ขยายเครือข่ายผลิตเมล็ดพันธุ์ ถั่วเขียวชัยนาท 3 หนุนความมั่นคงอาหาร

26 มิ.ย. 2566 | 00:11 น.

“ถั่วเขียวพันธุ์ชัยนาท 3” พืชสำคัญตระกูลถั่วที่มีผลผลิตสูง ตอบสนองความต้องการในประเทศ เช็คความพร้อมการพัฒนาและขยายเครือข่ายผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ สร้างความมั่นคงทางด้านอาหารให้กับประเทศไทย

ถั่วเขียว” ถือเป็นพืชตระกูลถั่วที่มีความสำคัญในระบบปลูกพืช เนื่องจากเป็นพืชอายุสั้น ใช้น้ำน้อย ทนแล้งได้ดี ซึ่งสามารถปลูกได้ในทุกสภาพพื้นที่ เหมาะสำหรับปลูกในระบบปลูกพืช เช่น ทดแทนการปลูกข้าวนาปรัง เพราะสามารถใช้ความชื้นที่เหลืออยู่ในดินภายหลังเก็บเกี่ยวพืชหลักได้โดยไม่กระทบต่อผลผลิตมากนัก 

ขณะเดียวกัน ถั่วเขียว ยังเป็นพืชเพื่อการบริโภคที่สำคัญประเภทหนึ่งของประเทศ เนื่องจากมีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตในปริมาณสูง แต่มีไขมันต่ำ ผลผลิตส่วนใหญ่นำไปใช้เพื่อการบริโภคโดยตรง และแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหารต่าง ๆ เช่น ถั่วงอก วุ้นเส้น แป้งถั่วเขียว วุ้นเส้นกึ่งสำเร็จรูป แป้งชนิดต่าง ๆ ถั่วซีก และขนมชนิดต่าง ๆ 

ข้อมูลล่าสุดในปี 2564 ประเทศไทยมีพื้นที่ปลูกถั่วเขียว 773,772 ไร่ ผลผลิตรวม 110,060 ตัน แต่มีความต้องการใช้ถั่วเขียวสูงถึง 128,608 ตัน เนื่องจากมีการขยายตัวของอุตสาหกรรมแปรรูปวุ้นเส้นซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยผลผลิตส่วนใหญ่คิดเป็น 90% ของผลผลิตถั่วเขียวทั้งหมด นำไปใช้ภายในประเทศเพื่อการบริโภคโดยตรง 

รวมทั้งแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้แก่ นำไปใช้ในอุตสาหกรรมเพาะถั่วงอก และวุ้นเส้น ใช้เพาะถั่วงอกประมาณ 70,000 ตัน ทำวุ้นเส้น ประมาณ 50,000 ตัน ทำแป้งถั่วเขียวประมาณ 20,000 ตัน ทำขนมประมาณ 30,000 ตัน ใช้บริโภค โดยตรงประมาณ 10,000 ตัน และใช้สำหรับทำเมล็ดพันธุ์ประมาณ 15,000 ตัน ที่เหลือจะส่งออกในรูปแบบต่าง ๆ

 

ภาพประกอบข่าว “ถั่วเขียวพันธุ์ชัยนาท 3” พืชสำคัญตระกูลถั่วที่มีผลผลิตสูง สร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร

ปัจจุบันผลผลิตถั่วเขียวที่ผลิตได้ในประเทศยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ รวมถึงปัญหาถั่วเขียวที่มีลักษณะสุกแก่ไม่พร้อมกัน เมื่อใช้เครื่องจักรกลในการเก็บเกี่ยวท าให้ผลผลิตที่ได้มีคุณภาพต่ำ และปัญหาเมล็ดพันธุ์ดีมีปริมาณไม่เพียงพอต่อความต้องการของเกษตรกร ทำให้เกษตรกรซื้อเมล็ดพันธุ์จากแหล่งที่ไม่มีคุณภาพ ส่งผลให้ผลผลิตต่ำ 

