การท่องเที่ยวยามราตรี หลากหลายรูปแบบของเมืองลั่วหยาง ในมณฑลเหอหนาน ทางตอนกลางของประเทศจีน เป็นหนึ่งในตัวอย่างของแนวคิด “เศรษฐกิจยามราตรี” ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นถ้ำผาหลงเหมินที่ประดับแสงไฟสุดอลังการ หรือเมืองโบราณลั่วอี้ที่มีการจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรม ทั้งผลิตภัณฑ์ศิลปะ การแสดง และการละเล่นแบบดั้งเดิม ซึ่งล้วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของนครโบราณแห่งนี้
"แสงสีราตรีดันท่องเที่ยวเมืองลั่วหยาง”
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า แนวคิดการกระตุ้น “เศรษฐกิจกลางคืน” ซึ่งไม่ได้หมายถึงเพียงการเที่ยวสถานบันเทิง ไนต์คลับ ผับ บาร์ ยามวิกาล หากแต่เป็นแนวคิดด้านการท่องเที่ยวที่ผนวกทั้งศิลปะ วัฒนธรรมท้องถิ่น และการกีฬา เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อเกื้อหนุนการบริโภคในท้องถิ่นนั้น กำลังผุดสะพรั่งในหลายพื้นที่ของประเทศจีน รวมทั้งที่เมือง “ลั่วหยาง” ซึ่งเป็นเมืองที่อุดมด้วยทรัพยากรการท่องเที่ยว ตั้งอยู่ในมณฑลเหอหนานทางตอนกลางของประเทศ เมื่อไม่กี่เดือนมานี้ เมืองลั่วหยางได้เปิดตัวกิจกรรม “เศรษฐกิจกลางคืน 2 ทุ่ม” เพื่อช่วยกระตุ้นและกระจายตลาดผู้บริโภคยามราตรี ซึ่งก็มีเสียงต้อนรับเป็นอย่างดี โดยเมื่อถึงเวลา 20.00 น. ของแต่ละวัน จะมีการแสดงแสงสีเสียง 3 มิติสุดตระการตาตามจุดชมวิวต่าง ๆ ของเมือง สร้างสรรค์แลนด์มาร์กใหม่ ๆสำหรับเศรษฐกิจกลางคืน ให้กับเมืองลั่วหยาง
หลักเกณฑ์ 5 ข้อสร้างแม่เหล็กดึงดูด
เช่นเดียวกับที่มณฑลเจียงซู ทางภาคตะวันออกของจีน ซึ่งผุดแนวทางใหม่กระตุ้นเศรษฐกิจยามราตรี โดยเมื่อเร็ว ๆนี้ หน่วยงานวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวประจำมณฑลเจียงซู ทางตะวันออกของจีน ได้ประกาศแนวทางใหม่ในการสร้างย่านการค้ายามค่ำคืนในเชิงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว เป็นแม่เหล็กดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย
ย่านการค้าดังกล่าวหมายถึงกลุ่มอุตสาหกรรมที่ผสมผสานวัฒนธรรมท้องถิ่นที่โดดเด่นและการท่องเที่ยวยามค่ำคืนเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มการบริโภคด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย โครงสร้างพื้นฐานที่ดี และแบรนด์ที่ทรงอิทธิพล
แนวทางนี้กล่าวถึงหลักเกณฑ์ 5 ข้อในการสร้างย่านการค้า ได้แก่
ตั้งแต่เริ่มต้นปี 2563 เป็นต้นมา มณฑลเจียงซูพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจยามราตรีท่ามกลางการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างมีประสิทธิภาพมาโดยตลอด ทางมณฑลมีแผนจะสร้างย่านการค้ายามค่ำคืนระดับมณฑลกว่า 30 แห่ง และย่านการค้ายามค่ำคืนระดับประเทศกว่า 10 แห่งภายในปีนี้
รายงานจากบริษัทไชน่า ยูเนียนเพย์ เผยว่า การบริโภควัฒนธรรมและการท่องเที่ยวยามค่ำคืนของจีนมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งมาตั้งแต่ปีที่ผ่านมา (2562) โดยการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวที่ใช้ในเวลากลางคืนโดยรวมคิดเป็นสัดส่วน 28.6% ของการใช้จ่ายทั้งหมด
"โจวซาน” ชูเศรษฐกิจยามค่ำคืนบนชายหาด
ตั้งแต่เดือนก.ค. เป็นต้นมา เขตท่องเที่ยวจูเจียเจียน ซึ่งตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลจีนตะวันออก ในเมืองโจวซาน มณฑลเจ้อเจียงทางตะวันออกของประเทศจีน ได้ยกระดับการจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวยามราตรีบนชายหาด ซึ่งถือเป็นจุดดึงดูดที่แตกต่างออกไป อาทิ กิจกรรมว่ายน้ำตอนกลางคืน การแสดงแสงสีของประติมากรรมทราย สถานีดนตรี การชมภาพยนตร์กลางแจ้ง และบาร์ที่ทำจากทราย เป็นต้น ทำให้เศรษฐกิจบนชายหาดยามค่ำคืน ได้กลายเป็นจุดขายอย่างหนึ่งสำหรับการส่งเสริมการท่องเที่ยวในท้องถิ่น
สร้างความแตกต่าง-ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์
เพื่อสร้างแรงดึงดูดที่ยั่งยืน กิจกรรมของเศรษฐกิจยามราตรีจึงไม่ได้มีเพียงความแปลกใหม่ที่กระตุ้นความสนใจ แต่ยังต้องตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้คนในพื้นที่รวมทั้งนักท่องเที่ยวที่มาเยือนด้วย ยกตัวอย่างกิจกรรมในเมืองหยินชวน ในเขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุย ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ที่นี่มีกิจกรรมถูกใจสายฟิต ที่อาจจะไม่ค่อยมีเวลาในช่วงกลางวัน เมืองหยินเปิดสนามกีฬา ชวนคนเหล่านี้มาออกกำลังเมื่อดวงตะวันลับขอบฟ้าไปแล้ว
เมื่อย่างเข้าสู่ยามราตรีของทุกวัน สนามกีฬากลางแจ้งแต่ละแห่งในเมืองหยินชวน ก็จะทยอยเปิดไฟฟ้าส่องสว่าง ขับให้เมืองแห่งนี้สว่างไสวเรืองรองขึ้นมาราวกับจะไม่มีเวลาหลับไหล สนามกีฬาและอุปกรณ์ออกกำลังกายต่าง ๆ เปิดให้บริการแก่ชาวเมืองสายฟิตทั้งหลายได้มาออกกำลังเสียเหงื่อ สนุกสนานไปกับการเล่นกีฬาได้ในยามค่ำคืน
ข้อมูลระบุว่า กิจกรรมเปิดสนามและลานกีฬายามค่ำคืน ทำให้ปัจจุบัน เมืองหยินชวนมีประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมการออกกำลังกายแล้ว 9.93 แสนคน โดยมีสถานที่ออกกำลังกายสาธารณะรวมถึงลานกีฬาของโรงเรียนกว่า 1,600 แห่ง ทำให้เมืองหยินชวนมีพื้นที่ออกกำลังกายโดยเฉลี่ยต่อประชากรประมาณ 2.88 ตารางเมตร/คน นอกจากได้กระตุ้นกิจกรรมและเศรษฐกิจยามราตรีแล้ว ยังได้ของแถมเป็นสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และกิจกรรมการกีฬาที่ไม่ถูกจำกัดด้วยกรอบของเวลาอีกต่อไป
ที่มา สำนักข่าวซินหัว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จีนฟื้นฟูเศรษฐกิจสำเร็จประเทศแรกหลังโควิด-19
ข่าวดีเศรษฐกิจจีนฟื้นต่อเนื่อง ฉุดส่งออกไทย มิ.ย.โต 12%