“ฐากร” โต้ “สุริยะ” อย่ากินปูนร้อนท้อง หลังแฉหน่วยงานในคมนาคม"หักหัวคิว"

05 มิ.ย. 2567 | 12:06 น.
อัปเดตล่าสุด :05 มิ.ย. 2567 | 12:33 น.

“ฐากร ตัณฑสิทธิ์” โต้ “สุริยะ” อย่ากินปูนร้อนท้อง แจงข้อมูลที่นำมาเปิดเผยไม่ระบุถึงหน่วยงานใดในกระทรวงคมนาคม ชี้ "รมว.คมคมนาคม"กล่าวพาดพิงกรมทางหลวง จี้ให้ตรวจสอบตรงกับข้อเท็จจริงหรือไม่

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยสร้างไทย ให้สัมภาษณ์วันที่ 6 มิถุนายนนี้ กรณีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวถึงการที่ตนออกมาเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการทุจริตในกระทรวงคมนาคม ว่าเป็นการจินตนาการขึ้นมาโดยที่ข้อมูลไม่ตรงกับข้อเท็จจริงนั้น ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณนายสุริยะ ที่ให้ความสำคัญในประเด็นนี้ และ ขอชี้แจงในประเด็นที่นายสุริยะให้ข่าวกับสื่อ ดังนี้

  • คนที่มาร้องเรียนเป็นคนแจ้งว่า เดิมกระทรวงคมนาคมเคยมีการเรียกเก็บเปอร์เซ็นต์จากผู้รับเหมา 6+6 แต่ตอนนี้เรียกเก็บมากกว่านั้น เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการที่ตนเคยทำงานที่สำนักงบประมาณ เพียงแต่แจ้งว่าจากประสบการณ์ที่สำนักงบประมาณทำให้สามารถตรวจสอบงบประมาณต่างๆ ของรัฐได้เป็นอย่างดีเท่านั้น  ดังนั้นนายสุริยะน่าจะจินตนาการเรื่องนี้เองมากกว่า

 

  • การให้ข้อมูลของตนในครั้งนี้บอกแต่เพียงว่าเป็นหน่วยงานหนึ่งในกระทรวงคมนาคมแต่ไม่เคยกล่าวพาดพิงว่าเป็นหน่วยงานใด แต่เมื่อนายสุริยะออกมาพูดถึงหน่วยงานนั้นด้วยตัวเอง ก็ขอให้นายสุริยะตรวจสอบหน่วยงานดังกล่าวและตรวจสอบหน่วยงานอื่นในกระทรวงคมนาคมทั้งหมดด้วย 
  • สำหรับประเด็นเรื่องจินตนาการนั้น จะขอกล่าวเพิ่มเติมว่านายสุริยะควรตรวจสอบคนใกล้ชิดจะเกิดประโยชน์มากกว่าเพราะ จินตนาการกับความจริงนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

 

 

 

"ผมว่าคุณสุริยะไม่ควรกินปูนร้อนท้อง เพราะในการให้สัมภาษณ์ของผมนั้นเพียงต้องการบอกว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นในกระทรวงคมนาคม และ เพื่อให้การบริหารงานมีความโปร่งใส เป็นไปด้วยความสุจริต เป็นไปด้วยประโยชน์ประเทศชาติและประชาชนมากที่สุดอย่าลืมว่ารัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตยที่ประชาชนตั้งความหวังไว้มาก"นายฐากรกล่าวและว่า สำหรับประเด็นที่นายสุริยะกลัวข้าราชการเสียกำลังใจนั้น  การที่ข้าราชการจะเสียกำลังใจหรือไม่ ขอให้นักการเมืองทำงานแบบโปร่งใสและบริสุทธิ์ยุติธรรม ก็จะสร้างขวัญและกำลังใจให้ข้าราชการมากกว่า ส่วนข้อมูลของตนจะตรงหรือไม่ตรงกับข้อเท็จจริงอย่างไร  รอพบกันในวันอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎรก็แล้วกัน แต่ยืนยันได้ว่าการให้เบาะแสปมพิรุธครั้งนี้เป็นไปด้วยความสุจริตใจไม่มีผลประโยชน์อื่นใดเคลือบแฝง