จากคำแถลงนโยบายของรัฐบาลนำโดยนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่มีความมุ่งมั่นผลักดันเศรษฐกิจของประเทศไทยให้ได้เติบโต หนึ่งในนโยบายที่หยิบยกขึ้นมา และประชาชนต่างให้ความสนใจคือ การเพิ่มแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้นอย่าง สถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex)
ที่รวมถึง "กาสิโนถูกกฎหมาย" อยู่ภายในโครงการโดยคาดว่าจะเป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญในการดึงดูดนักท่องเที่ยวและรายได้เข้าสู่ประเทศ
นอกจากนี้ ยังสอดคล้องกับนโยบายที่จะนำเศรษฐกิจนอกระบบภาษี (Informal Economy) และเศรษฐกิจใต้ดิน (Underground Economy) เข้าสู่ระบบ เพื่อจัดเก็บภาษี สร้างรายได้ใหม่ให้แก่รัฐ ซึ่งคาดว่ามีมูลค่าสูงกว่า 50% ของ GDP และนำรายได้ดังกล่าวไปพัฒนาประเทศต่อไป
ขณะเดียวกันสถานที่ตั้งกาสิโนในไทยก็ยังกำลังอยู่ในระหว่างศึกษาเพื่อให้เหมาะสมต่อการกระจายตัวทางเศรษฐกิจและสอดคล้องกับการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ กล่าวว่า ทำเลส่วนใหญ่ที่คาดการณ์ไว้คือพื้นที่ คลองเตย แต่ยังคงต้องใช้เวลาในการดำเนินการช่วงระยะหนึ่ง เนื่องจากพื้นที่บริเวณนั้นเป็นชุมชนแออัด จำเป็นต้องย้ายชุมชน รวมถึงหาพื้นที่อยู่อาศัยใหม่มารองรับประชาชนที่อาศัยในชุมชน ซึ่งต้องรอติดตามว่ารัฐบาลจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
ด้านผศ.ดร. อรุณ คิริจานุสรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูไนเต็ด โปรเจคต์ แมเนจเมนท์ จำกัด หรือ UPM กล่าวว่า เท่าที่ทราบในขณะนี้ คาดว่าจะมี 3 แห่ง คือบริเวณใกล้กรุงเทพฯ พื้นที่ EEC และในภาคอีสาน
ทั้งนี้ หากนโยบาย สถานบันเทิงครบวงจร และคาสิโนถูกกฎหมายเดินหน้าตามแผนที่วางไว้ ไม่เพียงแต่ประเทศไทยจะกลายเป็นจุดหมายปลายทางใหม่สำหรับนักท่องเที่ยว แต่อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงวิถีเศรษฐกิจและสังคมให้เติบโตในระยะยาว
ผศ.ดร. อรุณ ยังกล่าวเสริมว่า ประเทศไทยยังเป็นเมืองพุทธ มีค่านิยมและวัฒนธรรมของประเทศ ซึ่งขณะนี้ยังเกิดความคิดเห็น 2 ฝ่าย ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่มองว่าหากต้องการให้ประเทศไทยก้าวหน้า เศรษฐกิจได้เติบโต นโยบายนี้อาจเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่จะทำได้
ในส่วนของข้อกังวลต่างๆ ต้องมีการควบคุมอย่างรอบคอบ หากศึกษาจากมาเก๊า ก็มีการควบคุมให้เฉพาะชาวต่างชาติเข้าไปใช้บริการ ดังนั้นจึงต้องรอติดตามกันต่อในอนาคตว่าจะเป็นอย่างไร
แม้ว่านโยบายนี้อาจเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศไทย หรือมากไปกว่านั้นอาจส่งผลดีถึงธุรกิจอื่นๆ ในภาพรวมเศรษฐกิจประเทศ
อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องรอติดตามต่อไปว่า รัฐบาลจะสามารถก้าวข้ามความท้าทายที่ตามมาในเรื่องของการจัดการความเสี่ยงจากการพนัน ที่อาจกระทบวินัยทางการเงิน รวมถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของประชาชน ที่เกิดจากค่านิยมและวัฒนธรรมไทย ด้วยการทำหน้าที่ในการออกกฎเกณฑ์เพื่อกำกับและควบคุมอย่างไรต่อไป