ตลาดอสังหาริมทรัพย์ซบเซา จากปัจจัยเสี่ยงทั้งภายในและภายนอก แต่ละค่ายต่างงัดกลยุทธ์จัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดเพื่อสร้างรายได้และผลกำไร รวมถึงทยอยแจ้งผลประกอบการไตรมาส2ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
เช่นเดียวกับบริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH และ บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ หรือ QH ของนายอนันต์ อัศวโภคิน แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์ ฯก่อนใครเมื่อไม่นานมานี้ ว่า ไตรมาส 2 ปี 2567 บริษัทมีกำไรสุทธิรวมกัน 1,634ล้านบาท
ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี2566 ซึ่งเป็นลักษณะลดลงตามรายได้ชะลอตัว อย่างไรก็ตามในส่วนของ LH มีกำไรสุทธิ 1,017.02 ล้านบาท
ขณะงวดเดียวกันของปีก่อน บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 1,449.72 ล้านบาท กำไรสุทธิลดลง 432.70 ล้านบาท คิดเป็นลดลง 29.85% โดยมีรายได้จากการขายเท่ากับ 4,359.98 ล้านบาท
ขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้จากการขายเท่ากับ 5,009.98 ล้านบาท ลดลงจำนวน 650.00 ล้านบาท คิดเป็นลดลง 12.97% และ ในไตรมาสที่ 2 ปี 2567
บริษัทฯ มีอัตรากำไรขั้นต้นจากการขายเท่ากับ 25.88% ในขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อน มีอัตรากำไรขั้นต้นจากการขายเท่ากับ 29.03% อัตรากำไรขั้นต้นลดลง 3.14% ซึ่งเป็นผลมาจากยอดขายที่ลดลง
ขณะต้นทุนทางอ้อมไม่ได้ลดลงตามยอดขายที่ลดลง โดยในภาพรวม ของบริษัท ทำให้กำไรขั้นต้นของบริษัทฯ ลดลงจำนวน 325.74 ล้านบาท
ขณะ บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ หรือ QH รายได้ไตรมาส2ปี 2567 อยู่ที่ 2,442 ล้านบาท ลดลง 2% อีกทั้งส่วนแบ่งกำไรเงินลงทุนยังลดลง ส่งผลกำไรสุทธิทำได้ราว 617 ล้านบาท ลดลง 7%
นางสาวอภิญญา จารุตระกูลชัย รองกรรมการผู้จัดการ QH ระบุว่า ได้แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์ ฯกรณี กำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทใหญ่ไตรมาส 2/2567 เท่ากับ 619.99 ล้านบาท และรวม 6 เดือนแรกปี 2567 เท่ากับ 1,110.09 ล้านบาท เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ที่กำไรส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัทใหญ่ไตรมาส 2/2566 เท่ากับ 669.40 ล้านบาท และรวม 6 เดือนแรกปี 2566 เท่ากับ 1,261.81 ล้านบาท ลดลง 7.38% และ 12.02% ตามลำดับ
“ บริษัท มีรายได้รวมสำหรับไตรมาส 2/2567 และ 2566 จำนวน 2,442 ล้านบาท และ 2,499 ล้านบาท ตามลำดับ ลดลงจำนวน 57 ล้านบาท หรือลดลง 2% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และในไตรมาส 2/2567 บริษัทมีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมตามวิธีส่วนได้เสียจำนวน 422 ล้านบาทลดลงจำนวน 16 ล้านบาท หรือลดลง 4% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน”
ทั้งนี้ในไตรมาส 2/2567 บริษัทมีกำไรสุทธิลดลงจำนวน 49 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 7 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากไตรมาส 2/2567 บริษัทมีกำไรขั้นต้นจากธุรกิจขายอสังหาริมทรัพย์ลดลงจำนวน 81 ล้านบาท
สำหรับกำไรขั้นต้นจากธุรกิจโรงแรมเพิ่มขึ้นจำนวน 30 ล้านบาท กำไรขั้นต้นจากธุรกิจให้เช่าอาคารสำนักงานเพิ่มขึ้นจำนวน 5 ล้านบาท รายได้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมลดลงจำนวน 16 ล้านบาท
รายได้อื่นลดลงจำนวน 5 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลงจำนวน 1 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ลดลงจำนวน 15 ล้านบาท และต้นทุนทางการเงินลดลงจำนวน 5 ล้านบาท