วันนี้ (29 พ.ค. 67) ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์สั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยในคดีที่ นายธรณิศ มั่นศรี ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีหน้าที่ในการกำกับ ควบคุม และบังคับใช้กฎหมายตามพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 5 มาตรา 28 และมาตรา 29 และระเบียบ กกต.ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 ข้อ 17 แต่กกต.ละเลยให้พรรคก้าวไกลนำประเด็นการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 มาใช้หาเสียงเลือกตั้ง
การกระทำของ กกต. เป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เสมือนหนึ่งเป็นการสนับสนุนให้ พรรคก้าวไกล กระทำผิดในการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง
โดยศาลฯ เห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้อง และเอกสารประกอบคำร้องไม่ปรากฏว่า นายธรณิศ ประสงค์ให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งการใดตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคสอง กรณีจึงไม่เป็นคำร้องตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49
ขณะเดียวกัน ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการอภิปรายในคำร้องที่ผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอเรื่อง ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 231 (1) ว่า พ.ร.บ.สัญชาติ 2508 มาตรา 17 และมาตรา 18 มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 39 วรรคสอง หรือไม่
โดยศาลฯ เห็นว่า เพื่อประโยชน์แห่งการพิจารณาให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำความเห็น และจัดส่งสำเนาเอกสารหลักฐานตามที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนดยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ เพื่อประกอบการพิจารณาวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ต่อไป