สถานการณ์การสู้รบในตะวันออกกลางทวีความรุนแรงและขยายวงกว้าง ล่าสุดอิหร่านโจมตีอิสราเอล และแม้ว่าทางอิหร่านจะประกาศหยุดยิงขีปนาวุธ แต่ไม่มีใครคาดเดาได้ ว่าในที่สุดแล้วจะเกิดอะไรขึ้นได้อีก
ขณะยักษ์ใหญ่ ชาติอเมริกา และอังกฤษ ออกมาประณามการกระทำของอิหร่าน เพราะเบื้องหลังสนับสนุนทางฝั่งอิสราเอลอย่างชัดเจน ซึ่งแม้ว่าก่อนหน้านี้ ทางอิสราเอลเองได้ กระทำการรุนแรงต่อ อิหร่าน ไปช่วงก่อนหน้า แต่กลับไม่พบว่าทั้งสองชาติมหาอำนาจดังกล่าวจะออกมาห้ามปรามแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม การสู้รบในตะวันออกกลางเกิดขึ้นหลายคู่ สร้างความตึงเครียดสั่นสะเทือนไปทั้งโลก ซึ่งจุดชนวนมาตั้งแต่คู่ของรัสเชียกับยูเครนจนถึงเวลานี้นานกว่า3ปีขณะอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส เริ่มเปิดฉากการสู้รบมาตั้งแต่วันที่7ตุลาคมปี2566ซึ่งจะครบ1ปี
อีกชาติสำคัญที่สร้างความประหวั่นพรั่นพรึง ให้กับโลก นั่นคือ ชาติมหาอำนาจ จีนประธานาธิปดี “สีจิ้นผิง” ที่ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ได้ประกาศรวมไต้หวันให้เป็นหนึ่งเดียวกับจีน ท่ามกลางประชากรทั้งสองชาติเกรงว่าจะเกิดความรุนแรง
ข้ามฝั่งมายังประเทศไทย ที่นักวิเคราะห์หลายภาคส่วนมองว่า อาจกระทบเป็นบางธุรกิจ หากไม่มีอะไรยืดเยื้อ ในทางกลับกัน มุมสะท้อนของนาย พรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย เปิดเผย”ฐานเศรษฐกิจ”ว่า
ผลกระทบต่ออิหร่าน เปิดฉากโจมตี อิสราเอล ส่งผลต่อความอ่อนไหวต่อ ตลาดหุ้นในบ้านเรากลายเป็นสีแดงทั้งกระดาน หลังจากก่อนหน้าตลาดหุ้นเป็นบวกเขียวมานาน แต่หุ้นน้ำมัน พลังงานกลับเป็นบวกมีนักลงทุนไล่ช้อนซื้อ
ล่าสุดอิหร่านได้ประกาศหยุดยิงซึ่งมองว่าเป็นการยุติการสู้รบลงชั่วคราวและที่น่าจับตาคือ ประธานาธิบดี สีจิ้นผิงประกาศ เมื่อวันที่2ตุลาคมว่าจะรวมชาติไต้หวันเป็นเนื้อเดียวกับจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งหวั่นเกรงว่าอาจเกิดการกระทบกระทั่งกันอีกคู่
ขณะสงครามการสู้รบ ระหว่างอิหร่านกับอิสราเอลจะกระทบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และอุตสาหกรรมก่อสร้าง ของไทยมากน้อยแค่ไหนนั้น มองว่า หากไม่รุนแรง จะกระทบเพียงต้นทุนราคาน้ำมัน พลังงาน ภาคการขนส่ง
ทั้งนี้หากการสู้รบยังรุนแรงต่อเรื่อง ประเมินว่า ต้นทุนที่เกิดจากราคาน้ำมัน พลังงาน วัสดุก่อสร้าง ภาคการขนส่ง ตลาดทุน จะขยับขึ้นร้อนแรง มีผลต่อภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างและลงมาถึงต้นทุนตลาดที่อยู่อาศัย ที่ขยับสูงขึ้น ซ้ำเติมทั้งผู้ประกอบการและคนซื้อบ้าน ซึ่งเคยมีบทเรียนมาก่อนหน้านี้ช่วงสงครามรัสเซียและยูเครน
ขณะผู้ประกอบการ ไม่กล้าขยับราคาให้สูงไปมากกว่านั้นได้เพราะกำลังซื้อในประเทศมีความเปราะบางสูง ซึ่งปกติราคาเดิมแทบขายไม่ออกและถูกปฏิเสธสินเชื่อสูง หากต้องปรับราคาขึ้นตามต้นทุน จะส่งผลซ้ำเติมตลาดผู้ซื้อ และจำเป็นต้องกัดฟันแบกต้นทุนนั้นต่อไป
ด้าน นาย กฤษดา จันทร์จำรัสแสง อุปนายกสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่ากรณีการสู้รบดังกล่าว จะกระทบ แค่น้ำมัน เงินบาทแข็งค่า แต่ในภาพรวมอาจยังไม่กระทบมากนัก แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่า
และคาดการณ์ว่าจะกระทบรุนแรงมากกว่าคือการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400บาทภายในปีนี้ ซึ่งจะกระทบผู้รับเหมารายใหญ่ที่มีงานในมือค่อนข้างมาก ทำให้ต้นทุนสูงขึ้น
อีกประเด็นที่น่ากังวล สถาบันการเงินเข้มงวดปล่อยสินเชื่อส่งผลกระทบโดยเฉพาะผู้รับเหมาและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือภาคเอกชน เรื่องการสนับสนุนสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการ
ขณะ สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) คาดการณ์ว่าสงครามตะวันออกกลางน่าจะมีผลทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
อย่างไรก็ดี มองว่าราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นคงจะไม่มากเท่ากับตอนที่ธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด (FED) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องเรียนว่าปัจจัยทั้ง 2 ส่วนดังกล่าวมีผลทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลก