วันนี้( 24 ต.ค. 67) ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติ 270 ต่อ 152 เสียง ไม่เห็นด้วยกับข้อสังเกตรายงานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญศึกษาแนวทางการตราร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม ที่มี นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน กมธ. เพื่อส่งไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ก่อนหน้านั้น การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระดังกล่าว ค้างมาจากการพิจารณาครั้งที่แล้ว โดย นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาคนที่1 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม กล่าวว่า ในการประชุมครั้งที่ผ่านมาได้เปิดโอกาสให้สมาชิกอภิปรายพอสมควรแล้วจึงขอให้ที่ประชุมมีการลงมติ
แต่นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณกรรมการประสานงานพรรครวมฝ่ายค้าน(ประธานวิปฝ่ายค้าน) หารือว่าได้หารือกับวิปรัฐบาลเห็นตรงกันควรเปิดโอกาสให้สมาชิก รวมถึงกมธ.ได้มีโอกาสอภิปปรายถึงเหตุผลและความจำเป็นซึ่งใช้เวลาไมม่นาน
จากนั้น ประธานที่ประชุม จึงได้เปิดให้ทั้ง 3 ฝ่ายอภิปรายสรุปคนละไม่เกิน 5 นาที
นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ ในฐานกมธ.สัดส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า ไม่ควรที่จะนิรโทษกรรม มาตรา 112 เนื่องจากเป็นคดีที่มีความอ่อนไหว การรวมมาตราดังกล่าวจะก่อให้เกิดปัญหา 2แนวทาง
1.ปัญหาเชิงคุณภาพ เพราะผู้ที่ได้รับผลกระทบที่แตกต่างกันยกตัวอย่างมาตรา 130 และมาตรา 135 ที่มีการตีความที่แตกต่างกัน เช่นเดียวกับ มาตรา 112 มิติบุคคลที่ 3 คือ สถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งไม่สามารถจะหมุนเวียนไปได้ จึงขอให้กรณีนี้เป็นการพระราชทานขอภัยโทษเป็นกรณีไป
2.การละหรือเว้นโทษเพื่อการสร้างความปรองดองและสันติสุขให้เกิดขึ้น หมายความว่าไม่มีความขัดแย้งเบื้องหน้าเกิดขึ้นอีก
ตนในฐานะกมธ.สัดส่วนพรรคร่วมไทยสร้างชาติได้รับฟังความโดยพบว่า ยังมีประชาชนอีกจำนวนมากที่ไม่เห็นด้วย และอึดอัดใจกับการนิรโทษกรรม ในคดีมาตรา 112
ขณะที่สถิติการดำเนินคดีการเมือง ตั้งแต่ปี 2548 พบว่า จำนวนทั้งสิ้น 57,966 คดี จำนวนนี้มีคดีมาตรา1 12 แค่ 1,206 คดีเท่านั้น หรือแค่2% ฉะนั้นจึงไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรม มาตรา 112 แต่ควรเป็นในส่วนของคดีทางการเมืองเท่านั้น
น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม.พรรคประชาชน ในฐานะกมธ.อภิปรายว่า การนิรโทษกรรมมีความจำเป็นเร่งด่วน ที่ควรจะเกิดในยุคนี้มากที่สุด นั่นคือ ยุคที่พรรคการเมืองที่ประชาชนเชื่อว่าอุดมการณ์ทางการเมืองต่างกันสุดขั้วราวฟ้ากับเหว กลับมาจับมือลืมอดีตกันได้โดยที่ไม่คิดว่าจะได้เห็นในชาตินี้ แล้วทำไมการนิรโทษกรรมจึงจะเกิดไม่ได้
ในกมธ.เราได้มีการถกเถียงกันว่า ควรรวมคดี 112 ไว้ในรายงานหรือไม่ โดยหลีกเลี่ยงที่จะใช้คำว่าคดีที่มีความละเอียดอ่อน ยืนยัน ทุกครั้งตั้งแต่การประชุมครั้งแรก จนครั้งสุดท้ายว่าเหตุผลที่เราจะต้องนิรโทษกรรมคดีการเมืองทุกคดีไม่มีข้อยกเว้น และไม่มีเงื่อนไขใด
"นักการเมืองจับมือกันได้ทำไมเราต้องมีปัญหากับบการนิรโทษกรรมประชาชน คุณทักษิณ (ชินวัตร) กลับบ้านได้เรามีปัญหาอะไรกับการที่จะนิรโทษกรรมให้ผู้ลี้ภัยในคดีตามมาตรา 112 ให้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติบ้าง"
นายชัยธวัช ตุลาธน ในฐานะกมธ.อภิปรายว่า ในอดีตเราเคยมีการนิรโทษกรรมคดี112 มาแล้วในเหตุการณ์ชุมนุม 6 ตุลา 2519 ส่วนตัวมองว่ากรณีที่มีการมองว่าคดี ม.112ไม่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทางการเมืองในรายงานอนุกมธ.พิจารณาเห็นพฤติการณ์ รวมถึงจำนวนสัดส่วนคดีอ้างอิงจากเหตุการณ์ความขัดแย้งโดยเฉพาะหลังรัฐประหาร 2ครั้งล่าสุดเห็นว่า มีความขัดแย้งทางการเมืองอย่างแยกไม่ออก
“หลายท่านเห็นว่าถ้าเรานิรโทษกรรมไปแล้วจะเป็นการไปส่งเสริมให้มีประชาชนบางกลุ่มไปกระทำผิดกฎหมาย บ้านเมืองจะไม่มีขื่อไม่มีแป เราต้องทำให้ชัดว่าการนิรโทษกรรมไม่ใช่การยกเลิกกฎหมาย หรือ ฐานความผิด แต่มีเป้าหมายเพื่อการให้อภัยกันในช่วงที่มีความขัดแย้งทางการเมืองเพื่อสร้างความปรองดองสมานฉันท์”
นายชัยธวัช ย้ำว่า ไม่ได้เป็นการไปรับรองว่า ผู้ที่ถูกดำเนินคดีไม่ได้กระทำความผิด หรือ กระทำผิด การออกกฎหมายนิรโทษกรรมมีความชัดเจนในแต่ละช่วงเวลา ถ้าคิดว่าถ้านิรโทษกรรมแล้วบอกว่าจะเป็นการส่งเสริมการกระทำผิด หรือ ทำให้บ้านเมืองไม่มีขื่อไม่มีแปก็ไม่ควรจะนิรโทษกรรมคดีไหนเลย เราอาจจะต้องทบทวนการอภัยโทษเสียด้วยซ้ำถ้าเราเชื่อในตรรกะแบบนี้
นายชูศักดิ์ อภิปรายสรุปว่า รายงานนี้ไม่ใช่การเสนอ หรือพิจารณากฎหมาย หรือจะนิรโทษกรรมคดีอะไร แต่เป็นเพียงการศึกษาหาแนวทางว่าแนวทางการนิรโทษกรรมควรจะเป็นอย่างไร โดยนัยให้มีการนิรโทษกรรมที่มีมูลเหตจูงใจทางการเมืองตั้งแต่ปี 2548 เป็นต้นมาข้อความตรงนี้ไม่มีใครคัดค้าน
ประเด็นที่มีความอ่อนไหว มีความเห็นขัดแย้งประเด็นใด ที่ยังไม่มีข้อยุติทงออก คือ การรับรู้รับฟังข้อเท็จจริงทุกฝ่ายว่าเขามีความเห็นอย่างไร
“ยืนยันว่ารายงานฉบับนี้เป็นประโยชน์ต่อสมาชิกที่จะนำไปศึกษาหากจะมีการตราพ.ร.บ.นิรโทษกรรมต่อไป เปิดประชุมสมัยหน้ามาจะมี4 ร่างกฎหมายที่พกวเราต้องพิจารณาร่วมกัน ขณะนี้มีร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม 4 ร่างค้างอยู่ในสภา จึงเชื่อว่ารายงานฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาตรงนั้น”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างดุเดือด เมื่อนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ถามความชัดเจนเกี่ยวกับการลงมติ เนื่องจากมีผู้ไม่เห็นด้วยกับข้อสังเกตของกมธ.จึงเสนอให้มีการลงมติ 2 ครั้ง คือ ลงมติว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับข้อสังเกตของ กมธ. และลงมติว่าเห็นด้วยกับรายงานหรือไม่
