14 ก.ย.2565 - ภายใต้ข้อมูลของไนท์แฟรงค์ ยักษ์ใหญ่ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก ซึ่งออกมาระบุก่อนหน้า ว่า อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กำลังเป็นสาเหตุสำคัญ ที่ทำให้ราคา 'ที่อยู่อาศัย' ในหลายประเทศแถบเอเชียแปซิฟิก ได้แก่ นิวซีแลนด์ ,มาเลเซีย ,ออสเตรเลีย ,จีน ,เกาหลีใต้ , ฮ่องกง และ โมรอคโค อยู่ในช่วงชะลอตัวลง เนื่องจากผู้ซื้อบ้าน ยังคงมีความไม่ไว้วางใจต่อสภาพเศรษฐกิจโดยรวม ขณะคนที่มีความคิดจะซื้อบ้าน หันกลับมารัดเข็มขัดการใช้จ่าย และ ชะลอแผนการตัดสินใจลงนั้น
แต่กลับ สวนทางกับแนวโน้มตลาดที่อยู่อาศัยไทยอย่างสิ้นเชิง หลังจาก ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เผย ณ ไตรมาส 2 ที่ผ่านมา พบราคาบ้านจัดสรรใหม่ในกทม.-ปริมณฑล มีทิศทางปรับเพิ่มขึ้น แต่ยังได้รับการตอบรับ ตามการฟื้นตัวของตลาดอย่างค่อยไปค่อยไป และมีตัวแปร ด้านต้นทุนการพัฒนาโครงการสูงขึ้น ตามราคาพลังงานและภาวะเงินเฟ้อ รวมถึงราคาที่ดินและทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นด้วย
ล่าสุด ภาพดังกล่าว ยังถูกตอกย้ำด้วย ทิศทางตลาดบ้านระดับชัวรี (ราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป) ของไทย ที่เฟื่องฟูสูงสุด เนื่องจากมีจำนวนหน่วยเปิดใหม่ เติบโตอย่างก้าวกระโดด หลังจากได้รับการตอบรับจากผู้ซื้อ กลุ่มเศรษฐี ที่มีความแข็งแกร่งทางการเงิน และมีเครดิตในการขอสินเชื่อสูงอย่างดี ทำให้ขณะนี้ กลายเป็นตลาดแห่งการแข่งขันของผู้พัฒนารายใหญ่ ในการช่วงชิงกำลังซื้อ ด้วย ทำเลที่ต้้ง ,ดีไซน์ที่โดดเด่น และคุณภาพ อย่างน่าจับตามอง
บ้านหรู 5 ปี ทะลัก 1.4 แสนล.
นายภัทรชัย ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร คอลลิเออร์ส ประเทศไทย ระบุว่า ตลาดนี้ ยังคงเติบโตอย่างโดดเด่น ต่อเนื่องช่วง 5 ปีที่ผ่านมาอย่างน่าแปลกใจ ทั้งๆที่สภาพเศรษฐกิจไทยช่วงหลัง ถดถอยจากวิกฤติโควิด-19 รวมซัพพลายเปิดขายใหม่ กว่า 4,127 ยูนิต ด้วยมูลค่าการพัฒนารวมกว่า 1.44 แสนล้านบาทแล้ว
ขณะครึ่งปีแรก 2565 มีซัพพลายบ้านหรูราคามากกว่า 20 ล้านบาท ที่อยู่ระหว่างการขาย ทั้งสิ้น 2,833 ยูนิต โดย 84.25% มาจากผู้พัฒนารายใหญ่ ซึ่งมี บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ครองตลาด ตามมาด้วย บมจ.แสนสิริ 22.34 % และ บมจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ที่ 21.92 % ทั้งนี้ บ้านระดับดังกล่าว มีการกระจายตัวอยู่ในหลายพื้นที่ แม้แต่ในกรุงเทพชั้นใน อีกทั้ง ทิศทางบ้านหรูในซอย และ ไซส์เล็ก มีแนวโน้มมากขึ้นอีกด้วย
"อัตราการขายเฉลี่ยรวมตลาดบ้านหรู อยู่ที่ประมาณ 57.64 % หรือ ขายไปแล้วราว 1,633 ยูนิต ขณะนี้มีหน่วยรอขาย 1,200 ยูนิต หรือ 4.2 หมื่นล้านบาท"
ปีนี้ เปิดใหม่สูงสุดรอบ 10ปี
การครอบครองบ้านหรู กลายเป็นส่วนเติมเต็มภาพลักษณ์ และ เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในภาวะเงินเฟ้อ ทำให้ คอลลิเออร์ส ฯ มองว่าตลาดในช่วงครึ่งปีหลังและอนาคตจะมีการแข่งขันของผู้พัฒนาร้อนแรงขึ้นอีก ด้วยยูนิตขายใหม่อีกมากกว่า 750 ยูนิต มูลค่าการพัฒนา รวมกว่า 3.5 หมื่น ล้านบาทเข้าสู่ตลาด ส่งผลให้คาดการณ์ ซัพพลายเปิด
