“อียู” จัดสรรงบ 739.1 ล้านยูโร หนุนโครงการขนส่งในสเปน มุ่งเป้าลดโลกร้อน

17 ส.ค. 2567 | 06:37 น.
อัพเดตล่าสุด :17 ส.ค. 2567 | 06:37 น.

สคต. ณ กรุงมาดริด ส่อง“อียู” จัดสรรงบ 739.1 ล้านยูโร หนุนโครงการขนส่งในสเปน มุ่งเป้าลดโลกร้อน ชี้เป็นโอกาสสำหรับสินค้ากลุ่มอุตสาหกรรมหนักของไทย เน้นสินค้านวัตกรรม เทคโนโลยี เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ยุโรปได้ประกาศการสนับสนุนทางการเงินครั้งใหญ่แก่โครงการขนส่งในสหภาพยุโรป (EU) โดยมีการจัดสรรเงินทุนจำนวนมหาศาลกว่า 7,000 ล้านยูโร ภายใต้โครงการ Connecting Europe Facility (CEF) เพื่อสนับสนุนโครงการขนส่งต่างๆ ที่มีเป้าหมายในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืนและทันสมัย ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศของ EU โดยสเปนได้รับเงินสนับสนุนจำนวน 739.1 ล้านยูโร เพื่อใช้ในการดำเนินโครงการขนส่งภายในประเทศและโครงการระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องในยุโรป

 

การจัดสรรเงินทุนให้กับสเปน

คณะกรรมาธิการยุโรปได้จัดสรรเงินจำนวน 739.1 ล้านยูโรสำหรับการสนับสนุนโครงการขนส่งในสเปน เงินจำนวนนี้จะใช้สำหรับการดำเนินโครงการขนส่งทั้งหมด 22 โครงการ โดยแบ่งเป็นโครงการระดับชาติ 15 โครงการ และโครงการระหว่างประเทศ 7 โครงการที่มีส่วนร่วมของหน่วยงานจากสเปน

 

วัตถุประสงค์ของเงินทุน

เงินทุนนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Connecting Europe Facility (CEF) ที่มีมูลค่ารวมกว่า 7,000 ล้านยูโร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนโครงการที่มุ่งเน้นการบรรลุเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศของสหภาพยุโรป การสนับสนุนนี้ครอบคลุมการปรับปรุงและพัฒนาเครือข่ายรถไฟ ท่าเรือในแม่น้ำ และเส้นทางทะเลในเครือข่ายการขนส่งข้ามยุโรป (TEN-T) โดย 80% ของงบประมาณทั้งหมดจะถูกจัดสรรให้กับโครงการรถไฟ

 

 

โครงการที่เกี่ยวข้องใน TEN-T ได้แก่

  • Rail Baltica: การปรับปรุงการเชื่อมต่อทางรถไฟข้ามพรมแดนในรัฐสมาชิกแถบทะเลบอลติก
  • Lyon-Turin: การเชื่อมต่อระหว่างฝรั่งเศสและอิตาลี
  • อุโมงค์ Fehmarnbelt: การเชื่อมต่อระหว่างเดนมาร์กและเยอรมนี

 

นอกจากนี้ ท่าเรือทะเลประมาณ 20 แห่ง ในประเทศต่างๆ เช่น ไอร์แลนด์ สเปน ฟินแลนด์ เนเธอร์แลนด์ เยอรมนี มอลตา ลิทัวเนีย ไซปรัส โครเอเชีย กรีซ และโปแลนด์ จะได้รับการสนับสนุนในการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งบางส่วนจะสามารถจัดหาพลังงานไฟฟ้าในท่าเรือให้กับเรือหรือการขนส่งพลังงานทดแทน

สำหรับโครงสร้างพื้นฐานทางน้ำภายในจะมีการปรับปรุงการเชื่อมต่อข้ามพรมแดนระหว่างฝรั่งเศสและเบลเยียมในแอ่งแซน-สเกลด์ และระหว่างโรมาเนียและบัลแกเรียบนแม่น้ำดานูบ ท่าเรือภายในประเทศของออสเตรีย เยอรมนี และเนเธอร์แลนด์จะได้รับการสนับสนุนเพื่อส่งเสริมเครือข่ายแม่น้ำและคลองในยุโรปสำหรับการขนส่งที่ยั่งยืน ในส่วนของการขนส่งทางถนน จะมีการพัฒนาระบบการขนส่งอัจฉริยะร่วมกันและบริการ รวมถึงการสร้างพื้นที่จอดรถที่ปลอดภัยเพื่อเพิ่มความปลอดภัย

