อาชีพอิสระอยากซื้อบ้าน กู้แบงก์ให้ผ่านต้องทำอย่างไร?

06 พ.ย. 2565 | 01:57 น.
อัปเดตล่าสุด :06 พ.ย. 2565 | 09:25 น.

อาชีพอิสระอยากซื้อบ้าน อยู่อาศัยเป็นของตนเอง กู้แบงก์ให้ผ่านต้องทำอย่างไร? หากไม่สามารถซื้อด้วยเงินสด ไม่มั่นคงเหมือนคนทำงานประจำ

 

หลายคนเลือกประกอบอาชีพอิสระ เป็นนายตัวเองมากกว่ามนุษย์เงินเดือน เทรนด์ที่มีความนิยมสูงในโลกยุคดิจิทัล  หาเงินได้ทุกที่ทุกทาง ไม่ต้องถูกจำกัดในกรอบกฎเกณฑ์กติกาแบบพนักงานออฟฟิศ ข้าราชการประจำ  

 

ในทางกลับกัน แม้ อาชีพอิสระจะมีรายได้หมุนเวียนเข้ามามากกว่า แต่ เมื่อเทียบกับคนงานประจำแล้ว ธนาคารมักเลือกปล่อยกู้ให้กับคนทำงานประจำเป็นอันดับต้นๆเพราะมีรายได้มั่นคงสม่ำเสมอ 

 

   

 

 

 

อย่างไรก็ตามเมื่อคนทำงานอิสระ อยากมีบ้านอยู่อาศัยกับเขาสักหลัง ต้องการกู้แบงก์ให้ผ่าน จะทำอย่างไรให้แบงก์ไม่ปฏิเสธสินเชื่อ ใช่ว่าจะไม่มีหนทาง เมื่อเทียบกับคนทำงานประจำเพียงแต่ต้องมีความพยายาม มากกว่าคนทำงานประจำ  ในการเก็บออมจากรายได้  

 

มีเงินหมุนเวียนผ่านบัญชี มากพอ เก็บหลักฐานการเสียภาษี ประกันสังคม แสดงที่ตั้งของที่ทำงานส่วนตัวที่ตั้งที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง รายได้ผ่านบัญชีให้ชัดเจน ไม่มีภาระหนี้ครัวเรือนที่มากเกินตัว รวมถึงหนี้ที่เกิดจากบัตรเครดิตหรือการใช้เงินอนาคต  

ผู้เขียนเคยสอบถามแม่ค้าขายส้มตำเพิงเล็กๆข้างทางในซอยลาดพร้าว 1  รวมถึงคนขายสินค้ารูปแบบ เครือข่าย เขาต้องการซื้อบ้านซื้อรถยนต์ แต่ในขณะนั้นแบงก์ไม่ปล่อยสินเชื่อสำหรับกลุ่มทำงานอิสระ

 

แม้มีรายได้เป็นกอบเป็นกำมากกว่า มนุษย์เงินเดือน สิ่งที่เขาทำได้คือ ซื้อเงินสด  แต่ยุคนี้ มีการผ่อนผันอาชีพมากขึ้นอาจเป็นเพราะคนทำงานอิสระมากขึ้นและธนาคารต้องการขยายฐานลูกค้านั่นเอง

 

สำหรับแนวทางง่ายๆในการเตรียมตัวขอกู้ซื้อบ้าน ของคนทำงานอิสระให้ผ่าน ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ธนาคารอาคารสงเคราะห์ รวบรวมข้อมูลประกอบการตัดสินใจไว้ดังนี้

 

 

1. เคลียร์เครดิตการเงินให้ดี ไม่ควรมีหนี้ ไม่ติดเครดิตบูโร

 

ต้องไม่ลืมเสมอว่า สำหรับคนทำงานอิสระแล้ว ธนาคารหรือสถาบันการเงินต่าง ๆ จะมองว่าเรา เป็นผู้มีรายได้ที่ไม่มั่นคง แม้รายได้ต่อเดือนเราจะสูง แต่ก็มีโอกาสที่บางเดือนจะพลิกเป็นต่ำ หรือบางเดือนหากไม่มีงานเข้ามาก็อาจมีรายได้เป็นศูนย์ได้ ดังนั้น ยิ่งหากเราไม่มีเครดิตทางการเงินที่ดี

 

มีหนี้ต้องผ่อนชำระต่อเดือนให้มากที่สุด  เช่น หนี้ผ่อนรถ ผ่อนโทรศัพท์มือถือ หนี้บัตรเครดิต ฯลฯ ก็ยิ่งทำให้โอกาสในการพิจารณาอนุมัติผ่านต่ำลงเท่านั้น และหากเรามีประวัติการชำระหนี้ที่ไม่ดี ค้างชำระบ่อย ติดเครดิตบูโรด้วยแล้ว

 

ยิ่งแทบจะทำให้ปิดประตูโอกาสกู้ผ่านไปได้เลย ดังนั้น หากวางแผนอยากขอกู้ซื้อบ้าน จึงจำเป็นต้องสำรวจเครดิตทางการเงินตัวเองให้ดี เคลียร์หนี้เก่าให้เรียบร้อยก่อน จึงจะมีโอกาสเพิ่มสูงขึ้นที่จะกู้ผ่านสำเร็จได้

 

2. แสดงเอกสารรายได้ และความมั่นคงรายได้ให้ชัดเจนที่สุด

 

ก่อนจะทำการขอกู้ซื้อบ้าน สำหรับอาชีพอิสระ  จำเป็นจะต้องรวบรวมเอกสารทางการเงินให้พร้อม เพื่อแสดงถึงความมั่นคงของรายได้ให้ธนาคารเห็นได้ชัดเจนมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น Statement แสดงสถานะการเดินบัญชีย้อนหลังอย่างน้อย 4-6 เดือน เพื่อให้ธนาคารเห็นว่ามีรายได้เข้าบัญชีจำนวนเท่าไร และต่อเนื่องเป็นประจำมากน้อยแค่ไหน

 

นอกจากนั้นก็ควรมีเอกสารที่แสดงถึงการเป็นผู้ชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับสถาบันทางการเงินว่าเราเสียภาษีถูกต้องครบถ้วน ตลอดไปจนถึงเอกสารอื่น ๆ อย่างเช่น ใบเสร็จรับเงิน หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย เอกสารสัญญาการว่าจ้างงานที่ทำกับบริษัทผู้ว่าจ้าง ฯลฯ

 

เอกสารเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้เราได้มากขึ้นว่า แม้จะเป็นฟรีแลนซ์ แต่ก็มีรายได้ที่มั่นคง เพียงพอที่จะสามารถผ่อนชำระค่างวดจากการขอกู้ซื้อบ้านได้

 

3. รวบรวมเงินออม และทรัพย์สินอื่น ๆ ประกอบการขอกู้

การมีเงินออม หรือมีสินทรัพย์ที่มีค่าอื่น ๆ แสดงความเป็นเจ้าของเองนั้น จะเปรียบเสมือนคนทำงานอิสระมีหลักประกันประกันว่า ถึงรายได้จะไม่มั่นคง แต่ถ้าเกิดเหตุการณ์ที่ต้องจ่ายหนี้ ก็มีเงินหรือสินทรัพย์มีค่าที่นำมาใช้คลี่คลายปัญหาหนี้ได้

 

ไม่ว่าจะเป็นสลากออมสิน หุ้น พันธบัตร ประกันชีวิต หรือแม้แต่ที่ดิน ฯลฯ เรียกได้ว่า ยิ่งเรามีเงินเก็บ เงินเย็น และมีสินทรัพย์ที่มีค่าในครอบครองมากเท่าไร ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสให้เราสามารถขอกู้ซื้อบ้านได้ผ่านง่ายมากขึ้นเท่านั้น แม้จะเป็นฟรีแลนซ์ก็ตาม

 

4. กู้ร่วมเพื่อเพิ่มโอกาสอนุมัติผ่านมากขึ้น

 

ถือเป็นกลยุทธ์ที่ทำให้อาชีพอิสระมีโอกาสเพิ่มสูงมากสำหรับการกู้ซื้อบ้านผ่าน ยิ่งถ้าคนที่จะมากู้ร่วมกับเราเป็นพนักงานประจำที่มีเงินเดือนมั่นคง มีเครดิตทางการเงินดี มีรายได้ดีด้วยแล้ว ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสกู้ผ่านได้มากขึ้น เพราะแน่นอนว่าการกู้ร่วมคือการรวมเอาสถานะการเงินของคน 2 คนไว้ด้วยกัน

 

ทำให้มีความมั่นคงทางการเงินมากขึ้น และมีโอกาสที่จะผ่อนชำระได้อย่างไม่มีปัญหา อย่างไรก็ตาม ผู้ที่จะมาขอกู้ร่วมกับเรานั้น ควรเป็นญาติ พี่น้อง หรือคนในครอบครัว หรือเป็นคู่หมั้นคู่รักที่วางแผนจะแต่งงานกัน เพื่อป้องกันการผิดใจหรือการทะเลาะเบาะแว้ง ที่อาจทำให้มีปัญหาเรื่องการกู้ร่วมในภายหลัง

 

แม้อาชีพอิสระทำให้สามารถหารายได้ได้มาก มีอิสระมีโอกาสเติบโตได้สูง แต่ธนาคารก็ยังมองว่าเป็นอาชีพที่มีรายได้ไม่มั่นคงอยู่ดี ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว ธนาคารมักจะประเมินฐานรายได้ของฟรีแลนซ์ต่ำกว่าปกติเสมอ

 

เช่นคนทำงานอาชีพอิสระที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 100,000 บาท ธนาคารอาจประเมินฐานรายได้ของเราเหลือเพียง 30-70% คือ 30,000-70,000 บาทต่อเดือนเท่านั้น จึงทำให้ยิ่งหากรายรับเฉลี่ยไม่สูง และมีหนี้ติดตัว ก็จะยิ่งถูกประเมินความสามารถในการผ่อนชำระได้ต่ำลงไปอีก อันเป็นเหตุผลที่ทำให้ฟรีแลนซ์ส่วนใหญ่กู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน

 

 

อย่างไรก็ตาม หากเคลียร์เครดิตทางการเงินได้ดี แสดงที่มารายได้ที่ชัดเจนและมีความมั่นคง มีเงินออมและสินทรัพย์อื่นซึ่งสะท้อนถึงวินัยทางการเงินที่ดี ร่วมกับมีคนกู้ร่วมด้วยแล้ว โอกาสที่จะขอกู้ซื้อบ้านผ่านได้ก็จะมีมากยิ่งขึ้น

 

ดังนั้น สำหรับอาชีพอิสระที่ปรารถนาอยากกู้ซื้อบ้านเป็นของตัวเอง การเตรียมตัว เตรียมสถานะการเงินตัวเองให้พร้อม การรวบรวมเอกสารทางการเงินและอาชีพการงานอย่างละเอียดรอบคอบ จึงเป็นสิ่งที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ และควรใช้เวลาเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่น ๆ สัก 1 ปีก่อนขอยื่นกู้ เพื่อให้มีโอกาสกู้ซื้อบ้านได้ผ่านง่ายมากที่สุดในครั้งเดียว

 

นี่คือแนวทางปฏิบัติที่ดีของคนอยากมีบ้านเป็นของตัวเองไม่ว่าอาชีพไหน แต่ทั้งนี้ วินัยการใช้ชีวิตคือสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม  !!!