กกต.สยบข่าวผู้สมัคร 149 สว. ผ่านรอบระดับอำเภอ ไม่เป็นความจริง

04 มิ.ย. 2567 | 06:24 น.
อัปเดตล่าสุด :04 มิ.ย. 2567 | 06:30 น.

กกต.ชี้ข่าวผู้สมัคร สว. 149 คนผ่านรอบระดับอำเภอ คาดเคลื่อนความเป็นจริง ชี้ปมผู้สมัคร สว. มุกดาหารสวมสูทเหมือนกัน พบถ่ายรูปร้านเดียวกันจริงแต่ยังไม่มีพฤติกรรมทุจริต

วันนี้( 4 มิ.ย. 67) สำนักงานกกต. แจ้งว่ากรณีมีการโพสต์ข้อมูลลงในเฟซบุ๊ก ว่า “...เหตุใดยังไม่ถึง วันเลือกรอบแรกในระดับอำเภอตามที่ กกต. กำหนดนัดหมาย เหตุใดในบัญชีโพยผู้สมัครทั่วประเทศ เขามีรายชื่อ ผู้ผ่านเข้ารอบผ่านด่านจากอำเภอ และผ่านจังหวัดไป เข้ารอตัดเชือกเลือกในระดับประเทศแบบนอนมา ถึง 149 คน แล้ว...” และข่าวของผู้สมัคร สว. อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร ว่า “...ใส่สูท เสื้อในเชิ้ตขาว อย่างพร้อมเพรียง ราวกับถ่ายจากร้านเดียวกัน...” นั้น 

กกต. ขอชี้แจงว่า ข่าวดังกล่าวคลาดเคลื่อนต่อความเป็นจริง กล่าวคือ ขณะนี้ การเลือกผู้สมัคร สว. ในระดับอำเภอ, ระดับจังหวัด และระดับประเทศ ยังไม่ได้ดำเนินการลงคะแนนเลือกผู้สมัคร สว. การเสนอข่าว “...เข้ารอตัดเชือก เลือกในระดับประเทศแบบนอนมา ถึง 149 คนแล้ว...” นั้น จึงเป็นการคาดเดาของผู้เสนอข่าวโดยไม่มีมูลความจริง และปราศจากพยานหลักฐานยืนยันว่า ข้อเท็จจริงดังกล่าวเป็นความจริง

สำหรับการนำเสนอข่าวว่า ผู้สมัคร ส.ว. “...ใส่สูท เสื้อในเชิ้ตขาว อย่างพร้อมเพรียง ราวกับถ่ายจากร้านเดียวกัน...” นั้น ผู้อำนวยการสำนักงาน กกต. ประจำจังหวัดมุกดาหาร ได้ไปตรวจสอบ ณ ร้านกอไก่สตูดิโอแล้ว ปรากฏว่า ผู้สมัคร สว. อำเภอคำชะอี กลุ่มที่ 14 มีการถ่ายรูป ณ ร้านดังกล่าวจริง และนำรูปถ่ายมาใช้ในการสมัคร สว. จริง โดยยังไม่ปรากฏว่า ผู้สมัคร สว. กลุ่มดังกล่าว ร่วมกัน หรือ มีพฤติการณ์ที่กระทำความผิดตามกฎหมาย แต่อย่างใด

กกต. ขอเรียนให้ทราบว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้สำนักงาน กกต. ประจำจังหวัดทุกจังหวัด ทำการตรวจสอบและติดตามพฤติกรรมของผู้สมัคร สว. ทุกราย หากปรากฏว่า ผู้สมัคร สว. ผู้หนึ่งผู้ใด กระทำความผิด หรือมีผู้แจ้งเบาะแส พร้อมพยานหลักฐานว่า ผู้สมัคร สว. กระทำความผิด กกต. จะดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย โดยเฉียบพลัน

ด้านนายเทวฤทธิ์ มณีฉาย ผู้สมัครคัดเลือก สว. และบก.ประชาไท เข้าได้ยื่นหนังสือต่อ กกต. เพื่อแสดงความบริสุทธิ์หลังจากที่นายสมชาย แสวงการ สว. โพสต์ข้อความตั้งข้อสังเกตว่า มีผู้สมัครสว. 149 คน อาจเข้าข่ายกระทำการฮั้วคัดเลือก สว. เนื่องจากแต่ละกลุ่มอาชีพมีผู้สมัครไม่เกิน 2 คน 