 

 

การบริหารจัดการและการคัดเลือกโครงการ

หลังจากการอนุมัติรายชื่อโครงการทั้ง 134 โครงการโดยประเทศสมาชิก คณะกรรมาธิการยุโรปจะยอมรับการตัดสินใจในการจัดสรรเงินทุนอย่างเป็นทางการ และหน่วยงานบริหารการจัดการสิ่งแวดล้อม โครงสร้างพื้นฐาน และภูมิอากาศของยุโรป (CINEA) จะเริ่มกระบวนการเตรียมข้อตกลงการให้ทุน โครงการเหล่านี้ได้รับการคัดเลือกจากการเสนอขอทั้งหมด 408 โครงการที่ยื่นในคำขอข้อเสนอซึ่งสิ้นสุดในวันที่ 18 มกราคม 2024 เงินทุนจากสหภาพยุโรปจะมาในรูปแบบของเงินสนับสนุนซึ่งจะใช้ร่วมกับการจัดสรรงบประมาณของโครงการ

 

ผลกระทบของกฎระเบียบ TEN-T ใหม่

ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม กฎระเบียบ TEN-T ที่ปรับปรุงใหม่จะช่วยพัฒนาเครือข่ายการขนส่งในสหภาพยุโรปให้มีความยั่งยืนและยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมการขนส่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ และการผสมผสานการขนส่งหลายรูปแบบ พร้อมทั้งเตรียมพร้อมรับมือกับปัญหาสภาพภูมิอากาศและความต้องการทางทหาร

เปิดคำแถลงจากคณะกรรมาธิการ วอปเค โฮคสตรา (Wopke Hoekstra) คณะกรรมาธิการด้านการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศและรับผิดชอบด้านการขนส่ง กล่าวว่า โครงการที่ได้รับการคัดเลือกจะมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงเครือข่ายการขนส่งของยุโรป ทำให้รูปแบบการขนส่งที่สะอาดขึ้นมีประสิทธิภาพมากขึ้นและน่าสนใจยิ่งขึ้นสำหรับทั้งผู้โดยสารและสินค้าพร้อมทั้งเพิ่มความปลอดภัยในเส้นทาง TEN-T นอกจากนี้ วอปเคยังกล่าวเน้นถึงความสำคัญของการรวมยูเครนและมอลโดวาเข้าสู่สหภาพยุโรปผ่านโครงการขนส่งต่างๆ ที่ได้รับการสนับสนุนในครั้งนี้

สคต. ณ กรุงมาดริด ได้ให้ข้อคิดเห็นสำหรับการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ในสเปนและในสหภาพยุโรปเป็นโอกาสสำหรับสินค้ากลุ่มอุตสาหกรรมหนักของไทยซึ่งมีจุดแข็งทั้งด้านคุณภาพและราคาที่สมเหตุสมผล การเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในสเปนเป็นวิธีการเข้าตลาดที่ดีเนื่องจากผู้ประกอบการสเปนนิยมพูดคุยต่อหน้า สัมผัส มองเห็นสินค้า ด้วยตนเองมากกว่าการนำเสนอผ่านทางออนไลน์ ทั้งนี้ ควรมุ่งเน้นสินค้าที่มีนวัตกรรม เทคโนโลยี เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตลอดกระบวนการ เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายของสหภาพยุโรป

ในขณะเดียวกัน สคต. เห็นว่าโครงการพัฒนาความเชื่อมโยงทางรางรถไฟ จะเป็นทางเลือกใหม่สำหรับการกระจายสินค้าไทยในสเปน โดยอาจนำมาซึ่งเส้นทางโลจิสติกส์ใหม่ๆ หรือต้นทุนที่ต่ำลง อาทิ นำสินค้าเข้าที่ท่าเรือทางใต้ของประเทศสเปนก่อนขนส่งต่อทางรางต่อไปยังจุดกระจายสินค้าหลักทั่วประเทศ ซึ่ง สคต. จะติดตามโครงการพัฒนาเส้นทางโลจิสติกส์ อย่างใกล้ชิดเพื่อรายงานข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ประกอบการโลจิสติกส์ไทยต่อไป