“ชาติไทยพัฒนา”ประกาศส่ง "ประภัตร โพธสุธน"ลงส.ส.เขตอำเภอศรีประจันต์

วันนี้ (20 ก.พ.66) นายวราวุธ ศิลปอาชา  รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา พร้อมด้วยแกนนำพรรค อาทิ นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค  และ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค เปิดเวทีปราศรัย ที่บึงลำควง อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี  เพื่อประกาศต่อประชาชนที่ฟังการปราศรัยว่า พรรคจะส่ง นายประภัตร ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้แทนประชาชน ในพื้นที่ อ.ศรีประจันต์

นายวราวุธ ปราศรัยว่า นายประภัตร อยู่กับพรรคชาติไทย มาก่อน นายบรรหาร และอยู่มานานเกือบ 50 ปี ถึงจะมีคนมาทาบทาม ก็ไม่เคยคิดที่จะย้ายไปอยู่พรรคอื่น เพราะความรักความผูกพันที่มีให้กับคนสุพรรณบุรี และพรรค จึงอยากให้ประชาชนให้กำลังใจกับคนชื่อ นายประภัตร ด้วย 

“มีคนพูดว่า ตั้งแต่ นายบรรหาร จากไป จังหวัดสุพรรณบุรี และ พรรคชาติไทยพัฒนาจะแตก แต่วันนี้เข้าสู่ปี 2566 พรรคชาติไทยพัฒนา และสุพรรณบุรีก็ยังแข็งแรงอยู่  และเรากำลังจะเข้าสู่การเลือกตั้งอีกครั้ง เราจะพิสูจน์ให้คนทั้งประเทศเห็นว่า รัฐมนตรีจากพรรคชาติไทยพัฒนา ทั้ง นายประภัตร และ ผม เราเป็นรัฐมนตรีที่โตที่สุดในรัฐบาลชุดปัจจุบัน”

นายวราวุธ กล่าวอีกว่า นโยบายของพรรคชาติไทยพัฒนา หัวใจที่สำคัญ คือ ทำเพื่อพี่น้องเกษตรกรทุกคน ให้มีเงินในกระเป๋ามากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ทำนาในประเทศไทย 60 ล้านไร่ ทำอย่างไรจะมีพันธุ์ข้าวที่ดี สู้กับพันธุ์ข้าวต่างประเทศที่ราคาแพง ดังนั้น 60 ล้านไร่ เราจะแจกพันธุ์ข้าวที่ดีให้กับเกษตรกรทั่วประเทศ และจะแจกเงินต้นทุนการผลิต 1,000 บาทต่อไร่ รวมถึงขยายเขตไฟฟ้าเพื่อการเกษตร หน่วยละ 2 บาท เพื่อลดต้นทุนการใช้น้ำมันสูบน้ำเข้านา 

สำหรับพื้นที่ อ.ศรีประจันต์ ยังมีการขุดเจาะบ่อบาดาล นำทรัพยากรน้ำใต้ดินมาใช้ โดยไม่เสียเงิน และเป็นต้นแบบที่จะขยายระบบบ่อบาดาลขนาดใหญ่ไปทุกตำบล เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำประปา

นายวราวุธ กล่าวว่า นอกจากพรรคชาติไทยพัฒนา ยังไม่เห็นพรรคการเมืองไหน ออกมาพูดถึงอนาคตประเทศไทย 30-40 ปีข้างหน้าว่า อีก 40 ปี น้ำจะท่วมหนักกว่าเดิมหรือไม่ อย่างปี 2564 จังหวัดสุพรรณบุรี ถูกน้ำท่วม 10 อำเภออย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน และมีการวิเคราะห์กันแล้วว่า ทุก ๆ 10 ปี น้ำจะท่วม ภัยธรรมชาติ จะรุนแรงขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นวิกฤติการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของโลก 

“สิ่งที่พรรคชาติไทยพัฒนา ทำจึงเป็นการคิดถึงการแก้ปัญหาที่จะเกิดขึ้นอนาคต” นายวราวุธ ระบุ 

