วันนี้(16 ก.ค. 67) พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (รอง ผบช.สตม.) พร้อมคณะ ได้ร่วมแถลงข่าวถึงผลการระดมจับกุมคนต่างด้าวที่เข้ามาประกอบธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศไทย รวมทั้งที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ประกอบด้วย
1. จับยกแก๊งปล้นทรัพย์นักเทรดอังกฤษ โดย กก.2 บก.สส.สตม.จับกุมผู้ต้องหาชาวต่างชาติ จำนวน 3 ราย ประกอบด้วย 1. MR.ABDULLAHI (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี สัญชาติเดนมาร์ก 2. MR.MOHAMED (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี สัญชาติบริติช 3. MR.SAEED (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี สัญชาติบริติช ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ กระทาความผิดฐาน “ปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธติดตัว, ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ร่วมกันกักขังหน่วงเหน่ียวหรือกักขังผู้อื่น, ร่วมกันพาอาวุธติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทาง สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ดาเนินคดีตามกฎหมาย
เหตุจับกุม MR.ABDULLAHI เกิดที่หน้าโรงแรมในย่าน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี MR.MOHAMED และ MR.SAEED จับที่ POOLVILLA ในย่านถนนเทพประสิทธิ์ 5 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จว.ชลบุรี
จากกรณีได้มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน เมื่อวันที่ 12 ก.ค.2567 เวลาประมาณ 02.00 น. ผู้เสียหายได้ถูก MR.ABDULLAHI พร้อมกับพวกรวม 5 คน ร่วมกันทำร้ายร่างกาย และเอาทรัพย์สินของผู้เสียหายไป ได้แก่ นาฬิกา ยี่ห้อ Audemars piguet 1 เรือน นาฬิกา ยี่ห้อ Rolex 1 เรือน และทรัพย์สินอื่น รวมมูลค่าประมาณ 3 ล้านบาท เหตุเกิดที่ ห้องพักในแมนชั่นย่าน ถนนพระราม 4 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ
ต่อมาศาลอาญากรุงเทพใต้ได้อนุมัติออกหมายจับนาย MR.ABDULLAHI, MR.MOHAMED, MR.SAEED, MISS SUMYA (สงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี สัญชาติบริติช และหญิงชาวต่างชาติไม่ทราบชื่อ กก.2 บก.สส.สตม. จึงได้นำข้อมูลผู้ต้องหาบันทึกไว้ในบัญชีเฝ้าดูในระบบสารสนเทศ ตม. และทาการสืบสวนติดตาม หาตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย
จนทราบว่า MR.ABDULLAHI, MR.MOHAMED และ MR.SAEED หลังจากก่อเหตุได้หลบหนี ไปพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ จว.ชลบุรี จึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่สืบสวน สน.คลองตัน ไปสืบสวนหาตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย จนกระทั่งจับกุมได้
นอกจากนี้ กก.สส.ปป.บก.ตม.2 ยังได้ตรวจพบว่า MISS SUMYA ผู้ต้องหาตามหมายจับจะเดินทางออกจากประเทศไทยไปยังกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย จากการตรวจค้นกระเป๋าเดินทางพบช่อดอกกัญชาบรรจุในถุงสุญญากาศ ขนาด 500 กรัม จำนวน 50 ห่อ น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 25 กิโลกรัม จึงทำการจับกุมตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดำเนินคดีตามกฎหมาย และพนักงานสอบสวนสน.คลองตันจะได้ดำเนินการตามหมายจับต่อไป
2. รวบแก๊งชาวเมียนมาอ้างเป็นนักธุรกิจซื้อขายทอง หลอกลวงเหยื่อให้ร่วมลงทุน มูลค่าความเสียหายกว่า 3 ล้านบาท
โดยกก.ปอพ.บก.สส.สตม. จับกุม MR.U WIN (นามสมมุติ) อายุ 65 ปี สัญชาติเมียนมา ตามหมายจับศาลแขวง ดุสิต ที่ จ.79/2567 ลงวันที่ 14 พ.ค. 2567 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง” นาตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ดาเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุมบริเวณหน้าโรงแรมย่าน ถนนประดิพัทธ์ แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพฯ
จากกรณีที่แก๊งชาวเมียนมา ประกอบด้วย MR.U WIN (นามสมมติ), MR.THAW TE (นามสมมุติ), MRS.CHO LIN อ้างว่าเป็นนักธุรกิจซื้อขายทองคำในประเทศเมียนมา มีฐานะร่ำรวยมาก ต้องการซื้อทองคำจำนวนมาก เพื่อนำไปขายต่อ ได้พูดจาหว่านล้อมผู้เสียหาย พร้อมทั้งยืนยันให้ความเชื่อมั่น
หลังจากนั้นได้หลอกลวงให้ผู้เสียหาย เป็นผู้ติดต่อประสานงานในการซื้อทองคำจากคลังทองคำที่ห้างทองในย่านเยาวราช และเพื่อเป็นหลักประกันว่า มีทองคำในคลังทองคำอยู่จริง MR.U WIN กับพวกได้หลอกลวงผู้เสียหาย ให้วางเงินเป็นหลักประกันทองคำดังกล่าว และยืนยันว่า หากคลังทองคำขายทองคำให้จะคืนเงินที่ผู้เสียหายวางเป็นหลักประกันคืน
จนผู้เสียหายหลงเชื่อส่งมอบเงินหลักประกัน ให้จำนวน 7 ครั้ง รวมเป็นเงิน 3,135,000 บาท ภายหลังคลังทองคำกลงจะขายทองให้กับกลุ่มดังกล่าวแล้ว แต่ปรากฏ ว่า MR.U WIN กับพวก ไม่มีเงินซื้อทองคำ และไม่คืนเงินที่ผู้เสียหายได้วางไว้เป็นหลักประกัน ผู้เสียหายทวงถามให้คืนเงิน โดยไม่สามารถติดต่อ MR.U WIN กับพวก ได้อีกเลย ซึ่งทราบว่ากลุ่มแก๊งชาวเมียนมา ทั้ง 3 ราย ได้หลบหนีเดินทางออกจากประเทศไทยไปแล้ว
ผู้เสียหายจึงแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนสน.พญาไทซึ่งต่อมาพนักงาน สอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานยื่นคำร้องต่อศาลแขวงดุสิต ออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีนี้ จำนวน 3 ราย
จนกระทั่งทราบว่า MR.U WIN หนึ่งในแก๊งชาวเมียนมาดังกล่าว ได้เดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทย และได้หลบหนีหมายจับไปพักอาศัยอยู่ในท้องที่ จว.นนทบุรี และ ในท้องที่ บก.น.2 จึงได้สืบสวนติดตามจับกุมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนผู้ร่วมขบวนการที่เหลือจะได้ดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป
“สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิด ในด้านต่าง ๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่น ๆ ที่มีหมายจับ และการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย
หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระชนมพรรษา 60 พรรษา เลขที่ 904 หมู่ที่ 6 ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จว.นนทบุรี 11120 หรือติดต่อตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดในพื้นที่ หรือที่ www.immigration.go.th”