แนวทางแก้ไขปัญหา จึงควรพัฒนาพันธุ์ถั่วเขียวเพื่อผลผลิตและเปอร์เซ็นต์แป้งสูงมีลักษณะสุกแก่พร้อมกัน เพื่อให้เหมาะสำหรับการใช้เครื่องจักรกลในการเก็บเกี่ยว นอกจากนี้การกระจายเมล็ดพันธุ์ดีสู่เกษตรกรอย่างเพียงพอเป็นการส่งเสริมให้เกษตรกรได้ผลิตถั่วเขียวอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ผลผลิตและคุณภาพถั่วเขียวของประเทศดีขึ้น ตอบสนองต่อการใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมแปรรูปอย่างพอเพียง และเกิดความยั่งยืนในการผลิต

 

ภาพประกอบข่าว “ถั่วเขียวพันธุ์ชัยนาท 3” พืชสำคัญตระกูลถั่วที่มีผลผลิตสูง สร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร

 

พัฒนา “ถั่วเขียวพันธุ์ชัยนาท 3”

ล่าสุด นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า กรมวิชาการเกษตรได้ถ่ายทอดเทคโนโลยี การพัฒนาและขยายเครือข่ายผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ “ถั่วเขียวพันธุ์ชัยนาท 3” ภายใต้โครงการขับเคลื่อนผลงานวิจัยและนวัตกรรมสู่การใช้ประโยชน์จากผลงานวิจัยกรมวิชาการเกษตร 

ผ่านการขยายผลและสาธิตเทคโนโลยีการผลิตเมล็ดพันธุ์ถั่วเขียวที่มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานชั้นพันธุ์ของกลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ถั่วเขียวพันธุ์ชัยนาท 3 เพื่อพัฒนาและขยายเครือข่ายผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ถั่วเขียวพันธุ์ชัยนาท 3 โดยงานนี้ จัดขึ้นที่กลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่ถั่วเขียว อำเภอวังทรายพูน จังหวัดพิจิตร โดย ศูนย์วิจัยพืชไร่ชัยนาท สถาบันวิจัยพืชไร่และพืชทดแทนพลังงาน กรมวิชาการเกษตร

 

ภาพประกอบข่าว “ถั่วเขียวพันธุ์ชัยนาท 3” พืชสำคัญตระกูลถั่วที่มีผลผลิตสูง สร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร

ปลูกถั่วเขียวพันธุ์ชัยนาท 3 แล้ว 83,700 ไร่

“ถั่วเขียวพันธุ์ชัยนาท 3” มีการนำไปใช้ประโยชน์ระหว่างปี 2562-2565 ปริมาณรวม 589 ตัน ผู้ที่นำไปใช้ประโยชน์ ได้แก่ เกษตรกร กลุ่มเกษตรกร ในพื้นที่จังหวัดชัยนาท นครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี เพชรบูรณ์ พิจิตร กำแพงเพชร อุตรดิตถ์ พิษณุโลก สุโขทัย ตาก ขอนแก่น หนองบัวลำภู บุรีรัมย์ 

ส่วนทางด้านหน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ กรมส่งเสริมการเกษตร มหาวิทยาลัย โครงการตามนโยบายของรัฐบาล เช่น ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) โครงการส่งเสริมการปลูกพืชหลากหลาย (พืชหลังนา) โครงการศูนย์ผลิตเมล็ดพันธุ์พืชตระกูลถั่วชุมชน เป็นต้น  

ที่ผ่านมา สามารถนำไปปลูกได้ในพื้นที่ 83,700 ไร่ ได้ผลผลิต 11,878 ตัน สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรผู้ใช้ประโยชน์เป็นเงิน 297 ล้านบาท เมื่อนำผลผลิตแปรรูปเป็นวุ้นเส้น จะได้ผลิตภัณฑ์ประมาณ 3,600 ตัน (สัดส่วนเมล็ดถั่วเขียวต่อวุ้นเส้น เท่ากับ 10:3) คิดเป็นมูลค่า 432-648 ล้านบาท (ราคาวุ้นเส้น 120-180 บาทต่อกิโลกรัม) ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับถั่วเขียว และสร้างความมั่นคงทางด้านอาหารของประเทศไทย

