AIS ชี้สร้าง”สมาร์ทซิตี้”ให้สำเร็จต้องตอบโจทย์ความต้องการประชาชน

20 พ.ย. 2566 | 06:25 น.
อัปเดตล่าสุด :20 พ.ย. 2566 | 06:34 น.

AIS เดินหน้าวางโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ดีที่สุด ชี้สร้างสมาร์ทซิตี้ให้สำเร็จ ต้องตอบโจทย์ความต้องการประชาชน ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ต้องเข้ามามีส่วนร่วม ระบุเมืองจะสมาร์ทถ้าการใช้เทคโนโลยีทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้น

นายวสิษฐ์ วัฒนศัพท์ หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการและสนับสนุนด้านเทคนิค บริษัท แอดวานซ์ อิน โฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)  หรือ   AIS กล่าวในเวทีสัมมนานโยบายผลักดันไทยสู่ สมาร์ทซิตี้   งาน  PostToday Thailand Smart City 2024 ว่าการพัฒนาเมืองให้เข้าสู่สมาร์ทซิตี้มีพัฒนาการขึ้นมาต่อเนื่อง ตั้งแต่ สมาร์ทซิตี้ 1.0 ซึ่งเป็นการนำเซนเซอร์ และ IoT ไปติดตามสถานที่ต่างๆ เพื่อเก็บข้อมูลเพื่อให้ได้ดาต้ามาประกอบการตัดสินใจอย่างแม่นยำมากขึ้น ต่อจากนั้นจึงการพัฒนาขึ้นไปอีกโดยเอาระบบทั้ง 2 ไปผนวกกับผู้คนอย่างเช่น การติดตั้งในระบบมือถือ ต่อมาจึงเข้าสู่การสร้างข้อมูลของเมืองโดยเมืองเป็นเจ้าของข้อมูลและเปิดให้เอกชนเข้าไปใช้เพื่อปรับปรุงและพัฒนาเมือง

AIS ชี้สร้าง”สมาร์ทซิตี้”ให้สำเร็จต้องตอบโจทย์ความต้องการประชาชน

‘การทำให้เมืองมีความสมาร์ทขึ้น วัตถุประสงค์ต้องมุ่งไปที่การทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น โดยการปรับปรุงความเป็นอยู่ของเมือง เพื่อตอบโจทย์ด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และคนในชุมชน’

ทั้งนี้ AIS  มองว่าทิศทางการสร้างสมาร์ทซิตี้ในปัจจุบันคือการสร้าง สมาร์ทซิตี้ แพลตฟอร์ม  โดยดูว่าข้อมูลที่เก็บมานั้นสามารถนำไปใช้ทำอะไรได้ เมืองมีปัญหาอะไรบ้าง ก็ทำโครงการเป็นเรื่องๆ ไป เช่น ปัญหาจราจร ปัญหาขยะ   แต่การแก้ไขปัญหาดังกล่าว เป็นการแก้ไขปัญหาเป็นเรื่องๆ ไป ซึ่งเป็นการสร้างผลกระทบในระดับกลางไปจนถึงเล็กเท่านั้น

‘เมื่อต้นปีผมได้ไปที่สภาเมืองที่นิวยอร์ก ก็พบว่าสภาเมืองพบปัญหาเรื่อง โครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล (Digital Infrastructure) แม้จะมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลที่เมืองแมนฮัดตัน แต่ทันทีที่โควิดมามีความต้องการเข้าถึงพื้นที่ดิจิทัลมากขึ้นในส่วนอื่น เมืองจึงออกกติกาว่าหากเอกชนจะติดตั้งโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลในบริเวณเศรษฐกิจ จำเป็นต้องไปติดตั้งที่บริเวณอื่นซึ่งต้องการด้วย’

สำหรับวิสัยทัศน์ของ  AIS คือการทำ โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ดีที่สุด  (Best Digital Infrastructure ) เหมือนการสร้างสาธารณูปโภค เช่น น้ำ และ ไฟ โดย AIS เริ่มต้นจากการวางโครงข่ายอินเตอร์เน็ตในพื้นที่ภูเขาจังหวัดเชียงราย พบว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นที่นั่นอย่างชัดเจน เมื่อผู้คนเข้าถึงสัญญาณอินเตอร์เน็ต ทั้งการเรียนของเด็ก ทำให้เด็กสามารถพัฒนาตัวเอง รวมไปถึงทำให้ครอบครัวสามารถติดต่อกันได้แม้จะอยู่ในพื้นที่ห่างไกล

นอกจากนี้แม้การวางโครงสร้างพื้นฐานจะเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องใช้งบประมาณมาก แต่เมื่อมองนโยบายของภาครัฐในปัจจุบันก็คิดว่าดำเนินไปในทิศทางเดียวกันและสามารถช่วยกันทำสิ่งนี้ได้ และองค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้เกิดขึ้นได้ต้องประกอบด้วย 3 ส่วนสำคัญคือ ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม

“การสร้างสมาร์ทซิตี้ให้สำเร็จได้ ต้องมีภาพว่าในอนาคตอยากให้เมืองพัฒนาและมีรูปร่างอย่างไร และควรเริ่มทำตั้งแต่วันนี้ ส่วนที่สำคัญคือต้องให้ความต้องการของประชาชนเป็นส่วนสำคัญ แล้วจึงนำเอาเทคโนโลยีทั้งระบบ IoT หรือเซ็นเซอร์ เข้าไปแก้ไขปัญหาและสร้างเมืองตามความต้องการดังกล่าว   เมืองไม่ได้สมาร์ทเพราะเทคโนโลยี แต่เมืองจะสมาร์ทถ้าการใช้เทคโนโลยีนั้นทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้น’