UPM ในเครือ พรีโม คว้า 3 ISO พร้อมเดินหน้ายกระดับงานก่อสร้าง

19 มิ.ย. 2567 | 08:43 น.
อัพเดตล่าสุด :19 มิ.ย. 2567 | 09:01 น.

ยูไนเต็ด โปรเจคต์ แมเนจเมนท์ (UPM) ในเครือ พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น (PRI) คว้า 3 มาตรฐาน ISO พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนงานก่อสร้างปลอดภัย มุ่งเติบโตอย่างยั่งยืน

นายสุรินทร์ สหชาติโภคานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรี​โม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PRI ผู้นำธุรกิจการให้บริการเกี่ยวเนื่องกับอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทยังมุ่งมั่นสร้างการเติบโตในทุกมิติตามที่ได้ประกาศเมื่อต้นปี ภายใต้แผน Elevate Your Living Experience ได้แก่ การขยายบริการใหม่ไร้รอยต่อ (Expanding Our Business Horizon), พัฒนาทักษะบุคลากร (People Development), ต่อยอดนวัตกรรมใหม่ (Enhance Innovation + Technology) และใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อม (ESG & Sustainability for Future Living) เพื่อสร้างมาตรฐานสากลและการเติบโตอย่างยั่งยืนให้องค์กรอย่างต่อเนื่อง

และล่าสุด ยูไนเต็ด โปรเจคต์ แมเนจเมนท์ (UMP) ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล 3 ระบบ ได้แก่ ISO 9001:2015 มาตรฐานบริหารงานคุณภาพ, ISO 14001:2015 มาตรฐานการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม และ ISO 45001:2018 มาตรฐานการบริหารจัดการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย สำหรับงานบริหารโครงการและบริหารงานก่อสร้าง

สุรินทร์ สหชาติโภคานันท์

“บริษัทและบริษัทในเครือต่างมุ่งมั่นทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ และยกระดับมาตรฐานการทำงานมาตลอด การได้รับใบรับรองมาตรฐาน ISO ทั้ง 3 ระบบ ถือเป็นการย้ำถึงคุณภาพการทำงานแบบครบวงจรของบริษัทและ UPM และสะท้อนถึงความเป็นมืออาชีพของทีมงานทุกคนในการส่งมอบงานและบริหารงานให้ได้มาตรฐานสากล” นายสุรินทร์ กล่าว

ด้าน ผศ.ดร.อรุณ ศิริจานุสรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร UPM กล่าวว่า หัวใจสำคัญของการบริหารงานก่อสร้างในปัจจุบัน ได้แก่ 1. การพัฒนาคุณภาพการบริหารงานอย่างต่อเนื่อง ให้สอดคล้องกับความต้องการลูกค้า ตลอดจนความเปลี่ยนแปลงทางสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคม 2. ความใส่ใจด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม ลดการใช้พลังงานอย่างสูญเปล่า และบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก 3. ความปลอดภัยและอาชีวอนามัย ใส่ใจสุขภาพและความเป็นอยู่ของพนักงาน ป้องกันการเจ็บป่วย บาดเจ็บ หรือเสียชีวิตของพนักงานจากการทำงาน

ผศ.ดร.อรุณ ศิริจานุสรณ์

"การได้รับมาตรฐาน ISO ทั้ง 3 ด้าน เป็นการยืนยันว่างานที่ UPM ส่งมอบนั้นยึดมาตรฐานเหล่านี้ ทั้งคุณภาพ สิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย พร้อมการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้งานก่อสร้างและผลงานที่ส่งมอบมีคุณภาพและได้มาตรฐานสูงสุด" ผศ.ดร.อรุณกล่าว

ในการรับรองครั้งนี้ UPM ได้รับการตรวจประเมินจาก BUREAU VERITAS ผู้นำด้านการออกใบรับรองระดับโลก โดยมีการตรวจสอบเอกสารและการปฏิบัติงานจริง รวมถึงการสัมภาษณ์พนักงาน เพื่อประเมินผลการดำเนินงานตามมาตรฐานทั้ง 3 ด้าน

ในส่วนของ ISO-9001:2015 มาตรฐานบริหารงานคุณภาพระดับสากล UMP มีการดำเนินงานสอดคล้องตามข้อกำหนดด้านคุณภาพและการจัดการภายใน การจัดการด้านเอกสาร การบริหารงานเพื่อประกันคุณภาพ ซึ่งจะทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นได้ว่ากระบวนการต่างๆ ของบริษัทฯ ได้รับการควบคุมและสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้

ISO-14001:2015 มาตรฐานการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมขององค์กร โดย UMP มีการดำเนินการทางด้านสิ่งแวดล้อมในหลายส่วน เพื่อเป็นการส่งเสริมและปลูกฝังจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมให้กับบุคลากร และมุ่งมั่นลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม โดยมีการดำเนินโครงการด้านสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง 

ISO-45001:2018 มาตรฐานการบริหารจัดการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย โดย UPM ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการส่งเสริมและปลูกฝังจิตสำนึกในการปฏิบัติงานอย่างปลอดภัย ทั้งการปฏิบัติตามกฎหมายด้านความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด การประกาศใช้คู่มือความปลอดภัยเกี่ยวกับงานก่อสร้างและการกำหนดอุปกรณ์ความปลอดภัยขั้นพื้นฐานสำหรับพนักงาน มีทีมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยออกสุ่มตรวจพื้นที่หน้างานเป็นประจำ รวมถึงการปรับปรุงพื้นที่ปฏิบัติงาน เพื่อให้บุคลากรของบริษัทฯ มีพื้นที่ทำงานที่ปลอดภัย

นอกจากนี้ UPM และ PRI ยังมีแนวทางที่จะผลักดันเรื่อง Green Construction ให้ครอบคลุมธุรกิจการบริการด้านก่อสร้างแบบครบวงจรในอนาคตอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 มีงานรับบริหารโครงการและบริหารงานก่อสร้างเพิ่มแล้วกว่า 15 โครงการ ปัจจุบัน บริษัทฯ มีการรับบริหารงานโครงการ และบริหารงานก่อสร้างทั้งภาครัฐ และเอกชนรวมกันกว่า 90 โครงการ ​​การได้รับมาตรฐาน ISO 3 ระบบในครั้งนี้ ถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพและมาตรฐานการทำงานของ UPM ซึ่งจะส่งผลให้ลูกค้ามั่นใจในผลงานและการบริการ พร้อมสนับสนุนแผนการเติบโตของ PRI อย่างยั่งยืนในอนาคต