ด่วน “บิ๊กต่อ” คัมแบ็ก ถือฤกษ์ 17.09 น. แต่งเครื่องแบบเต็มยศกลับเข้าสตช.

21 มิ.ย. 2567 | 10:49 น.

ข่าวด่วน "พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล" ถือฤกษ์ 17.09 น. วันนี้ 21 มิ.ย.67 แต่งเครื่องแบบตำรวจเต็มยศ เข้ามาสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว 

วันที่ 21 มิ.ย. 2567  รายงานข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)แจ้งว่า วันนี้เมื่อเวลา 17.09 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เดินทางเข้ามาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยใช้รถยนต์โตโยต้า Vellfire สีเทา ทะเบียน 3 ขณ 1973 กรุงเทพฯ จอดที่ลานจอดรถอาคาร 1

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ แต่งเครื่องแบบตำรวจเต็มยศและเดินเข้าตึกด้วยท่าทีรีบร้อน พร้อมตำรวจติดตาม ก่อนที่จะขึ้นไปยังชั้น 2 ของอาคาร ผู้สื่อข่าวประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ทักทาย แต่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ได้โบกมือและกล่าวว่าไม่ขอให้สัมภาษณ์ ก่อนจะรีบเดินขึ้นบันไดไปยังชั้น 2

การปรากฏตัวครั้งนี้ของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ถือเป็นครั้งแรกหลังจากที่ได้รับคำสั่งจากนายกรัฐมนตรีให้ไปปฏิบัติหน้าที่ที่สำนักนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2567 พร้อมกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล และมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสองนายพลตำรวจ

หลังจากการสอบสวนเสร็จสิ้นและรายงานผลการสอบสวนนายกรัฐมนตรีได้รับทราบ นายกรัฐมนตรีจึงมีคำสั่งให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กลับมาปฏิบัติหน้าที่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติในตำแหน่ง ผบ.ตร. ตามเดิม

 

ฟื้นฟูภาพลักษณ์ตำรวจ-เรียกคืนศรัทธาจากประชาชน

ก่อนหน้านี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการลงนามคำสั่งให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กลับมาปฏิบัติหน้าที่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า ปัญหาในองค์กรเป็นสิ่งที่ต้องยอมรับและพยายามแก้ไข

“ปัญหาในองค์กรมีอยู่แล้ว ต้องยอมรับว่าตอนที่ผมเข้ามาพยายามที่จะสะสาง พยายามที่จะบริหารจัดการ เรื่องที่เป็นปัญหาที่เบอร์ 1 เบอร์ 2 ทะเลาะกัน เมื่อ 3-4 เดือนที่ผ่านมา ก็มีการสั่งการ จึงมีการตั้งคณะกรรมการอิสระขึ้นมาตรวจสอบ”นายกฯ กล่าว

นายกฯ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า กระบวนการสอบสวนใกล้จะเสร็จสิ้น และจะมีการพูดคุยเพิ่มเติมเมื่อผลสอบออกมา “วันนี้มาถึงจุดที่ใกล้จะจบแล้ว ต้องทำอะไรบ้างขออีกนิดนึง ให้ผลออกมา แล้วค่อยมาพูดคุยกันใหม่ดีหรือไม่”

ผู้สื่อข่าวยังได้ถามย้ำถึงความสามารถในการเรียกคืนศรัทธาจากประชาชน นายกฯ เศรษฐา ยอมรับว่าต้องใช้เวลาและความเป็นธรรม “ต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองคน แต่มีขบวนการตามกฎหมายอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าเป็นนายกฯ แล้ว จะทำได้ทุกอย่าง”

นายกฯ ย้ำว่า หากพบความผิดจะดำเนินการอย่างเด็ดขาด “แน่นอนว่าถ้าหากมีความผิด ต้องจัดการขั้นเด็ดขาด”