ด้าน น.ส.กัญจนา กล่าวว่า อ.ศรีประจันต์ ที่เป็นดินแดนที่น่าชื่นชม เพราะเป็นแผ่นดินเกิดของ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.ปยุตฺโต) พระมหาเถระที่เป็นอริยสงฆ์ ที่ตนเองและครอบครัวเคารพ และยังเป็นบ้านเกิดของคนดีศรีสุพรรณฯ ชื่อว่า นายประภัตร โพธสุธน 
สุพรรณบุรี เป็นแผ่นดินเกิดของศิลปิน กวี มากมาย และที่สำคัญยังเป็นแผ่นดินเกิดของนายกรัฐมนตรี คนที่ 21 ที่ชื่อว่า นายบรรหาร ศิลปอาชา ที่ทำให้จังหวัดสุพรรณบุรี เจริญมาถึงทุกวันนี้ 
น.ส.กัญจนา กล่าวอีกว่า การเลือกตั้งที่จะมาถึง ใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ขอให้เลือกพรรคชาติไทยพัฒนา ทั้ง ส.ส.เขต และบัญชีรายชื่อ ให้ได้คะแนนมากกว่า 5 แสนคะแนน เพื่อส่ง นายวราวุธ และทีม ส.ส.บัญชีรายชื่อ เข้าไปทำงานให้กับพี่น้องประชาชน แม้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีพรรคอื่นเสนอตัวแข่งกับเรา แต่พรรคอื่นมาหาพี่น้อง ช่วงเลือกตั้ง เลือกตั้งเสร็จเขาก็ไป แต่คนที่อยู่ด้วยตลอดคือ พรรคชาติไทยพัฒนา
“แล้วจะให้คะแนนกับพรรคอื่นหรือไม่ จะให้คะแนนเสียของทำไม ดังนั้นครั้งนี้ขออย่าให้เสียของ เหมือนครั้งที่แล้วอีก ดังนั้นขอให้เลือกพรรคชาติไทยพัฒนายกจังหวัด” น.ส.กัญจนา กล่าว  
ส่วนนายประภัตร กล่าวว่า พรรคชาติไทยก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2518 ตนเองได้เป็นผู้แทนราษฎร ครั้งแรกปี 2518 และต้องขอบคุณพี่น้องประชาชน อ.ศรีประจันต์ ด้วยความจริงใจ ถ้าวันนั้นไม่ผลักดันให้ตนขึ้นมา ก็ไม่มีวันนี้ 
“48 ปี ที่นายบรรหาร มาพัฒนาจังหวัดสุพรรณบุรี ได้เปลี่ยนแปลงการคมนาคม การเกษตร การชลประทาน และการท่องเที่ยว ให้เจริญขึ้น สะท้อนให้เห็นว่าพรรคชาติไทย จนมาถึงพรรคชาติไทยพัฒนา เราได้ทำงานมาอย่างต่อเนื่อง และเป็นความภูมิใจที่ชาวจังหวัดสุพรรณบุรี ให้ความรัก ความเมตตา กับพรรคมาตลอด 48 ปี ดังนั้นการจะพัฒนา จ.สุพรรณบุรี ต่อจาก นายบรรหาร ได้ ก็จะต้องเป็นพรรคชาติไทยพัฒนาเท่านั้น”

นายประภัตร กล่าวด้วยว่า ตนเองเกิดที่ อ.ศรีประจันต์ เติบโตที่ อ.ศรีประจันต์ เราอยู่กันมา 40 กว่าปี น้ำแห้ง น้ำแล้ง น้ำท่วม น้ำไม่มีกิน ไม่มีทำนา เราได้ทุ่มเทสรรพกำลัง ประสานทุกหน่วยงานเข้าดูแลมาตลอด จึงอยากให้เลือกคนและเลือกพรรคชาติไทยพัฒนาให้ชนะอย่างถล่มทลาย