 

ภาพประกอบข่าว “ถั่วเขียวพันธุ์ชัยนาท 3” พืชสำคัญตระกูลถั่วที่มีผลผลิตสูง สร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร

 

ลักษณะเด่นของถั่วเขียวพันธุ์ชัยนาท 3

ลักษณะเด่นของถั่วเขียวพันธุ์ชัยนาท 3 นี้ คือให้ผลผลิตสูงเฉลี่ย 232 กิโลกรัมต่อไร่ ขนาดเมล็ดใหญ่ โดยให้น้ำหนัก 1,000 เมล็ด 72 กรัมให้เปอร์เซ็นต์แป้ง 58.4 เปอร์เซ็นต์ และโปรตีน 24.1 เปอร์เซ็นต์ เหมาะสำหรับการเพาะถั่วงอก โดยให้น้ำหนักสดถั่วงอก 5,700 กรัม ต่อน้ำหนักเมล็ด 1,000 กรัม 

คุณภาพของถั่วงอกมีรสชาติหวาน กรอบ และไม่มีกลิ่นเหม็นเขียว เหมาะสำหรับการแปรรูปเป็นวุ้นเส้น ลักษณะวุ้นเส้นมีสีขาวใส และเหนียวนุ่ม การสุกแก่ของฝักสม่ำเสมอ ใกล้เคียงกันได้รับรางวัลผลงานวิจัยดีเด่น ปี 2564 จากสถาบันวิจัยพืชไร่และพืชทดแทนพลังงาน กรมวิชาการเกษตร

ขยายเครือข่ายผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์

ล่าสุดภายในงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยี “การพัฒนาและขยายเครือข่ายผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ถั่วเขียวพันธุ์ชัยนาท 3” มีผู้เข้าร่วมงานรวมจำนวน 100 คน ประกอบด้วยกลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่ถั่วเขียวจังหวัดพิจิตร ผู้บริหารและนักวิชาการจากกรมวิชาการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร ผู้แทนจากสหกรณ์การเกษตร ภาคเอกชน และผู้รวบรวมผลผลิตถั่วเขียว 

ภายในงานมีการสาธิตการใช้เทคโนโลยีการผลิตถั่วเขียวเพื่อเพิ่มผลผลิตและคุณภาพสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกร เทคโนโลยีการใช้สารควบคุมการเจริญเติบโตเพิ่มผลผลิตและคุณภาพเมล็ดพันธุ์ถั่วเขียวฤดูแล้งหลังนา การใช้ปุ๋ยชีวภาพไรโซเบียม ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่สามารถสร้างปมรากกับพืชตระกูลถั่ว และเจริญอยู่ภายในปมรากแบบพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน สามารถลดการใช้ปุ๋ยไนโตรเจนได้ 50-100 % 

 

ภาพประกอบข่าว การให้ความรุ้เกษตรกร ขยายผลการปลูก “ถั่วเขียวพันธุ์ชัยนาท 3”

 

โดยปัจจุบันกรมวิชาการเกษตรได้มีการพัฒนารูปแบบปุ๋ยชีวภาพไรโซเบียมชนิดเหลว ซึ่งจะช่วยให้การยึดติดกับเมล็ดพันธุ์ดีขึ้นและใช้ง่ายขึ้น เนื่องจากไม่ติดรูจานหยอดของเครื่องปลูกทำให้ใช้สะดวกมากขึ้น รวมถึงการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และข้อเสนอแนะในการพัฒนาและขยายเครือข่ายผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ถั่วเขียวพันธุ์ชัยนาท 3 ระหว่างเกษตรกร เครือข่ายเกษตรกร นักวิชาการ และผู้ประกอบการแปรรูปถั่วเขียว

ข้อมูลจาก : กรมวิชาการเกษตร