเช่าที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ โดยได้ดำเนินการเป็นไปตามระเบียบและขั้นตอนตามกฎหมายตามที่เจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินฯ ได้แจ้งกับผมและทีมงานทุกประการแต่ต่อมาภายหลัง ผมได้ทราบว่าเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวได้หลอกลวงผม ด้วยการปลอมแปลงเอกสารของสำนักงานทรัพย์สินฯ

2. เมื่อผมได้ทราบว่าถูกเจ้าหน้าที่คนนี้หลอก ก็แสดงความบริสุทธ์ใจ โดยรีบแจ้งข้อเท็จจริงถึงเรื่องดังกล่าวไปยังสำนักงานทรัพย์สินฯ จนเป็นเหตุทำให้สำนักงานทรัพย์สินฯ ดำเนินคดีอาญากับบุคคลนี้ จนศาลพิพากษาลงโทษเขาพร้อมกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้อง และคดีถึงที่สุดไปแล้ว

3. ระหว่างสอบสวนคดีดังกล่าวในช่วงปี 2562 ผมยังเคยได้รับเชิญไปให้การในฐานะผู้เสียหายจากกรณีดังกล่าวด้วย แต่เนื่องจากในขณะนั้นผมติดภารกิจสำคัญอยู่ที่ต่างประเทศจึงไม่ได้ไปให้การเป็นพยานกับพนักงานสอบสวน

4. ในช่วงระหว่างการดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่หลอกลวงปลอมแปลงเอกสารสำนักงานทรัพย์สินฯกลุ่มนี้ ตั้งแต่ในชั้นสอบสวนกระทั่งถึงในชั้นศาล พนักงานสอบสวนไม่เคยดำเนินคดีใดๆกับผมทั้งสิ้น

5. แต่หลังจากนั้น กลับมี "นักร้อง" ไปร้องให้ดำเนินคดีผม หาว่าผมรู้เห็นเป็นใจกับบุคคลนี้และเป็นผู้ใช้ให้กลุ่มบุคคลดังกล่าวไปกระทำการทุจริต

6. ผมขอตั้งคำถามให้ทุกท่านลองพิจารณาด้วยใจเป็นธรรม ว่าหากผมมีส่วนร่วมในการกระทำความผิดดังกล่าวจริงแล้ว เหตุใดผมจะต้องวิ่งไปแจ้งข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการหลอกลวงดังกล่าวเพื่อให้ตัวเองเดือดร้อนถูกดำเนินคดีไปด้วย?

ผมคือผู้เสียหายจากการหลอกลวงของเจ้าหน้าที่รัฐ สมควรได้สิทธิ์คุ้มครอง เยียวยาไม่ใช่จำเลยการที่ผมเป็นผู้เริ่มคดีขึ้นเสียเองด้วยการแจ้งเบาะแสการทุจริตไปยังสำนักงานทรัพย์สินก็เพราะไม่อยากให้สำนักงานทรัพย์สินฯได้รับความเสื่อมเสียจากการที่มีบุคลากรแอบแฝงกระทำการหลอกลวงผู้อื่นเช่นที่ผมพบเจอด้วยตนเอง

ผมเคารพในคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ผมขอใช้สิทธิต่อสู้คดีจนถึงที่สุด และพร้อมที่จะชี้แจงข้อเท็จจริง เพื่อพิสูจน์ความสุจริตใจของผมตามครรลองของกระบวนการยุติธรรมต่อไป

สกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ
21 พฤษภาคม 2567