ปมเปิดโอกาสชาวต่างชาติซื้อที่ดินไทยไม่เกิน 1 ไร่แลกการนำเงินลงทุนไม่น้อยกว่า 40 ล้านบาท กลายเป็นข้อครหาขายชาติ แรงกดดันทำให้รัฐบาลต้องถอนร่างกฎกระทรวง การได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างด้าวตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การลงทุน โดยการดึงดูดคนต่างด้าว ที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย พ.ศ...ออกจากวาระพิจารณาคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน
หลังอนุมัติหลักการไปเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2565 เพื่อนำกลับไปศึกษาใหม่ถึงผลดีผลเสีย เนื่องจากหลายฝ่ายมองว่ายังมีจุดอ่อนไหวพร้อมทั้งเปิดรับฟังความเห็นประชาชนในทุกภาคส่วนภายใน 15 วันก่อนนำเข้าสู่การพิจารณาครม.ว่าจะแก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกไป โดยเฉพาะปมการนำเงินเข้ามาลงทุนไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาทแลกกับซื้อที่ดินไทย
หลายฝ่ายมองว่าต่ำเกินไป และเงื่อนไขการลงทุนไม่ก่อให้เกิดการสร้างงาน การเสียภาษี ทั้งยังเสี่ยงต่อการขุดทองในไทยขนรายได้กลับประเทศไม่ต่างจากทัวร์ศูนย์เหรียญ ในขณะคนไทยจำนวนไม่น้อยยังไม่มีที่ดินทำกินที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง
ใช้กฎกระทรวงเก่า
อย่างไรก็ตามการเปิดรับฟังความเห็นประชาชน แหล่งข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาสะท้อนว่า เบื้องต้นมีข้อเสนอจำนวนมาก ผ่านเข้ามา ทั้งการเพิ่มวงเงินลงทุนสูงกว่า 40 ล้านบาท, ลดขนาดแปลงที่ดิน ต่ำกว่า 1 ไร่,กำจัดโซนพื้นที่ถือครองให้แคบลง, การให้เช่าระยะยาวเกินกว่า 30 ปี ของคนต่างชาติซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะปรับปรุงเปลี่ยนแปลง
หากไม่สามารถตกลงกันได้ จะต้องกลับไปใช้กฎกระทรวงการได้มาซึ่งที่ดินของคนต่างชาติ ปี 2545 นำเงินลงทุนไม่น้อยกว่า 40 ล้านบาทในนิคมอุตสาหกรรม แลกกับที่ดินเพื่ออยู่อาศัยไม่เกิน 1 ไร่
เช่าระยะยาว-เพิ่มวงเงิน
มุมสะท้อน นายพสุ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บริษัท พราว เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผย“ฐานเศรษฐกิจ” ตามข้อเท็จจริงมองว่า รัฐบาลควรเข้ามาดูแลโครงสร้างทางสังคม ทำให้คนในประเทศมีคุณภาพชีวิตที่ดี สนับสนุนผู้มีรายได้น้อยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ก่อนเปิดโอกาสต่างชาติที่มีอำนาจซื้อสูงกว่าเข้ามา
เมื่อพิจารณาเงินลงทุน 40 ล้านบาท ถือว่าต่ำเกินไป เฉลี่ยเพียงหนึ่งล้านดอลลาร์สหรัฐ ในทางกลับกันควรเพิ่มวงเงินให้สูงกว่า 40 ล้านบาท หรือ 100 ล้านบาทจะเหมาะสมกว่า รวมถึงการปรับโครงสร้างภาษีกฎระบบระเบียบที่จะได้จากต่างชาติ ทางออกที่ดีที่สุด ควรขยายเวลาเช่าให้ทอดยาวออกไป
สอดคล้องกับ นายภูมิพัฒน์ สินาเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พราว เรียล เอสเตท จํากัด (มหาชน) ระบุว่า สนับสนุนเปิดต่างชาติเช่าระยะยาว ส่วนข้อเสนอของสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กรณีการกำหนดรายละเอียดราคา บ้านพร้อมที่ดินในโครงการบ้านจัดสรรสำหรับคนต่างชาติ ตามข้อเท็จจริงไม่ควรระบุตายตัว เพราะราคาที่ดินปรับตัวสูงต่อเนื่อง ดังนั้นควรปล่อยให้เป็นกลไกตลาดจะเหมาะสมกว่า
