เปิดข้อต่อสู้ ทีมกฎหมาย "คดีคุณสมบัตินายกฯ" เศรษฐาไปต่อ

12 มิ.ย. 2567 | 00:00 น.

เปิดข้อต่อสู้ ทีมกฎหมายทำเนียบรัฐบาล ไม้เด็ด แก้ต่าง ปม คุณสมบัตินายกรัฐมนตรี วิษณุ อาวุธลับ อนุรักษนิยม ตัวช่วยเศรษฐา ไปต่อ?

คำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาคดีคุณสมบัติของ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี “ผ่านมือ” วิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ทั้ง “สามชั้น”

ชั้นที่หนึ่ง ชั้นที่ “ทีมกฎหมายตึกไทยคู่ฟ้า” ยกร่าง ชั้นที่สอง ชั้นที่ต้องผ่านสายตา “เนติบริกร” 13 รัฐบาล 9 นายกฯ และชั้นที่สาม “ดราฟท์สุดท้าย” ก่อนถึงมือศาลรัฐธรรมนูญ 

“ประเด็นไหนที่เห็นว่า ควรจะปรับปรุงก็ยอมปรับ แต่บางประเด็นผมก็ยอม ถ้าเห็นว่าซับซ้อน วกวน ก็ปรับปรุงแก้ไข ตัดออกไปบ้าง เพิ่มเข้าไปบ้าง ส่วนจะสมบูรณ์หรือไม่ ไม่รู้ เพราะทำได้แค่นั้น แต่ศาลสามารถขอคำชี้แจง หรือขอเอกสารเพิ่มเติมได้

ที่ชี้แจงไปมีทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ซึ่งสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาก็ทำตามขั้นตอนของระเบียบและกฎหมาย เคยทำกับรัฐมนตรีร้อยคนในอดีตอย่างไรก็ทำอย่างนั้น แต่ยอมรับว่า ครั้งนี้เข้มงวดเป็นพิเศษ”วิษณุระบุ

รัฐธรรมนูญมาตรา 160 (4) และ (5) เรื่องซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และจริยธรรม “ข้อต่อสู้” ที่ทีมกฎหมายใช้ต่อสู้ คือ “เรื่องจริยธรรมและคุณธรรมเป็นคุณสมบัติ ณ วันที่เป็นรัฐมนตรีแล้วเป็นต้นไปไม่มีผลย้อนหลัง” ไม่สามารถนำมาใช้ “ก่อนเป็น” รัฐมนตรีได้ ส่วนประมวลจริยธรรมรัฐมนตรีและข้าราชการการเมืองใช้สำหรับขณะเป็นรัฐมนตรีแล้ว 

นอกจาก “ข้อกฎหมาย” แล้วยังมี “ข้อเท็จจริง” ที่ปรากฏอยู่ใน “บันทึกการประชุม” ของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญที่พิจารณามาตรา 160 (4) และ (5) พบว่า “เสียงแตก” ระหว่างควร “มี” หรือ “ไม่มี” ในรัฐธรรมนูญปี 60 เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีในเรื่องซื่อสัตย์สุจริต-จริยธรรมเพราะวัดได้ยาก 

ขณะเดียวกันที่ผ่านมาตั้งแต่รัฐธรรมนูญฉบับปี 60 ประกาศบังคับใช้ไม่เคยมีรัฐมนตรีคนใดถูกตรวจสอบคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160 (4) และ (5) มิหนำซ้ำรัฐธรรมนูญฉบับหลังปี 60 ก็ไม่เคยเขียนเรื่องซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์-จริยธรรมร้ายแรง จึงเป็นที่มาของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี “ไม่ถาม” สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา “ไม่ตอบ”

นอกเหนือจากการพลิกตำรากฎหมายชิงเหลี่ยมทุกมาตรา-ทุกตัวอักษรแล้ว อีกด้านหนึ่งก็เกิดการชิงไหวชิงพริบทางการเมืองเข้มข้น-ถึงพริกถึงขิงเช่นเดียวกัน

แหล่งข่าวด้านการรักษาเสถียรภาพรัฐบาลประเมินว่า นายเศรษฐาจะได้ “ไปต่อ” โดยมี “วิษณุ เครืองาม” เป็น “จิ๊กซอว์ตัวสำคัญ”

“ถามว่าทำไมต้องเป็นนายวิษณุ ก็เพราะเป็นจุดเชื่อมกับฝ่ายอนุรักษนิยมและเป็นตัวช่วยเพื่อให้ดูน่าเชื่อถือในการอธิบายข้อกฎหมาย”แหล่งข่าวระบุ 

สุดท้ายศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรีของ “พิชิต ชื่นบาน” ปมซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์-จริยธรรม เริ่มนับย้อนหลัง-ก่อนเป็นรัฐมนตรี จนกระเทือน  “คุณสมบัตินายกรัฐมนตรี” ของนายเศรษฐาหรือไม่ โปรดติดตามตอนต่อไปด้วยใจระทึก