ขายใหม่ในปีนี้ สูงกว่า1,000 ยูนิต เป็นคร้ังแรกในรอบ 10 ปีหลังจากพบสัญญาณ ผู้พัฒนารายใหญ่ เตรียมเร่งเครื่อง สำหรับการเปิดตัวโครงการใหม่กันอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น บมจ. เอสซี ฯ ,บมจ. แสนสิริ และ บมจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์
"ประเมิน ตลาดบ้านเดี่ยวช่วงราคา 30-60 ล้านบาท ขนาดที่ดิน100 – 180 ตร.ว.และพื้นที่ใช้สอย 600 -800 ตร.ม. เป็นตลาดที่โดดเด่นและน่าจับตามองอย่างมากในช่วงครึ่งปีหลัง "
บิ๊กแบรนด์ เจาะตลาดใหม่กลางเมือง
'ฐานเศรษฐกิจ' ติดตามความเคลื่อนไหวฟากฝั่งดีเวลลอปเปอร์ดัง นอกจาก สัปดาห์ก่อน บมจ.แสนสิริ สร้างปรากฎการณ์ ปิดการขายแบรนด์บ้านหรูระดับตำนาน โครงการ 'นาราสิริ กรุงเทพกรีฑา' มูลค่า 6 พันล้านบาท ได้ภายในระยะเวลาเพียง 1 เดือน ขึ้นแท่นโครงการบ้าน ระดับ 50-100 ล้านบาท ที่ขายดีและเร็วที่สุดในประเทศไทยแล้ว พบแสนสิริ ยังเตรียมเปิดโครงการ "นาราสิริ พหล - วัชรพล" ในปีนี้ ซึ่งคาดจะมีราคาสูงสุดเช่นกัน พร้อมจ่อเปิดโครงการ "บูก้าน กรุงเทพกรีทา" บ้านหรูโฉมใหม่ ในระดับราคา 30-80 ล้านบาทอีกด้วย
ขณะการกลับมาลุยตลาดบ้านหรูอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง ของ บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ก็น่าติดตามเช่นเดียวกัน หลังจากประเดิม บิ๊กโปรเจ็กต์ ' เลค เลเจนด์ บางนา-สุวรรณภูมิ' ซึ่งชิงแชร์ กลุ่มกำลังซื้อท็อปสุด เริ่ม 100 ล้านบาท เจาะเศรษฐีชาวไทยและต่างชาติได้อยู่หมัด
ล่าสุดเพอร์เฟค ยังเจาะตลาดใหม่ ปั้นโฮมออฟฟิศ และ เรสซิเดนซ์หรู รวม 12 ยูนิต บนทำเลใจกลางเมืองเป็นครั้งแรก ย่านธุรกิจ อารีย์ ภายโครงการ 'เพนตัน อารีย์ - สุทธิสาร' ใกล้ BTS สถานีอารีย์ ในราคาขายเริ่ม 57 ล้านบาท เรียกว่า เป็นโปรดักส์ใหม่ ที่ไม่เคยมีในตลาด โดยเป็นรูปแบบโฮมออฟฟิศ 5 ชั้น พื้นที่ใช้สอยเริ่ม 700 - 1,000 ตร.ม. และบ้านเดี่ยว 3 ชั้น พื้นที่สูงสุด 690 ตร.ม. คาดจะเป็นที่ต้องการสูงของกลุ่มเศรษฐีทำธุรกิจที่ต้องการใช้สอยพื้นที่ในเมือง
LH-SC-A5 ชิงเดือด
ขณะรายใหญ่ บมจ. เอสซี แอสเสท เตรียมเปิด มากกว่า 5 โครงการ ราว 250 ยูนิต ประกอบด้วย โครงการ เดอะ เจนทริ เกษตร - นวมินทร์ ,แกรนด์บางกอก บูเลอวาร์ด ราชพฤกษ์ปิ่นเกล้า , แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด สุขุมวิท
– ศรีนครินทร์, แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา – เกษตรนวมินทร์และโครงการเดอะ เจนทริ ส่วน บมจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์มากกว่า 2 โครงการ ด้วยยูนิตขายมากกว่า 300 ยูนิต
ทั้งนี้ ก่อนหน้า บริษัท แอสเซท ไฟว์ หรือ A5 ผู้พัฒนาโครงการ จับกลุ่มเฉพาะเจาะจง (Niche Market) เข้าลุยตลาดนี้อย่างน่าสนใจเช่นกัน ภายใต้โครงการ 'แซงค์ รอยัล กรุงเทพกรีฑา' ทำเลที่ร้อนแรงที่สุดในเวลานี้ ด้วยบ้านหรู ระดับซูเปอร์ลักชัวรีจำนวน 48 ยูนิต เปิดราคาขายที่ 50-100 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการ 2.7 พันล้านบาท นับเป็นโครงการหรูลำดับที่ 2 ในย่านดังกล่าวของ A5 ต่อเนื่องจาก 'วนา เรสซิเดนซ์ พระราม 9' ที่ปิดการขายไปแล้วด้วยราคา 35-50 ล้านบาท สะท้อนความต้องการของกลุ่มลูกค้าระดับท็อปของเมืองไทย และ บ้านหรู ซึ่งกำลังถูกมอง เป็นทรัพย์สินที่ชนะเงินเฟ้อได้ในเวลานี้อย่างดีที่สุด