สมาคมอุตสากรรมก่อสร้างฯ Xสภาหอฯชงรัฐบาลแพทองธาร อุ้มรับเหมาเล็ก

05 ต.ค. 2567 | 22:14 น.

               สมาคมอุตฯ ผนึก สภาหอฯ ชงรัฐบาล ต่อลมหายใจรับเหมาเล็ก ลดดอกเบี้ย-ปล่อยกู้ยันเงินบาทแข็งค่า ผลบวกนำเข้าเครื่องจักรวัสดุ อุปกรณ์  

 

 

 จากสถานการณ์ความผันผวนของค่าเงินบาทและแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อภาคการส่งออก อุตสาหกรรม ท่องเที่ยว ตลาดอสังหาริมทรัพย์สำหรับชาวต่างชาติ แต่กลับส่งผลดีต่อการนำเข้าเครื่องจักร วัสดุอุปกรณ์ สินค้าเชื้อเพลิง ฯลฯ  อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่ากังวลมากกว่า คือ บริษัทรับเหมารายเล็กกำลังได้รับผลกระทบจาก ภาวะเศรษฐกิจการจ้างงานลดลง และความเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน

 

 นายกฤษดา จันทร์จำรัสแสง อุปนายกสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผย”ฐานเศรษฐกิจ” ว่าสมาคม ฯ มีแนวทางช่วยเหลือ บริษัทผู้รับเหมารายเล็ก หรือธุรกิจ เอสเอ็มอี ให้มีสภาพคล่องที่ดี

ล่าสุดได้ร่วมมือกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ช่วยผลักดันข้อเสนอต่อรัฐบาลแพทองธาร ให้สถาบันการเงินผ่อนคลายการปล่อยสินเชื่อ เพื่อให้ธุรกิจสามารถเดินต่อได้และเป็นหนึ่งในเฟืองจักรสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ รวมถึงการชะลอขึ้นค่าแรง

 ที่น่ากังวล สถาบันการเงินเข้มงวดปล่อยสินเชื่อส่งผลกระทบโดยเฉพาะผู้รับเหมาและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือสนับสนุนสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการ

กู้วิกฤตผู้รับเหมา

 อย่างไรก็ตาม กรณีค่าเงินบาทแข็งค่า ไม่กระทบแต่เป็นผลดีต่อการนำเข้าเครื่องจักร วัสดุอุปกรณ์ พลังงานเชิงเพลิง แต่ส่วนสงครามการสู้รบในตะวันออกกลางมองว่า กระทบต่อราคานํ้ามัน แต่ที่กระทบมากกว่าคือการปรับขึ้นค่าแรงขั้นตํ่า 400 บาทภายในปีนี้  ของรัฐบาลซึ่งจะกระทบผู้รับเหมารายใหญ่ที่มีงานในมือค่อนข้างมาก ทำให้ต้นทุนสูงขึ้น 

นางสาวลิซ่า งามตระกูลพานิช นายกสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยกับว่า กรณีที่คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.5% เป็น 4.75%-5.0%

รวมทั้งค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมการก่อสร้างหรือไม่นั้น ถึงแม้ว่าต่างประเทศมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่ประเทศไทยว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยตามหรือไม่

ทั้งนี้ต้องดูว่าสถาบันทางการเงินจะปล่อยกู้หรือปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้แก่บริษัทภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างหรืออสังหาริมทรัพย์หรือไม่ต่อให้ต่างประเทศมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยแล้ว แต่ไทยยังไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ก็ไม่มีประโยชน์

ส่วนความกังวลของเอกชนถึงกรณีดังกล่าวนั้น ปัจจุบันภาคเอกชนมีการหารือร่วมกับสมาคมฯมาโดยตลอด ซึ่งการปรับขึ้นหรือลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดไม่กระทบเท่ากับไทย ซึ่งเราต้องดูสถานการณ์ในไทยเป็นหลัก เพราะเราไม่สามารถกู้เงินนอกประเทศได้อยู่แล้ว

นอกจากนี้หากไทยมีการปรับขึ้นหรือลดอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งค่าเงินแข็งค่าหรืออ่อนค่าจะกระทบต่อการสั่งซื้ออุปกรณ์หรือจัดหาเครื่องจักรในภาคอุตสาหกรรมหรือไม่นั้น

   อาจจะมีบ้างแต่ยังไม่เกิดขึ้นในเร็วๆนี้ เนื่องจากเวลาการสั่งซื้อสิ่งเหล่านี้ส่วนใหญ่จะมีระยะเวลาดำเนินการอยู่แล้วทั้งการชำระเงินและการรับอุปกรณ์หรือเครื่องจักร นางสาวลิซ่า กล่าว

 

หน้า 20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจปีที่ 44 ฉบับที่ 4,033 วันที่ 6 - 9 ตุลาคม พ.ศ. 2567