นางสาวรสนา โตสิตระกูล อนุกรรมการด้านบริการสาธารณะ พลังงาน และสิ่งแวดล้อม สภาผู้บริโภค โพสต์เฟสบุ๊กส่วนตัว (รสนา โตสิตระกูล ) เกี่ยวกับประเด็นเรื่องของราคาน้ำมัน ว่า
รมว.พลังงานประกาศจะรื้อทิ้งให้หมดระบบที่ทำให้ประชาชนเป็นทุกข์ กล้าคิดใหญ่แต่เรื่องเล็กไม่ทำ ปล่อยค่าการตลาดเบนซินพุ่งเกือบ 5 บาท ผู้ค้าน้ำมันลดแค่ 50 สตางค์
รมว.พลังงานพูดเท่ พูดหล่อ จะรื้อทิ้งให้หมดระบบที่ทำให้ประชาชนเป็นทุกข์ แต่ค่าการตลาดเบนซินแก๊สโซฮอล์ พุ่ง 5 บาท/ลิตร ทำราคาน้ำมันแพง ประชาชนแบกหลังแอ่น เมื่อไหร่ ท่านจะรื้อ
ค่าการตลาดที่รมว.พลังงานพรรคเดียวกันประกาศมาเป็นปีแล้ว ไม่มีผู้ค้าน้ำมันปฏิบัติสักราย แม้แต่ปตท.ที่รัฐถือหุ้นใหญ่ ยังขอความร่วมมือไม่ได้เลย ใช่ไหม
นับประสาอะไรกับราคาคุยที่จะรื้อระบบ ผู้ค้าน้ำมันคงแอบหัวเราะ ปล่อยรัฐมนตรีประธานกรรมการนโยบายพลังงาน (กบง.) คุยหล่อแบบหัวหลักหัวตอ พูดอะไรก็ทำอะไรผู้ค้าน้ำมันไม่ได้
แค่นโยบายกบง.เรื่องค่าการตลาดเบนซิน แก๊สโซฮอล์ 2บาท ผู้ค้าน้ำมันยังไม่สนทำตามเลย ค่าการตลาดเบนซิน 95 (4 ม.ค. 67) ทะลุลิตรละ 4.97 บาท และแก๊สโซฮอล์ 91ทะลุ 4.23 บาท/ลิตร
วันนี้ (5 ม.ค. 67) ผู้ค้าน้ำมันบอกว่ามีข่าวดี แต่ลดราคาให้แค่ 50 สต. ตั้งแต่รัฐบาลยอมลดภาษีเมื่อ7 พ.ย 2566 ให้ 1-2.50 บาท/ลิตร ผู้ค้าน้ำมันขยับราคาขึ้นมาแทนที่เกิน 2.50 บาทไปแล้ว
นอกจากค่าการตลาดที่เกินเกณฑ์ 2 บาท มาเท่าตัว พอเปิดปีใหม่มา ก็เพิ่มราคาเอทานอลขึ้นมาอีก 81 สต.ทั้งที่น้ำมันชีวภาพวิ่งได้น้อยกว่าน้ำมันเบนซินถึง 30% ราคาน้ำมันตลาดโลกลด
แต่เอทานอลปรับขึ้น จาก 30.29 เป็น 31.10 บาท ทำให้ราคาเอทานอลแพงกว่าเบนซินถึงลิตรละ12บาท กระทรวงพลังงานตรวจสอบบ้างไหม
การเพิ่มราคาเอทานอลต้อนรับปีใหม่ เป็นการย้ายเงินที่จะโป่งในค่าการตลาด ไปใส่ไว้ในเอทานอล ใช่หรือไม่
เอทานอลแพงกว่าเบนซินลิตรละ 12 บาท มีตรรกะอะไร ที่ต้องเติมเอทานอลให้ประชาชนแบกต้นทุนแบบนี้ ถ้าไม่ใช่การอุ้มบรรดากลุ่มทุนพลังงานสปอนเซอร์พรรคการเมือง
วาทะขึงขังของรมว.พลังงาน ราวกับสิงโตคำราม ขออย่าให้กลายเป็นแค่เขียนเสือกระดาษให้วัวกลัวก็แล้วกัน