วันนี้ ( 25 มิ.ย. 67 ) นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า ขณะนี้เหลือผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา (สว.) จำนวน 2995 คน จาก 3,000 คน เนื่องจากในฐานะที่เป็นผู้อำนวยการเลือก สว. ระดับประเทศ ได้สั่งลบชื่อผู้สมัคร 5 คน ที่ขาดคุณสมบัติ และมีลักษณะต้องห้าม แม้ผู้สมัครมายื่นคัดค้านต่อศาลฎีกา ศาลก็ยืนตาม กกต.
พร้อมกับเน้นย้ำให้ผู้สมัครมารายงานตัวให้ทันช่วงเวลา 08.00 น. ถึง 09.00 น. และมีหลักฐานการยืนยันตัวตนมาด้วย โดยหวังว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย ทั้งนี้คำร้องต่างๆ ที่เกี่ยวกับกระบวนการเลือก สว.ได้พิจารณาเสร็จสิ้น
นายแสวง ยังกล่าวถึงการชี้แจงผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุล สถานกงสุลกิตติมศักดิ์ และองค์กรระหว่างประเทศประจำประเทศไทย ที่จะมาร่วมสังเกตกระบวนการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ระดับประเทศ ในวันที่ 26 มิ.ย.นี้ ว่า เพื่อเป็นการชี้แจงกระบวนการได้มาซึ่ง สว.200 คน ของไทย ขณะเดียวกันในวันพรุ่งนี้ จะมีคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎร ภาคประชาสังคม ไอลอว์ วีวอช ก็จะเข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย
ส่วนที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์กรณี กกต. ระบุจับทุจริตเลือกสว.ไม่ง่ายนั้น สิ่งที่ได้ชี้แจงเมื่อวานนี้อยู่ในขั้นการรวบรวมพยานหลักฐาน ไม่ได้เกรงกลัวหรือเกรงใจใคร ซึ่งได้ติดตามความเคลื่อนไหวตั้งแต่การเลือกระดับจังหวัด ที่ได้มารวมตัวกันอยู่ในโรงแรมต่างๆ ก่อนวันเลือกระดับประเทศในวันพรุ่งนี้ ยังไม่ได้ชี้ชัดว่า เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เพราะสามารถทำได้เนื่องจากผู้สมัครอ้างว่าเป็นการแนะนำตัว
โดยทำให้เห็นว่ามี 2 เรื่องอยู่ในเรื่องเดียวกัน ว่ามีสิทธิ์ที่จะพักโรงแรมเดียวกันได้ แต่เหตุใดคนที่มาจากพื้นที่ต่างกัน หรือ ว่าต่างจังหวัด แต่ไปพักที่โรงแรมเดียวกัน ถือว่าเป็นเบาะแสที่อาจมีมากกว่าการแนะนำตัวหรือไม่ เมื่อวานได้เข้าไปตรวจสอบ 2 โรงแรม พบว่า เป็นการพบปะเพื่อแนะนำตัว ซึ่งหากผู้สมัคร สว. พบหลักฐาน หรือ ความไม่ชอบมาพากลสามารถแจ้ง กกต.ได้
“ขณะเดียวกันก็เป็นกระบวนการป้องกันป้องปราม และรวบรวมพยานหลักฐาน หากเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมาย จะให้ใบเหลือง ใบส้มใบดำใบแดง เราต้องส่งสำนวนไปที่ศาลฎีกาด้วย จะเอาความเชื่อความเห็นอย่างเดียวไปให้ศาลไม่ได้ ต้องมีพยานหลักฐาน เชื่อได้ว่า มีการกระทำฝ่าฝืนกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภา
ดังนั้น จึงบอกว่าการรวบรวมพยานหลักฐานไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะกิจกรรมส่วนหนึ่งเค้าทำถูกกฎหมาย ถูกครึ่งหนึ่งส่วนอีกครึ่งหนึ่งจะถูกหรือไม่อยู่ที่พยานหลักฐาน จึงอยากให้สบายใจว่า ไม่ได้ช้า แม้หลักฐานจะยังไม่ได้ในวันนี้ แต่ถึงแม้จะเป็น สว. ก็สามารถสอยได้หากมีหลักฐาน”
เมื่อถามว่าหากผู้สมัคร สว. ที่ตกรอบระดับประเทศ ไปดำรงตำแหน่งเป็นผู้ช่วย สว. หรือ เป็นทีมของ สว. จะสะท้อนว่าเป็นการตกลงผลประโยชน์ไว้ล่วงหน้าก่อนหรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า เป็นเบาะแสอย่างหนึ่ง และเป็นสมมุติฐานว่า มีการแลกประโยชน์กันหรือไม่ เพราะกฎหมายบอกว่าประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้ แต่ตัดสินเลยไม่ได้ต้องให้ความเป็นธรรม
ส่วนในคืนนี้จะต้องจับตาเรื่องการชุมนุม แนะนำตัวกันตามโรงแรมต่างๆ ของผู้สมัคร สว. โดยมีบัญชีรายชื่อแล้ว ซึ่งยังไม่แน่ใจหากมีการกระทำผิด อาจทำผิดก่อนที่จะเดินทางมาแล้วก็เป็นได้ โดยจะติดตามและเฝ้าดูว่ามีการกระทำฝ่าฝืนกฎหมายหรือไม่ เชื่อว่าหากพูดไปอย่างนี้ผู้สมัคร สว. คงไม่กล้าทำแล้ว
ทั้งนี้ นายแสวง ไม่ได้ตอบคำถามว่าความเคลื่อนไหวในโรงแรมพบการเมืองฝ่ายการเมือง เข้ามามีส่วนด้วยหรือไม่ เพียงแต่ตอบว่า พบมีผู้สมัครสว. จำนวนกว่า 100 คนอยู่ในโรงแรมเดียวกัน
เมื่อถามว่าหนักใจหรือไม่กรณีพบผู้สมัครมารวมตัวกันในโรงแรม นายแสวง ระบุว่า อยู่ที่พยานหลักฐาน หลายคนอาจคาดคะเนไปแล้วว่าผิด ซึ่งอาจจะมีการทำมากกว่าการแนะนำตัว แต่หากจะดำเนินคดีตามกฎหมายจะต้องมีพยานหลักฐานไปที่ศาลฎีกาพิจารณาตัดสิน