นายเทวฤทธิ์ กล่าวว่า รายชื่อที่นายสมชาย โพสต์มีการระบุอักษรย่อชื่อ นามสกุล กลุ่มที่ลงสมัคร จังหวัด อำเภอ รายชื่อ ซึ่งช่วงนี้อยู่ในช่วงของการแนะนำตัวของผู้สมัครสว. และตนเป็นหนึ่งใน 149 รายชื่อ โดยจะรู้ได้เลยว่าในรายชื่อเหล่านั้นมีใครบ้าง 

ทั้งนี้นายสมชาย เคยเป็นหนึ่งในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ปี 2549 , 2557 รวมถึงดำรงตำแหน่งเป็น สว. รวมถึงยังเคยทำดุษฎีนิพนธ์ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. ที่เหมาะสมกับสังคมไทย แปลว่า นายสมชาย ก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่า 149 รายชื่อ เป็นใคร รวมถึงสื่อก็สามารถรู้ได้เช่นกันว่ามีใครบ้าง 

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ตนได้เข้าไปคอมเม้นในโพสต์ดังกล่าว แต่นายสมชาย ไม่ยี่หระ ไม่ได้มีการตรวจสอบ หรือแก้ต่างให้ด้วย ซึ่งถ้าหากพูดถึงความเป็นธรรม นายสมชาย เคยเป็นนักข่าวเก่า ก็ควรจะให้ความเป็นธรรมกับตน และคนอื่นๆ บ้าง ซึ่งคนที่มีรายชื่อได้ลงบันทึกประจำวันเอาไว้แล้วแม้เป็นเพียงตัวอักษรย่อก็ตาม

“ผมมายื่นชี้แจงเพื่อความบริสุทธิ์ใจ เนื่องจากวันที่ 3 มิ.ย. มีการตอบโต้ไปมา และสอบถามไปยังประธานกกต.ในประเด็นนี้  ถึงแม้จะพูดว่าไม่เชื่อว่าเป็นการฮั้ว แต่ได้บอกว่ากำลังตรวจสอบ และเสนอข่าวใหญ่ทำให้เราเดือดร้อนซ้ำสอง เพราะคนเห็นว่า กรณีนี้มีมูลใช่หรือไม่จึงตรวจสอบ 

ผมจึงมาชี้แจงในเบื้องต้นเพื่อความบริสุทธิ์ใจ แต่ไม่มีความตั้งใจจะดำเนินคดีกับนายสมชาย แม้ที่ผ่านมาคุณสมชาย ก็เป็นคนให้ความรู้ในด้านกฎหมาย แต่ถ้าดูมาตรา 76 พ.ร.ป. ว่าด้วยการได้มาซึ่งสว. มีข้อห้ามของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แต่นายสมชาย ก็เป็นคนที่ให้คุณและให้โทษกับผู้สมัครว่า จะได้หรือไม่ได้คะแนน และมาตรา 78 ของพ.ร.ป.ดังกล่าว ระบุเรื่องการให้ข้อมูลอันเป็นเท็จทำให้ผู้สมัครคนอื่นทำละเมิดพ.ร.ป.นี้ จึงขอความเป็นธรรมในเรื่องนี้ในสมดุลแห่งข่าว และข้อเท็จจริงด้วย  เพราะชาวบ้านเขาอาจจะเห็นข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ได้ และคุณสมชาย ก็ไม่ใช่ชาวบ้านตาดำๆ” 

นายเทวฤทธิ์ กล่าวอีกว่า จากการเช็คในเว็บไซต์ กกต .ระบุถึงคนที่สมัคร 1-2 คน ซึ่งคาดการณ์ได้ว่า มีโอกาสที่จะฮั้ว แต่ไม่ได้หมายความเขาจะเป็นคนที่ฮั้วมาลง แม้คุณจะตั้งประเด็นว่ารู้หรือไม่พื้นที่บางแห่งมีผู้สมัครน้อยแล้วไปลง แต่ถ้าไปเช็คมีพื้นที่ฟันหลอมากมาย คือ ผู้สมัครเพียงคนเดียว ซึ่งเขาไม่ปล่อยให้ฟันหลอสำหรับคนที่มุ่งหวังโอกาสจากการฮั้วนี้ แต่ในเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องฮั้ว แต่เป็นบัญชีผู้สมัคร 1-2 คนในกลุ่มวิชาชีพในจังหวัดนั้นๆ