กกต.แจง คำร้องยุบเพื่อไทย ปม "ทักษิณ" ครอบงำ นายทะเบียนฯ กำลังรวบรวมหลักฐาน

24 ต.ค. 2567 | 09:29 น.
อัปเดตล่าสุด :24 ต.ค. 2567 | 11:40 น.

กกต.แจงคำร้องยุบพรรคเพื่อไทย และอีก 6 พรรคการเมือง เหตุ "ทักษิณ ชินวัตร" ครอบงำ อยู่ในขั้นตอนนายทะเบียนฯ รวบรวมข้อเท็จจริง-หลักฐาน ก่อนเสนอความเห็นต่อ กกต.

วันนี้ (24 ต.ค. 67)  สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ชี้แจงว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวว่ามีผู้ร้อง นายทักษิณ ชินวัตร และพรรคการเมือง รวม 6 พรรค กระทำความผิดต่อพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 นั้น 

ขอเรียนว่า การดำเนินการตามคำร้องดังกล่าว ขณะนี้อยู่ระหว่างเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองรวบรวมข้อเท็จจริง และพยานหลักฐาน เพื่อเสนอความเห็นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง

 

                       กกต.แจง คำร้องยุบเพื่อไทย ปม \"ทักษิณ\" ครอบงำ นายทะเบียนฯ กำลังรวบรวมหลักฐาน

ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 18 ต.ค.2567 มีรายงานข่าวว่า เมื่อเร็วๆนี้ นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ได้พิจารณา 6 คำร้องที่มีผู้ร้องขอให้ กกต.พิจารณาสั่งยุบพรรคเพื่อไทย และ 6 พรรคร่วมรัฐบาลเดิม กรณีกล่าวหาว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี  ซึ่งไม่ใช่สมาชิกพรรค กระทำการครอบงำ ชี้นำ และ 6 พรรคการเมืองยินยอมให้นายทักษิณ ครอบงำ ชี้นำ

โดยนายทะเบียนพรรคการเมือง เห็นว่า คำร้องดังกล่าวมีมูล และให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน เพื่อดำเนินการสอบสวน และมีความเห็นเสนอ ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน แต่สามารถขอขยายได้อีกครั้งละไม่เกิน 30 วัน จนกว่าจะแล้วเสร็จ

กรณีนี้มีกลุ่มผู้ร้องรวม 4 ราย ได้แก่ บุคคลนิรนาม นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ และ นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำกลุ่มพิราบชาว 2006 เป็นผู้ยื่นคำร้องอ้างถึงพฤติการณ์ของนายทักษิณ ทั้งการที่แกนนำ 6 พรรคร่วมรัฐบาลเดิมไปร่วมประชุมกับนายทักษิณ ที่ บ้านจันทร์ส่องหล้า เพื่อพิจารณาเสนอชื่อบุคคลที่เหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรี หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน สิ้นสุดลง 

นอกจากนี้ ยังอ้างถึงการให้สัมภาษณ์ของนายทักษิณ หลายครั้ง เกี่ยวกับการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีระหว่างการจัดตั้งรัฐบาล การชี้นำพรรคเพื่อไทยในการเลือกพรรคร่วมรัฐบาล การนำวิสัยทัศน์ที่นายทักษิณ ที่แสดงไว้เมื่อวันที่ 22 ส.ค.มาเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายรัฐบาล โดยผู้ร้องเห็นว่าเข้าข่ายขัดมาตรา 29 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ที่ห้ามมิให้ผู้ที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคกระทำการใดอันเป็นการควบคุมครอบงำ หรือชี้นำกิจกรรมของพรรคการเมืองไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม

การที่พรรคเพื่อไทย และ 6 พรรคร่วมรัฐบาลเดิมยินยอมให้บุคคลอื่น ซึ่งไม่ใช่สมาชิกพรรคกระทำการอันเป็นการควบคุมครอบงำ ชี้นำ กิจกรรมของพรรคการเมืองไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เข้าข่ายขัดมาตรา 28 หากการสอบสวน พบว่าเป็นความผิด จะเป็นเหตุให้นายทะเบียนพรรคการเมืองเสนอต่อ กกต.ให้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคตามมาตรา 92 (3) ของกฎหมายเดียวกันได้