ชื่อของ “มหาธีร์ โมฮัมหมัด” เป็นข่าวใหญ่หน้าการเมืองของมาเลเซียอีกครั้ง หลังจากยื่นลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีช่วงบ่ายวันที่ 24 ก.พ. 63 (อ่านรายละเอียด : ฮือ "มหาธีร์" ลาออก นายกฯมาเลย์ )
นั่นเท่ากับว่าการคัมแบ็กอย่างยิ่งใหญ่ของมหาธีร์วัย 94 ปี นับตั้งแต่จบศึกเลือกตั้งมาเลเซียปี 2561 วันที่เริ่มดำรงตำแหน่ง 10 พ.ค. 61 รวมระยะเวลาในการดำรงตำแหน่ง 649 วัน หลังคว่ำ “นาจิบ ราซัก” อย่างราบคาบ
ย้อนรอยไปก่อนที่มหาธีร์จะหวนกลับนั่งตำแหน่งผู้นำของมาเลเซียได้นาน 649 วันนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเมื่อครั้งการเลือกตั้งครั้งปี 2561 มหาธีร์ในวัย 92 ปี กลายเป็น “ขิงแก่” ที่กลับมาสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับการเมืองมาเลเซียอีกครั้ง ด้วยการนำพรรคฝ่ายค้านคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปเหนือพรรครัฐบาล ของนายนาจิบอย่างถล่มทลาย
ผลอย่างเป็นทางการจากคณะกรรมการเลือกตั้งมาเลเซียปรากฎว่า พันธมิตรฝ่ายค้านมาเลเซีย หรือ ปากาตัน ฮาราปัน (PH) ครั้งประวัติศาสตร์ในการเลือกตั้งทั่วไป เป็นการโค่นล้มพรรคบาริซัน เนชั่นแนล หรือ BN ซึ่งครองเสียงข้างมากในสภามาโดยตลอดเกือบ 60 ปี นับตั้งแต่ที่มาเลเซียได้รับเอกราชจากอังกฤษ
โดยแนวร่วมฝ่ายค้านในนามปากาตัน ฮาราปัน รวมกับพรรคการเมืองหนึ่งในรัฐซาบาห์ บนเกาะบอร์เนียวซึ่งเป็นพันธมิตรกัน ได้รับที่นั่งในสภารวมทั้งสิ้น 115 ที่นั่ง เกินกว่าเสียงข้างมากในสภา 112 ที่นั่งที่จำเป็นต้องได้รับเพื่อจัดตั้งรัฐบาล
ดร.มหาธีร์ แถลงข่าวหลังการทราบผลการนับคะแนนว่า การเข้ามาจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ ต้องการแก้ไข ไม่แก้แค้น เพื่อหวังกอบกู้หลักนิติรัฐของมาเลเซีย ทั้งนี้สำหรับคดีอื้อฉาวของนายนาจิบ ราซัก มีขึ้นหลังจากที่ถูกกล่าวหาว่า ยักยอกเงินการลงทุนแห่งชาติ หรือ 1MDB ที่รัฐบาลของเขาตั้งขึ้นเองเป็นจำนวน 700 ล้านเหรียญเข้ากระเป๋าตัวเอง
สำหรับดร.มหาธีร์ เคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาเลเซียยาวนานถึง 22 ปี ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1981 - 2003 ได้ประกาศแยกทางกับ BN เมื่อปี 2016 ด้วยเหตุผลไม่อยากอยู่กับพรรคที่สนับสนุนการคอร์รัปชันและหันมาโจมตีนายนาจิบที่เคยเป็น "ลูกรักเก่า"
มหาธีร์ได้หันไปจับมือกับพรรคแนวร่วมฝ่ายค้าน ที่นำโดย “นายอันวาร์ อิบราฮิม” ซึ่งก็เคยเป็นอดีตคู่แค้น ของเขาเอง และเคยถูกจำคุกด้วยข้อหาคดีรักร่วมเพศ ซึ่งเจ้าตัวปฏิเสธและระบุเป็นคดีการเมือง ดูเหมือนการหันมาคืนดีกับของมหาธีร์กับนายอันวาร์ในครั้งนั้นทำให้สังคมเชื่อว่า “ความบาดหมาง” ของทั้งสองที่มีมานานกว่า 20 ปี สิ้นสุดลงได้จริง
และตอนนั้นเกจิและกูรูการเมืองมาเลเซียฟันธงว่า มหาธีร์นั่งเก้าอี้ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีรอบนี้ได้ไม่เกิน 2 ปี แล้วเชื่อว่าจะส่งต่ออำนาจให้กับนายอันวาร์ อิบบราฮิม