ขณะบทวิเคราะห์ตอนหนึ่งของนายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ไม่คิดว่าชาวต่างชาติจะแห่กันมาซื้อบ้านและที่ดินมากอย่างที่หลายคนเป็นห่วง เพราะตั้งแต่ถูกจำกัดด้วยคน 4 กลุ่มที่เป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ ซึ่งได้แก่ผู้มีรายได้สูง คนเกษียณ ผู้เชี่ยวชาญ และผู้ที่ประสงค์พำนักเพื่อทำงาน ยังเชื่อว่าชาวต่างชาติส่วนใหญ่จะนิยมซื้อคอนโดมิเนียมหรือห้องชุดที่ประเทศไทยเปิดโอกาสให้ซื้อได้มานานแล้ว โดยจะซื้อมูลค่ากี่ร้อยล้านก็ได้โดยไม่จำกัดด้วยขนาดหรือราคาของห้องชุด เพียงแต่ต้องไม่เกิน49% ของแต่ละอาคารชุด ส่วนที่เหลือจะถือกรรมสิทธิ์โดยคนไทย 51% เหตุผลที่ชาวต่างชาติจะนิยมคอนโดฯ มากกว่าเพราะคอนโดฯ มักมีทำเลใจกลางเมืองที่เดินทางสะดวกและใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากกว่า ถ้าพิจารณาให้ถ่องแท้แล้ว
การส่งเสริมให้ชาวต่างชาติมาซื้อบ้านหรือคอนโดฯ ในประเทศไทย จะเปรียบเสมือนมาตรการยิงนกทีเดียวได้ 3 ตัวคือ 1. เป็นการส่งเสริมการส่งออกโดยสินค้านั้นยังคงอยู่ในประเทศไทย 2. เป็นการส่งเสริมการลงทุนที่เราได้เงินตราเข้าประเทศ กระตุ้นเศรษฐกิจทำให้คนไทยมีรายได้ดีขึ้น
3. เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างถาวร เพราะเขาจะอยู่นานมากขึ้นและมาบ่อยๆ ช่วงที่อยู่ก็ต้องจับจ่ายใช้สอยต่างๆ เมื่อชาวต่างชาติมาซื้อบ้านหรือคอนโดฯ แต่ละรายเทียบเท่านักท่องเที่ยวหลายร้อยคนแล้วการส่งเสริมให้อยู่ระยะยาวจะดีกว่าการส่งเสริมให้อยู่ระยะสั้นๆ หรือไม่
เช่นเดียวกับการออกมาทวิต เกี่ยวกับคนต่างชาติซื้อที่ดินของนายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ที่เห็นว่าการให้ต่างชาติเช่าระยะยาว ย่อมดีกว่าการขายขาด อย่างแน่นอน
เปิดสูตร 18 สมาคมอสังหาฯ
ขณะความเคลื่อนไหว ของ 18 สมาคมที่อยู่อาศัย ซึ่งประกอบด้วย สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย สมาคมอาคารชุดไทยสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร สมาคมหอการค้าไทย และ 14 สมาคมอสังหาฯ ภูมิภาค ที่ต้องการให้รัฐบาล เปิดโอกาสคนต่างชาติ ซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ในโครงการบ้านจัดสรรตามพระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดิน
จะช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมที่อยู่อาศัยและธุรกิจเกี่ยวเนื่อง ให้เติบโตไปพร้อมกัน ซึ่งจะเป็นเครื่องยนต์สำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไปนายมีศักดิ์ ชุนหรักษ์โชติ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทยสะท้อนว่า ต้องการให้ภาคอสังหาฯเป็นเครื่องยนต์ตัวใหม่ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ ไม่ใช่การพึ่งพาการส่งออกแต่เพียงอย่างเดียว
ล่าสุดได้มีมติ สรุปร่างหลักเกณฑ์ต่างชาติซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง เสนอต่อนายกรัฐมนตรี โดยวันที่ 10 พฤศจิกายนนี้ จะหารือตัวเลขราคาที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง สำหรับต่างชาติ ว่า มีความเหมาะสมหรือไม่
เช่น ในเขตกรุงเทพมหานคร (กทม.) และปริมณฑล เนื้อที่ไม่เกิน 50 ตารางวาราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท ภูมิภาค 50 ตารางวาไม่เกิน 3 ล้านบาท ไม่เกิน 100 ตารางวา 10 ล้านบาท ภูมิภาคไม่เกิน 100 ตารางวา ไม่เกิน 8 ล้านบาท ขณะ 1 ไร่ ราคา 100 ล้านบาท ในกทม. ภูมิภาค ราคา 30 ล้านบาทเป็นต้น
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเสริมสร้างระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนในพื้นที่ชุมชนต่างๆ และสนับสนุนให้ชาวต่างด้าวเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจ โดยอนุญาตให้ชาวต่างด้าวมีสิทธิในการขอซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างได้โดยถูกต้องตาม กฎหมาย ลดปัญหาถือครองที่ดินโดยใช้นอมินี และเรียกเก็บภาษีได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย