(9 ส.ค. 66) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวยอมรับว่า ได้ขอความร่วมมือจากกลุ่ม ส.ส.ในหลายพรรรค เพื่อให้มาโหวตสนับสนุนแคนดิเดทของพรรคเพื่อไทย "นายเศรษฐา ทวีสิน" ให้เป็นนายกรัฐมนตรี หากเห็นว่าเป็นประโยชน์กับบ้านเมืองในการผ่าวิกฤตทางตันของประเทศ
ซึ่งขณะนี้เบื้องต้นได้รวมเสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร แต่ยังต้องการเพิ่ม เพื่อจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก และมีเสถียรภาพ โดยคาดว่าจะสามารถสรุปจำนวนเสียงสนับสนุนจาก ส.ส.ทั้งหมดได้ภายในสัปดาห์นี้
ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคพลังประชารัฐ จะมาร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น ในเรื่องนี้ยังไม่ได้หารือกัน แต่เราแสวงหาความร่วมมือจากทุกฝ่าย ในการโหวตนายกรัฐมนตรี โดยถือเป็นเอกสิทธิ์ที่ทุกฝ่ายตัดสินใจได้
ขณะที่ พรรคก้าวไกล มีข้อจำกัดในการร่วมรัฐบาล เราพยายามแสวงหาเสียงสนับสนุนให้มากที่สุด แต่เคารพเอกสิทธิ์จากพรรคก้าวไกล และยินดีกับพรรคก้าวไกลถ้าจะมาร่วมถือเป็นมิติใหม่
ส่วนกรณีที่ สมาชิกวุฒิสภา หรือ ส.ว. เกิดความไม่สบายใจหากพรรคก้าวไกลจะยกมือ โหวตนายกรัฐมนตรีนั้น นพ.ชลน่าน ระบุว่า เรามั่นใจว่า แนวทางที่ทำไม่ได้เป็นเงื่อนไขที่ทำให้ ส.ว.กังวล
เพราะทางพรรคเพื่อไทยไม่ได้จัดตั้งรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล ถ้าทำงานร่วมกันก็ต่างสถานะ คือ ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ส่วนการแก้ไข ม.112 ไม่มีในแนวทางที่ดำเนินการ และเชื่อว่า ส.ว.จะให้เสียงสนับสนุนเราได้
อย่างไรก็ตามแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ยังคงเป็น นายเศรษฐา ทวีสิน และมั่นใจว่าการเสนอชื่อจะผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา
ด้านนายภูมิธรรม เวชชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าว นายจาตุรนต์ ฉายแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พร้อมนำ ส.ส. 24 คนย้ายไปอยู่กับพรรคก้าวไกลว่า ในที่ประชุมพรรคที่ผ่านมา นายจาตุรนต์ ยังร่วมสนับสนุนแนวทางนี้
ส่วนกระแสข่าวที่ออกมานั้น ก็ควรไปสอบถามจาก นายจาตุรนต์ โดยตรง ซึ่งที่ประชุมพรรคมีเสียงสะท้อนที่มีปัญหามีเสียงสองเสียงเท่านั้น และตนเข้าใจความเจ็บปวด แต่เราไม่อยากเดินไปสู่จุดนี้ แต่เราพยายามทำเพื่อหาทางออกให้กับประเทศ