องค์การตำรวจสากล หรือ อินเตอร์โพล เปิดเผยวานนี้ (20 มี.ค.) ว่า มีผู้กระทำผิดจำนวนมากในคดีที่เกี่ยวข้องกับการหาผลประโยชน์จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ “โควิด-19” ทั้งนี้ อินเตอร์โพลได้ทำการจับกุมผู้กระทำผิดแล้วจำนวน 121 รายจาก 90 ประเทศทั่วโลก ในคดีแสวงประโยชน์อย่างผิดกฎหมายจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส เช่นการผลิตหน้ากากอนามัยปลอมหรือต่ำกว่ามาตรฐานมาหลอกจำหน่ายประชาชน เนื่องจากตลาดมีความต้องการสินค้าเหล่านี้สูงทำให้ผู้กระทำผิดเหล่านี้ฉกฉวยโอกาสผลิตสินค้าปลอมออกจำหน่าย นอกจากหน้ากากอนามัยแล้วยังมีเจลล้างมือปลอม รวมทั้งยาที่ผู้ขายแอบอ้างว่ามีคุณสมบัติในการป้องกันรักษาโควิด-19 ด้วย
แถลงการณ์ของนายเยอร์เก็น ชต็อค เลขาธิการใหญ่องค์การตำรวจสากล ระบุว่า ปฏิบัติการที่มีชื่อว่า โอเปอเรชั่น แพนเจีย (Operation Pangea) ทำให้เห็นอีกครั้งหนึ่งว่า ไม่มีอะไรจะสามารถหยุดยั้งผู้กระทำผิดจากการแสวงหาผลประโยชน์เอากำไร “การจำหน่ายอุปกรณ์การแพทย์ปลอม สินค้าปลอม ในยามที่โลกกำลังประสบวิกฤติด้านสาธารณสุข แสดงให้เห็นว่าคนจำพวกนี้ไม่ได้คำนึงถึงชีวิตและสุขภาพอนามัยของใครๆเลย”
ปฏิบัติการของอินเตอร์โพลพบว่า มีลิ้งค์ที่จำหน่ายสินค้าออนไลน์ 2,000 ลิ้งค์ด้วยกันที่โฆษณาสินค้าประเภทต่างๆที่มีความเกี่ยวเนื่องกับไวรัสโควิด-19 และหน้ากากอนามัยปลอมก็เป็นเครื่องใช้ทางการแพทย์ที่มีการจำหน่ายทางออนไลน์มากที่สุด
“โอเปอเรชั่น แพนเจีย” ของอินเตอร์โพลเกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลกตั้งแต่วันที่ 3-10 มีนาคมที่ผ่านมา มีการเข้าบุกตรวจแหล่งต่างๆที่ต้องสงสัยมากกว่า 326,000 ครั้งใน 90 ประเทศ และมีการจับกุมผู้กระทำผิดจำนวนทั้งสิ้น 121 ราย รวมทั้งการยึดของกลางมูลค่ารวมกันกว่า 14 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 448 ล้านบาท ซึ่งมีตั้งแต่เจลล้างมือด้อยคุณภาพไปจนถึงยาต้านไวรัสที่ไม่ได้รับการรับรองมาตรฐาน และยาที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพประชาชน การกวาดล้างและจับกุมดังกล่าวส่งผลให้มีการสั่งปิดลิ้งค์บนอินเตอร์เน็ตจำนวนมากกว่า 2,500 ลิ้งค์ ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่เว็บไซต์ เพจร้านค้าออนไลน์ และเพจต่างๆในสื่อโซเชียลมีเดีย นอกจากนี้ อินเตอร์โพลยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบอีกราว 2,500 ลิ้งค์