แต่ นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า รายงานฉบับนี้เป็นเพียงแค่รับทราบเท่านั้น ในส่วนของข้อสังเกตของกมธ. หากไม่เห็นด้วยก็ให้มีการเสนอญัตติเพื่อลงมติมา
ทำให้ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่านพรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วง ว่า เรื่องตัวรายงานเป็นรายงานที่เสนอต่อสภาเพื่อรับทราบตามรัฐธรรมนูญ มาตรา129 เพราะฉะนั้นข้อบังคับประชุมสภาข้อที่ 104 ซึ่งเขียนรองรับรัฐธรรมนูญมาตราดังกล่าว โดยไม่มีข้อบังคับว่าต้องลงมติประเด็นนี้จบไป
ขณะที่ประเด็นข้อสังเกตของกมธ.นั้น ข้อบังคับข้อที่ 105 เขียนไว้ชัดถ้ากมธ.มีข้อสังเกตไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรับทราบ สภาต้องมีมติเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ว่าจะส่งข้อสังเกตไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อทราบ หรือ ปฏิบัติ
ถ้าสภาไม่เห็นด้วยกับการส่งข้อสังเกตไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ข้อสังเกตก็ตกไป ไม่ต้องส่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่รายงานยังอยู่ ข้อสังเกตก็แนบท้ายรายงานนั้น แต่ไม่ถูกเสนอไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และยังสามารถนำมาศึกษาค้นคว้าได้ตลอด
“การลงมติว่าจะส่ง-ไม่ส่งมีผลผูกพันธ์ เมื่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปแล้วเข้าทราบ หรือปฏิบัติไม่ได้อย่างไร ต้องแจ้งกลับมาภายใน 60วัน ยืนยันว่าข้อสังเกตอย่างไรก็ต้องลงมติ”
จากนั้นบรรยากาศ เป็นไปอย่างดุเดือด เมื่อนายพิเชษฐ์ ถามที่ประชุมว่าจะมีผู้ใดไม่เห็นด้วยกับข้อสังเกตหรือไม่ พร้อมขอให้เสนอญัตติให้ลงมติหรือไม่
ปรากฏว่า นพ.ชลน่าน ตอบโต้ด้วยอาการฉุนเฉียว ว่าตามข้อบังคับข้อที่105 เมื่อมีผู้ไม่เห็นด้วยกับข้อสังเกตกมธต้อง "ลงมติ" ไม่ใช่ให้ "เสนอญัตติ" จะเสนอญัตติทำไม
จากนั้น นพ.ชลน่าน ได้พูดด้วยสีหน้าท่าทางดุเดือดชี้หน้านายพิเชษฐ์ว่า "ถ้าทำไม่ได้ก็เปลี่ยนให้รองประธานสภาคนที่ 2 ขึ้นมาทำหน้าที่
ทำให้ นายพิเชษฐ์ ตอบกลับด้วยอาการฉุนเฉียวว่า "ไม่ต้องชี้หน้าอยากเป็นก็ขึ้นนมา"
จากนั้นที่ประชุมมีการลงมติ 270 ต่อ 152 เสียง ไม่เห็นด้วยกับข้อสังเกตของกมธ. เพื่อส่งไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง งดออกเสียง 5 ไม่ลงคะแนน 1 เสียง